xs
xsm
sm
md
lg

มาเลย์รวบตัวผู้ต้องสงสัยรายที่สาม โสมแดงขวางชันสูตร “คิม จอง-นัม”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ภาพข่าวจากซีซีทีวีของจีน ซึ่งถูกเผยแพร่ต่อโดยสำนักข่าวรอยเตอร์ แสดงให้เห็นภาพขณะตำรวจมาเลเซียกำลังควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยหญิงรายที่สอง (เสื้อเหลือง) ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของ “คิม จอง-นัม” พี่ชายผู้นำเกาหลีเหนือ
เอเจนซีส์ - ตำรวจมาเลเซียจับกุมผู้เกี่ยวข้องคนที่ 3 ในเหตุการณ์ลอบสังหาร คิม จอง-นัม พี่ชายต่างมารดาของผู้นำเกาหลีเหนือ เป็นชายมาเลเซียที่เชื่อว่าเป็นแฟนกับผู้ต้องสงสัยหญิงรายที่สองที่ถูกจับได้เมื่อกลางดึกวันพุธ (15) โดยทางการแดนเสือเหลืองยังควานหาตัวผู้ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง ขณะที่สื่อท้องถิ่นรายงานว่า เปียงยางพยายามโน้มน้าวให้ยกเลิกการชันสูตรศพคิม แต่กัวลาลัมเปอร์ปฏิเสธ

อับดุล ซามาห์ เจ้าหน้าที่ตำรวจมาเลเซีย เปิดเผยในวันพฤหัสบดี (16) ว่า ได้จับกุมชายคนดังกล่าวเมื่อช่วงค่ำวันพุธ โดยชายผู้นี้ให้ข้อมูลที่นำไปสู่การจับกุมผู้ต้องสงสัยคนที่ 2 คือหญิงสาวที่ถือหนังสือเดินทางอินโดนีเซีย ที่ระบุชื่อว่า “สิตี ไอชาห์” สัญชาติอินโดนีเซีย เกิดวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 1992 ที่เซรัง อินโดนีเซีย อย่างไรก็ตาม ยังไม่ชัดเจนว่า หนังสือเดินทางเป็นของจริงหรือไม่

แถลงการณ์ของจเรตำรวจมาเลเซีย ระบุว่า ผู้ต้องสงสัยรายนี้ถูกจับภาพได้จากกล้องวงจรปิดในท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ และอยู่คนเดียวขณะถูกจับกุมเมื่อกลางดึกวันพุธ

“แชนเนล นิวส์ เอเชีย” ซึ่งอ้างแหล่งข่าวที่เป็นตำรวจคนหนึ่ง ก็รายงานตรงกันว่า ชายมาเลเซียคนนี้ถูกรวบตัวเมื่อกลางดึกวันพุธ

ก่อนหน้านั้น ตำรวจได้รวบตัวผู้ต้องสงสัยรายแรกเป็นหญิงสาววัย 28 ปี ที่ชื่อตามหนังสือเดินทางเวียดนาม คือ Doan Thi Huong โดยมีภาพปรากฏในกล้องวงจรปิด และอยู่ตามลำพังขณะที่ถูกจับกุม ซึ่งตำรวจมาเลเซียได้รับอนุญาตให้ควบคุมตัวหญิงสาวทั้งคู่นาน 7 วัน

อับดุล ซามาห์ มัต ผู้บัญชาการตำรวจเซลังงอร์ เผยว่า ตำรวจกำลังควานหาตัวผู้ต้องสงสัยอื่นๆ แต่ไม่ได้ระบุว่า มีกี่คนหรือสัญชาติใด

ขณะเดียวกัน สื่อมาเลเซียรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยชื่อว่า เจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือพยายามโน้มน้าวนานหลายชั่วโมงให้มาเลเซียล้มเลิกความคิดในการชันสูตรศพคิม จอง-นัม และส่งศพให้เปียงยาง

อย่างไรก็ตาม “อับดุล ซามาห์ มัต” เผยว่า กัวลาลัมเปอร์ปฏิเสธคำขอดังกล่าว เนื่องจากเกาหลีเหนือไม่ได้ยื่นคำขออย่างเป็นทางการมา แต่ถึงกระนั้น ทางการมาเลเซียก็ยืนยันว่า ผู้เสียชีวิตคือ คิม จอง-นัม และมาเลเซียจะส่งศพให้เกาหลีเหนือภายหลังชันสูตรแล้วเสร็จ

แม้เปียงยางไม่ได้แสดงความคิดเห็นอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการเสียชีวิตของคิม แต่ก็ไม่ได้พยายามปกปิด ว่า เกาหลีเหนือสนใจชะตากรรมของเขา โดยมีการส่งรถจากัวร์สีดำติดป้ายทะเบียนคณะทูตและธงไปยังโรงพยาบาลที่ทำการชันสูตรศพคิมเมื่อคืนวันพุธ โดยยังไม่มีความชัดเจนว่า จะมีการเปิดเผยผลการชันสูตรเมื่อใด

คิม วัย 45 ปี หมดสติหลังถูกจู่โจมจากด้านหลังด้วยสเปรย์ใส่สารเคมี ขณะเตรียมขึ้นเครื่องบินกลับบ้านที่มาเก๊าเมื่อเช้าวันจันทร์ (13) และเสียชีวิตระหว่างนำตัวส่งโรงพยาบาล ขณะเสียชีวิตเขาถือหนังสือเดินทางเกาหลีเหนือที่ระบุชื่อว่า คิม ชอล เกิดที่เปียงยางเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 1970

การเสียชีวิตของคิมโหมกระพือข่าวลือที่ว่า ผู้สั่งการเรื่องนี้ คือ คิม จอง-อึน ที่ตลอด 5 ปีที่ปกครองเกาหลีเหนือได้กำจัดและประหารชีวิตคนมากมายที่เชื่อว่า เป็นภัยคุกคามตำแหน่งของตน

เหยื่อที่มีตำแหน่งสูงสุดในยุคของ คิม จอง-อึน คือ “จาง ซอง-เต็ก” ลุงของเขาเองที่ถูกประหารจากข้อหาทรยศเมื่อปลายปี 2013 โดยจางที่เคยได้ชื่อว่าเป็นที่ปรึกษาที่ คิม จอง-อึน ไว้ใจที่สุดนั้นใกล้ชิดกับ คิม จอง-นัม เพราะเคยช่วยเลี้ยงดูมา

ตามข่าวที่ลือกันนั้น ผู้นำเปียงยางต้องการแก้แค้นที่พี่ชายต่างมารดาให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวญี่ปุ่น “โยจิ โกมิ” เมื่อปี 2012 โดยวิจารณ์การเป็นผู้นำของคิม จอง-อึน และจากบทสัมภาษณ์นั้น คิม จอง-นัม ได้บอกว่า เขาพยายามใช้ชีวิตแบบคนธรรมดาทั่วไปกับครอบครัวในมาเก๊า

“เพราะผมเคยไปเรียนในตะวันตก ผมจึงได้ลิ้มรสเสรีภาพตั้งแต่ยังเด็ก และยังคงรักที่จะมีอิสระเสรี” เขาบอกกับโกมิและสำทับว่า เหตุผลที่ไปมาเก๊าบ่อย เพราะเป็นสถานที่มีอิสระเสรีที่สุดที่อยู่ใกล้เมืองจีน ซึ่งครอบครัวของเขาอาศัยอยู่

คิม บยอง-กี สมาชิกรัฐสภาเกาหลีใต้ เผยว่า ได้รับข้อมูลจากหน่วยงานข่าวกรอง ว่า คิม จอง-อึน สารภาพว่า “เกลียด” พี่ชายต่างมารดาและกลัวว่า วันหนึ่งจะมาโค่นล้มตน ทั้งยังระบุว่า เกาหลีเหนือพยายามมาตลอด 5 ปี เพื่อสังหาร คิม จอง-นัม โดยมีความพยายามอย่างแท้จริงในปี 2012 หลังจากที่ คิม จอง-นัม วิจารณ์ว่า น้องชายต่างมารดาเป็นแค่ “คนธรรมดาคนหนึ่ง” แถมโจมตีการถ่ายโอนอำนาจภายในตระกูลว่า เป็น “เรื่องตลกของชาวโลก”

คิม จอง-นัม ยังบอกกับโกมิว่า ระบอบของคิม จอง-อึน จะอยู่ไม่ยืด ถ้าไม่มีการปฏิรูป เกาหลีเหนือจะล่มสลาย

รายงานยังระบุว่า คิม จอง-นัม ที่ขวัญหนีดีฝ่อได้เขียนจดหมายถึงน้องชายต่างมารดาหลังถูกลอบสังหาร โดยขอให้รับประกันความปลอดภัยของตนและครอบครัว ด้วยการยกเลิกคำสั่งลงโทษ เนื่องจากตนและครอบครัวไม่มีที่ไปหรือที่ซ่อนตัว และรู้ดีว่าวิธีเดียวที่จะหนีรอดคือการฆ่าตัวตาย

ทั้งนี้ คิม จอง-นัม อาจได้สืบทอดตำแหน่งผู้นำเกาหลีเหนือจากพ่อ คือ คิม จอง-อิล ถ้าเพียงแต่เขาจะไม่ทำให้ประเทศขายหน้าด้วยการพยายามเดินทางเข้าญี่ปุ่นด้วยหนังสือเดินทางปลอมของโดมินิกันเมื่อปี 2011

ก่อนเสียชีวิต เขาใช้ชีวิตอย่างฟุ้งเฟ้อด้วยการเที่ยวกาสิโนมาเก๊า จิบไวน์ฝรั่งเศสและโปรตุเกส และตระเวนพักโรงแรมหรูทั่วเอเชีย และแม้เดินทางในมาเก๊าโดยไม่มีผู้ติดตาม แต่คนมาเก๊าที่รู้จักเขาดีได้บอกว่า คิมรู้ตัวว่าชีวิตของเขาอยู่ในความเสี่ยงและรู้ว่าน้องชายต่างมารดากำลังตามล่าตัวเอง


กำลังโหลดความคิดเห็น