เอเอฟพี - วุฒิสภาสหรัฐฯ มีมติรับรอง สตีเวน มนูชิน อดีตนายธนาคารโกลด์แมนแซกส์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่เมื่อวานนี้ (13 ก.พ.) ท่ามกลางกระแสต้านจากพรรคเดโมแครตที่ไม่เห็นด้วยกับตัวเลือกรัฐมนตรีหลายๆ คนของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์
มนูชิน ได้เข้ารับตำแหน่งอันสำคัญยิ่งในทีมเศรษฐกิจของทรัมป์ หลังจากที่ถูกคัดค้านอย่างหนักจากคนในพรรคเดโมแครตเช่นเดียวกับรัฐมนตรีรายอื่นๆ ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความแตกแยกทางการเมืองในสหรัฐฯ ที่รุนแรงขึ้นในช่วงไม่กี่ปีมานี้
อย่างไรก็ตาม พรรครีพับลิกันซึ่งครองเสียงข้างมากในวุฒิสภายังสามารถผนึกกำลังรับรองบุคคลที่ประธานาธิบดีเสนอชื่อขึ้นมา
มนูชิน ซึ่งเป็นทั้งผู้นำวาณิชธนกิจและนักลงทุนในอุตสาหกรรมบันเทิงของฮอลลีวูด ผ่านการรับรองจากวุฒิสภาด้วยคะแนนเสียง 53 ต่อ 48 โดยมี โจ แมนคิน ส.ว.เดโมแครตจากรัฐเวสต์เวอร์จิเนียเพียงรายเดียวที่ยอมแตกแถวเพื่อนร่วมพรรคไปโหวตไฟเขียวร่วมกับ ส.ว.รีพับลิกัน
มนูชิน จะเข้ามาทำหน้าที่รัฐมนตรีซึ่งกำกับดูแลการเก็บภาษี ระเบียบการธนาคาร หนี้สาธารณะ และนโยบายอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการสกัดกั้นการทุจริตคอร์รัปชัน และการอุดหนุนลัทธิก่อการร้าย
ระหว่างเข้าให้การต่อวุฒิสภา มนูชินได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องการเปิดบริษัทลงทุนและบริษัทอสังหาริมทรัพย์ออฟชอร์อย่างลับๆ และยืนยันว่าธนาคารของเขาปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการยึดอสังหาริมทรัพย์ (foreclosure) อย่างถูกต้อง แม้จะถูกพรรคเดโมแครตวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็น “เครื่องจักรยึดจำนอง” (foreclosure machine) ก็ตาม
ส.ว.เดโมแครตพยายามชี้ว่า มนูชิน วัย 54 ปี เป็นตัวแทนของหลายสิ่งหลายอย่างที่ ทรัมป์ เคยรณรงค์ต่อต้านในช่วงหาเสียง โดยเฉพาะการที่เขาเป็นผู้บริหารโกลแมนด์แซกส์และธนาคารวันเวสต์ซึ่งถูกกล่าวหาว่าทำกำไรมหาศาลจากภาวะฟองสบู่ของตลาดที่อยู่อาศัยในสหรัฐอเมริกาแตก เมื่อปี 2008
“เส้นทางธุรกิจของ มนูชิน บอกให้เราทราบว่า เขาเกี่ยวข้องโดยตรงกับพฤติกรรมฉวยโอกาสที่ทำให้เศรษฐกิจของเราเข้าสู่ภาวะถดถอย และทำลายเงินออมที่ครอบครัวคนทำงานชาวอเมริกันนับไม่ถ้วนเก็บสะสมมาทั้งชีวิต” ส.ว.ดิก เดอร์บิน จากพรรคเดโมแครต ระบุในถ้อยแถลง
รอน ไวเดน ผู้นำ ส.ว. เดโมแครตในคณะกรรมการการคลังแห่งวุฒิสภา ยังออกมากล่าวหาธนาคารวันเวสต์ว่าทำกำไรมหาศาลจากการยึดอสังหาริมทรัพย์ด้วยวิธีการที่ไม่สมควร ซึ่งกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ก็เคยแถลงผลการตรวจสอบเมื่อปี 2011 ว่า วันเวสต์มีแนวทางปฏิบัติด้านบริการสินเชื่อที่อยู่อาศัยและการยึดอสังหาริมทรัพย์ที่ “ไม่ปลอดภัย และไม่เหมาะสม”