เอเอฟพี - เกาหลีใต้กำลังใช้ลำโพงขนาดใหญ่แพร่กระจายข่าวการลอบสังหารพี่ชายต่างมารดาของผู้นำเกาหลีเหนือ “คิม จองอึน” ข้ามชายแดนติดประเทศเพื่อนบ้านทางเหนือ รายงานระบุในวันนี้ (23 ก.พ.)
คิม จองนัม บุตรชายคนโตของอดีตผู้นำเกาหลีเหนือ คิม จองอิล เสียชีวิตเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ หลังจากถูกผู้หญิงสองคนโจมตีที่สนามบินกัวลาลัมเปอร์ เหตุการณ์ซึ่งถูกสงสัยว่าเป็นการฆาตกรรมที่วางแผนโดยเปียงยาง
สื่อทางการเกาหลีเหนือไม่เคยพูดถึงการสังหารดังกล่าวจนกระทั่งพวกเขาออกมาประณามการสืบสวนของมาเลเซียในวันนี้ (23) โดยไม่ได้ระบุชื่อ คิม จองนัม ในฐานะเหยื่อ
อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์นี้เกาหลีใต้ได้ใช้ชุดลำโพงขนาดใหญ่เผยแพร่รายละเอียดการเสียชีวิตของ คิม จองนัม ซึ่งเคยถูกเชื่อว่าจะเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำ ดังสนั่นตลอดแนวพื้นที่ชายแดนอันกว้างขวาง สถานีโทรทัศน์เอ็มบีซีทีวี ของโซลรายงาน
“คิม จองนัม เสียชีวิตหลังจากถูกหญิงนิรนาม 2 คนโจมตีที่สนามบินนานาชาติกัวลาลัมเปอร์” ข้อความจากลำโพงระบุ และถูกเอ็มบีซีทีวีเปิดซ้ำ
“ทางการมาเลเซียระบุว่า ผู้ต้องสงสัย 4 คนเป็นชาวเกาหลีเหนือ หนึ่งในนั้นถูกจับกุมแล้ว” ข้อความระบุ
ข่าวจากโลกภายนอกถูกควบคุมและเซ็นเซอร์อย่างเข้มงวดในเกาหลีเหนือภายใต้ตระกูลคิมซึ่งปกครองด้วยกำปั้นเหล็กและลัทธิบูชาบุคคลมานานหลายทศวรรษ
เป็นเวลาหลายปีแล้วที่กองทัพเกาหลีใต้เผยแพร่ข่าวทั่วโลก ข้อความโฆษณาชวนเชื่อ และเพลงเค-ป๊อบข้ามชายแดนโดยใช้ลำโพงหลายสิบตัวซึ่งมีเป้าหมายเพื่อให้เหล่าทหารในรัฐสันโดษแห่งนี้ได้ยิน ลำโพงเหล่านี้กระจายเสียงได้ไกลประมาณ 10 กิโลเมตร
กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ปฏิเสธที่จะยืนยันรายงานเกี่ยวกับการกระจายเสียงครั้งล่าสุดนี้ โดยอ้างความกังวลด้านความมั่นคงแห่งชาติ
ในวันนี้ (23) สื่อทางการเกาหลีเหนือออกมาเอ่ยถึงการฆาตกรรมนี้เป็นครั้งแรกหลังจากปิดปากเงียบมา 10 วัน โดยกล่าวโจมตีมาเลเซียว่าจัดการกับคดีนี้อย่างไร้ศีลธรรมและเล่นการเมืองกับศพ
การเผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อเช่นนี้สร้างความไม่พอใจอย่างมากให้กับเปียงยางซึ่งครั้งหนึ่งเคยขู่ว่าจะยิงปืนใหญ่ใส่ลำโพงเหล่านี้
ด้านเกาหลีเหนือเองก็ติดตั้งลำโพงจำวนหนึ่งใกล้ชายแดนเช่นกันเพื่อเผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อของพวกเขาเอง ในความพยายามเพื่อกลบเสียงจากฝั่งเกาหลีใต้
ในอดีต คิม จองนัม เคยถูกวางตัวเป็นผู้สืบทอดอำนาจในรัฐโสมแดง แต่เขาไม่ได้รับการสนับสนุนและอาศัยลี้ภัยในอยู่ในจีน ในขณะที่น้องชายของเขาได้รับเลือกให้สืบทอดอำนาจภายหลังการเสียชีวิตของบิดาในปี 2011