ผบ.ตำรวจมาเลย์ชี้หญิงเวียดนาม-อิเหนา “รู้” ว่าของเหลวที่พ่นใส่ “คิมจองนัม” เป็นยาพิษ-เรียก “นักการทูต-พนง.สายการบินโสมแดง” สอบปากคำ

เอเอฟพี - สตรีชาวเวียดนามและอินโดนีเซียที่ถูกจับฐานมีส่วนร่วมในการลอบสังหารพี่ชายต่างมารดาของผู้นำเกาหลีเหนือ ทราบดีว่าของเหลวที่พวกเธอนำไปฉีดพ่นใส่ใบหน้าของ “คิม จองนัม” นั้นเป็น “ยาพิษ” ขณะที่ล่าสุดพนักงานสอบสวนได้ประกาศเรียกตัวนักการทูตโสมแดงและพนักงานสายการบินคนหนึ่งมาสอบปากคำ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมาเลเซียเผยวันนี้ (22 ก.พ.)

สัปดาห์ที่แล้ว ตำรวจเสือเหลืองได้เปิดเผยรายชื่อพลเมืองเกาหลีเหนือ 5 คนที่อาจมีส่วนรู้เห็นกับการลอบสังหาร คิม จองนัม ที่สนามบินนานาชาติ KLIA2 เมื่อวันที่ 13 ก.พ. และกำลังติดตามผู้ต้องสงสัยอีก 3 คนมาสอบปากคำ

คอลิด อบูบาการ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมาเลเซีย แถลงว่า หนึ่งในผู้ต้องสงสัยที่ตำรวจต้องการตัว คือ ฮยอน กวาง ซอง เลขานุการโท (second secretary) ประจำสถานทูตเกาหลีเหนือในกรุงกัวลาลัมเปอร์ และ คิม อุกอิล พนักงานสายการบินเกาหลีเหนือ

“เราได้ส่งหนังสือถึงเอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือเพื่อขอสอบปากคำบุคคลทั้งสองแล้ว หวังว่าทางสถานทูตจะให้ความร่วมมือและอนุญาตให้สอบปากคำได้โดยเร็ว ไม่อย่างนั้นเราคงต้องใช้มาตรการบีบบังคับคนทั้งสองให้เข้ามาให้ปากคำเอง”

คอลิด ระบุด้วยว่า ตำรวจมั่นใจว่าชาวเกาหลีเหนือ 5 คนที่ประกาศรายชื่อไปเมื่อสัปดาห์ก่อน “เกี่ยวข้องอย่างมาก” กับการลอบสังหาร โดย 4 คนได้หลบหนีออกจากมาเลเซียไปตั้งแต่วันเกิดเหตุ ส่วนอีก 1 รายถูกตำรวจควบคุมตัวไว้แล้ว

ผู้บัญชาการตำรวจมาเลเซียยังให้ข้อมูลใหม่เกี่ยวกับหญิง 2 คนซึ่งมีส่วนร่วมในปฏิบัติการลอบสังหารด้วยยาพิษ หลังมีรายงานออกมาก่อนหน้านี้ว่าเธอทั้งสองถูกหลอกให้เข้าใจว่าเป็นการ “อำกันเล่น”

เมื่อผู้สื่อข่าวคนหนึ่งถามว่า หญิงทั้งสองทราบหรือไม่ว่าของเหลวที่พวกเธอถืออยู่เป็นยาพิษ คอลิดก็ตอบว่า “แน่นอน พวกเธอรู้ดี”

“พวกคุณคงเห็นคลิปวิดีโอแล้วใช่ไหม? (หลังก่อเหตุ) เธอเดินตรงไปยังห้องน้ำทันที นั่นแปลว่าเธอรู้ว่าของเหลวมันมีพิษ และเธอจำเป็นต้องล้างมือ”

ผู้บัญชาการตำรวจเสือเหลืองระบุด้วยว่า ด่วน ถิเฮือง วัย 28 ปี และ ซีตี ไอชาห์ วัย 25 ปี ถูกสอนให้ลูบไล้ใบหน้าของ คิม จองนัม ทั่วๆ ตั้งแต่อยู่ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ก่อนจะไปลงมือจริงที่สนามบิน

ไอชาห์ เป็นคนลูบสารพิษลงบนใบหน้าของ คิม จองนัม ก่อน จากนั้น เฮือง ก็เข้ามาช่วยอีกแรง

คอลิดยืนยันว่า พนักงานสอบสวนปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นธรรม และสถานทูตเกาหลีเหนือก็มีหน้าที่ที่จะต้องให้ความร่วมมือ

ก่อนหน้านี้ ตำรวจอินโดนีเซียระบุว่า ซีตี ไอชาห์ ถูกสายลับเกาหลีเหนือหลอกให้หลงเชื่อว่าเธอกำลังร่วมถ่ายรายการทีวีอำกันเล่น