รอยเตอร์ - การประท้วงรอบใหม่ต่อต้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สหรัฐฯ ปะทุขึ้นในวันประธานาธิบดีวันจันทร์ (20 ก.พ.) ด้วยพวกนักเคลื่อนไหวรากหญ้า ประกาศเดินขบวนตามท้องถนนสายต่างๆ ในหลายสิบเมืองทั่วอเมริกา ในการชุมนุมที่ขนานนามว่าวัน “ไม่ใช่ประธานาธิบดีของฉัน”
แกนนำผู้ประท้วงคาดหมายว่าจะมีประชาชนหลายพันคนร่วมเดินขบวนตามเมืองต่างๆ ราว 28 แห่งทั่วสหรัฐฯ ไล่ตั้งแต่ลอสแองเจลิส ชิคาโก ไปจนถึงแกรนด์ราพิดส์ รัฐมิชิแกน ในการชุมนุมรอบล่าสุดของการแสดงความไม่พอใจนโยบายต่างๆ และคำประกาศของประธานาธิบดีทรัมป์
ในนิวยอร์ก ผู้ประท้วงราว 3,000 คน เดินขบวนครอบคลุมระยะทางอย่างน้อย 8 ช่วงตึก พากันร้องตะโกนว่า “เขาขี้โกง เขาขี้โกหก กรุณาเบิกตามอง” ใกล้ๆ กับโรงแรมทรัมป์ ทาวเวอร์ แถวๆ เซ็นทรัลปาร์ก
แกนนำการเดินขบวนในนิวยอร์กเผยว่าพวกเขาต่อต้านวาระต่างๆ ของทรัมป์ ในนั้นรวมถึงข้อเสนอการลดรายจ่ายภาครัฐและก่อสร้างกำแพงกั้นเม็กซิโก “ตามตัวอักษร ทรัมป์คือประธานาธิบดีของเรา แต่เขาโจมตีทุกอย่างที่หล่อหลอมชาวนิวยอร์ก และไม่ได้เป็นตัวแทนผลประโยชน์ของเรา”
แนวคิดของการประท้วงในวันประธานาธิบดี ริเริ่มในลอสแองเจลิส โดยประชาชนราว 4,300 คนโพสต์บนเฟซบุ๊กว่าจะเข้าร่วมเดินขบวนที่ศาลากลางเมือง และจากนั้นมันก็แผ่ลามไปยังพื้นที่อื่นๆ ผ่านสื่อสังคมออนไลน์
ในไมอามี สถานีโทรทัศน์ซีบีเอสรายงานว่ามีประท้วงนับร้อยคนเดินขบวนต่อต้านสิ่งที่พวกเขาเรียกว่านโยบายที่ไม่เป็นอเมริกันของทำเนียบขาว “มีความเกลียดชังในหมู่คนต่างผิวสี มีการแบ่งแยกทางเชื้อชาติ มันจำเป็นต้องหยุดลง เราจำเป็นต้องหาประโยชน์ร่วมกันและร่วมมือกันเพื่อธำรงไว้ซึ่งสหรัฐฯ” จูน มาร์ติเนซ ผู้ประท้วงรายหนึ่งกล่าว
การประท้วงต่อต้านทรัมป์ หนล่าสุดก่อนหน้านี้เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ (17 ก.พ.) หนึ่งวันหลังจากคนต่างด้าวทั่วอเมริกาผละงานประท้วงและโรงเรียนหลายแห่งหยุดการเรียนการสอน เพื่อเน้นย้ำให้เห็นถึงความสำคัญของพลเมืองที่เกิดในต่างแดนต่อระบบเศรษฐกิจสหรัฐฯ
