เอเอฟพี – ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ของฟิลิปปินส์ คือ “ฆาตกรต่อเนื่อง” ซึ่งควรถูกบังคับให้ออกจากตำแหน่งได้แล้ว วุฒิสมาชิกหญิงแดนตากาล็อกที่เป็นผู้วิพากษ์วิจารณ์ ตัวเอ้คนหนึ่งของเขากล่าวในวันนี้ (21 ก.พ.) ขณะที่เธอกำลังทำท่าจะถูกจับกุมด้วยข้อหาพัวพันยาเสพติด ซึ่งเธอยืนยันว่าเป็นวิธีการที่มุ่งจะปิดปากเธอ
วุฒิสมาชิก ไลลา เดอ ลิมา ยังวิงวอนขอให้เกิดการปฏิวัติ “พลังประชาชน” อันมีชื่อเสียงโด่งดัง ซึ่งได้โค่นล้มจอมเผด็จการเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส ให้ตกลงจากอำนาจได้สำเร็จเมื่อ 30 ก่อน ในระหว่างการแสดงความเห็นอย่างดุดันที่สุดเท่าที่เคยกระทำมาของเธอ เพื่อมุ่งต่อต้านคัดค้านดูเตอร์เตและสงครามปราบปรามยาเสพติดของเขาซึ่งถูกระบุว่าคร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 6,000 คนแล้ว นับแต่ดูเตอร์เตขึ้นเป็นประธานาธิบดีเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว
“ไม่มีข้อสงสัยใดๆ อีกต่อไปแล้ว ประธานาธิบดีของเรานั้นเป็นฆาตกร และเป็นฆาตกรต่อเนื่องซึ่งป่วยเป็นโรคจิตต่อต้านสังคม” เดอ ลิมา แถลงต่อผู้สื่อข่าวที่กรุงมะนิลา โดยเธอเรียกร้องให้คณะรัฐมนตรีของดูเตอร์เตประกาศว่าเขาไม่มีความเหมาะสมที่จะเป็นผู้นำประเทศ และรบเร้าให้สามัญชนชาวฟิลิปปินส์ส่งเสียงคัดค้านการปกครองของดูเตอร์เต
เดอ ลิมา บอกว่ารัฐธรรมนูญปัจจุบันของฟิลิปปินส์ เปิดทางให้เสียงส่วนใหญ่ในคณะรัฐมนตรีสามารถบังคับให้ประธานาธิบดีก้าวลงจากตำแหน่งได้ ด้วยการมีมติตัดสินว่าประธานาธิบดีกลายเป็นผู้ไร้ความสามารถทางจิตใจ จึงขอเรียกร้องให้สมาชิกในครม.ดำเนินการในเรื่องนี้
แต่ถ้าคณะรัฐมนตรีเพิกเฉย เธอก็ระบุอ้างอิงถึงการลุกฮือของมวลชนเมื่อปี 1986 ซึ่งลงท้ายก็สามารถยุติระบอบปกครองมาร์กอสลงได้สำเร็จ
เธอยังได้เปรียบเทียบดูเตอร์เต กับ เดอะ โจ๊กเกอร์ ศัตรูตัวร้ายของมนุษย์ค้างคาว โดยกล่าวว่าประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ก็เป็น “ฆาตกรที่ป่วยเป็นโรคจิต” ซึ่งนำพาเหล่าร้ายคนอื่นๆ ให้ร่วมกันประกอบอาชญากรรม
ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลฟิลิปปินส์ได้ตั้งข้อหา เดอ ลิมา อดีตกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ว่าสมคบคิดกับแก๊งค้ายาเสพติดเมื่อตอนที่เธอเป็นรัฐมนตรียุติธรรมในคณะบริหารของประธานาธิบดีชุดที่แล้ว
เดอ ลิมา ซึ่งปัจจุบันอายุ 57 ปี, พวกผู้สนับสนุนเธอ, และกลุ่มสิทธิต่างๆ ตอบโต้ว่าข้อกล่าวหาที่ใช้เล่นงานเธอนี้เป็นการปั้นแต่งขึ้นมาเพื่อมุ่งปิดปากเธอ ตลอดจนเพื่อข่มขู่คุกคามคนอื่นๆ ที่ต้องการจะเปิดปากคัดค้านประธานาธิบดี
ทั้งนี้เธออาจถูกนำตัวไปคุมขังเมื่อใดก็ได้ หากศาลเห็นชอบกับการออกหมายจับเธอ
ทางด้านโฆษกประธานาธิบดี เออร์เนสโต อาเบลลา เมื่อถูกผู้สื่อข่าวสอบถามเกี่ยวกับคำพูดของ เดอ ลิมา ในวันนี้ (21) เขากล่าวเพียงว่าเธอพูดด้วย “ภาษาที่มีสีสันดี” และชี้ว่าดูเตอร์เตนั้นอนุญาตให้ประชาชนจัดชุมนุมเดินขบวนคัดค้านเขาได้
ในระยะไม่กี่เดือนหลังมานี้ คริสตจักรคาทอลิกที่มีอิทธิพลสูง และเคยเข้าช่วยเหลือเป็นผู้นำในการ “ปฏิวัติพลังประชาชน” โค่นมาร์กอส ได้เริ่มต้นพูดออกมามากขึ้นว่า คัดค้านวิธีทำสงครามยาเสพติดของดูเตอร์เต และเมื่อวันเสาร์ (18) ที่ผ่านมา ได้จัดการชุมนุมคัดค้านการสังหารผู้คนแบบใช้อำนาจศาลเตี้ย ซึ่งถูกระบุว่าเป็นหนึ่งในวิธีการสำคัญในสงครามของประธานาธิบดีคนปัจจุบัน ปรากฏว่าสามารถดึงดูดผู้คนเข้าร่วมได้ในระดับเรือนหมื่น
ทว่าดูเตอร์เตยังคงเป็นที่นิยมชมชื่นของชาวฟิลิปปินส์จำนวนมาก ซึ่งมองเขาว่าเป็นบุรุษเหล็กผู้หาญกล้า ซึ่งประเทศชาติต้องการได้มาเพื่อต่อสู้ปราบปรามยาเสพติดและการทุจริตคอร์รัปชั่น และเวลานี้ยังแทบไม่มีฝ่ายใดคาดหมายว่าจะเกิดการลุกฮือของประชาชนขึ้นมาต่อต้านเขาในอนาคตอันใกล้นี้