เอเอฟพี - ทีมหาเสียงของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ หลายคนได้ติดต่อพูดคุยกับเจ้าหน้าที่อาวุโสของหน่วยข่าวกรองรัสเซียหลายครั้งในปีที่แล้ว ก่อนที่ ทรัมป์ จะคว้าชัยในศึกชิงผู้นำทำเนียบขาว หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สรายงานเมื่อวานนี้ (14 ก.พ.)
แหล่งข่าวซึ่งเป็น “เจ้าหน้าที่รัฐทั้งในปัจจุบันและอดีตรวม 4 คน” ได้ให้ข้อมูลกับนิวยอร์กไทม์สว่า บทสนทนาซึ่งถูกดักฟังและบันทึกการใช้โทรศัพท์ ยืนยันได้ว่าคนของ ทรัมป์ มีการสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ข่าวกรองของมอสโกอย่างต่อเนื่อง
“หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายและหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ สามารถดักฟังการสื่อสารของพวกเขาได้ ในช่วงเวลาเดียวกับที่มีการเปิดโปงหลักฐานว่ารัสเซียพยายามแทรกแซงกระบวนการเลือกตั้งผู้นำสหรัฐฯ ด้วยการเจาะข้อมูลของคณะกรรมการพรรคเดโมแครตแห่งชาติ” นิวยอร์กไทม์ส ระบุ
ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการสนทนานี้ยังไม่ถูกเปิดเผย ทว่ามีผู้ช่วยของ ทรัมป์ คนหนึ่งที่ถูกอ้างชื่อคือ พอล มานาฟอร์ต
มานาฟอร์ต ซึ่งเป็นประธานแคมเปญหาเสียงของ ทรัมป์ อยู่นานหลายเดือน และยังเคยทำงานเป็นที่ปรึกษาการเมืองทั้งในรัสเซียและยูเครน ออกมาปฏิเสธรายงานชิ้นนี้แล้ว
“ไร้สาระทั้งเพ” เขากล่าว “ผมไม่ทราบว่ารายงานแบบนี้ต้องการสื่ออะไร ผมไม่เคยมีเจตนาคุยกับหน่วยข่าวกรองรัสเซีย และไม่เคยเกี่ยวข้องอะไรกับรัฐบาลรัสเซีย หรือรัฐบาลปูติน หรืออะไรก็ตามที่กำลังถูกสอบสวนอยู่ในขณะนี้”
“คนพวกนั้นไม่ได้มีป้ายติดบนอกเสื้อสักหน่อยว่า ผมเป็นเจ้าหน้าที่ข่าวกรองรัสเซีย”
นิวยอร์กไทม์ส ระบุด้วยว่า หน่วยข่าวกรอง “กำลังตรวจสอบว่าทีมหาเสียงของ ทรัมป์ สมคบคิดกับรัสเซียในการเจาะข้อมูล หรือกระทำการอื่นๆ ที่เข้าข่ายแทรกแซงเลือกตั้งหรือไม่”
เจ้าหน้าที่ซึ่งให้ข้อมูลกับนิวยอร์กไทม์ส ย้ำว่า พวกเขายังไม่พบหลักฐานที่บ่งชี้ถึงความร่วมมือดังกล่าว
เมื่อเดือน ม.ค. ประชาคมข่าวกรองอเมริกันได้เผยแพร่รายงานกล่าวหามอสโกว่าจงใจแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือ ทรัมป์ ขณะที่ ทรัมป์ เองก็พูดเสมอถึงความจำเป็นที่สหรัฐฯ และรัสเซียจะต้องฟื้นฟูความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน