เอเจนซีส์ - ชาวโรมาเนียหลายหมื่นฝ่าอากาศหนาวเย็นยามค่ำคืน ออกมารวมตัวกันตามท้องถนนเพื่อประท้วงเรียกร้องให้รัฐบาลลาออก
“ไอ้พวกโจร ลาออกไปซะ” ประชาชนพากันประสานเสียงบริเวณด้านหน้าของทำเนียบรัฐบาลในกรุงบูคาเรสต์เมื่อคืนวันอาทิตย์ พร้อมกับใช้ไฟจากสมาร์ทโฟนฉายแสงสีฟ้า เหลือง แดง ซึ่งเป็นสีธงชาติโรมาเนีย
จากการรายงานของสื่อโรมาเนีย มีการระบุว่า ประชาชนชาวโรมาเนียที่เข้าร่วมการประท้วงครั้งนี้ในกรุงบูคาเรสต์ อาจจะมากถึง 50,000 ราย ส่วนทางการนั้นไม่ได้ระบุตัวเลขจากการประเมินของพวกเขา
มีอีกประมาณ 20,000 รายที่ออกมารวมตัวกันตามท้องถนนในเมืองอื่นๆ พร้อมกับเรียกร้องให้รัฐบาลพ้นจากอำนาจ
“เราต้องการให้ใบแดงแก่รัฐบาล” เอเดรียน โทฟาน นักธุรกิจวัย 33 ปี หนึ่งในผู้ร่วมการประท้วง กล่าว
การประท้วงในวันอาทิตย์ ซึ่งต่อเนื่องเป็นวันที่ 13 ของการประท้วงรัฐบาล ได้ถูกดำเนินการขึ้นแม้ว่าทางฝ่ายบริหารจะยอมถอยสำหรับแผนออกกฏหมายฉบับอื้อฉาว ซึ่งอาจถือได้ว่าเป็นการละเมิดอำนาจของโทษอาชญากรรม เนื่องจากกฏหมายที่ถูกต่อต้านฉบับนี้ระบุว่า หากตัวเลขความเสียหายไม่ถึง 200,000 เลอู ก็ไม่ต้องติดคุก
การประท้วงอย่างต่อเนื่องในครั้งนี้ ถือว่าเป็นครั้งใหญ่สุดนับตั้งแต่มีการโค่นอำนาจผู้นำเผด็จการคอมมิวนิสต์ “นิโคไล เชาเชสกู” ในปี 1989 โดยยังคงประท้วงต่อเนื่องแม้ว่ารัฐมนตรียุติธรรมของโรมาเนียจะยอมลาออกไปแล้วเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
“การลาออกของรัฐมนตรียุติธรรมนั้นยังไม่เพียงพอ สำหรับสิ่งที่พวกเขาพยายามจะทำ” โทฟานกล่าว ขณะที่ผู้ประท้วงอีกรายก็บอกว่า เขาหมดศรัทธาในรัฐบาลชุดนี้แล้ว
“เราต้องการให้รัฐบาลพ้นจากอำนาจ เราไม่เชื่อใจแล้ว พวกเขาอยากให้เราถอยหลังลงคลอง” บอกดาน มอลโดแวน แพทย์ที่มาร่วมประท้วง กล่าว
โรมาเนียเข้าร่วมสหภาพยุโรปในปี 2007 โดยทางฝ่ายอียูนั้นใช้เวลานานกว่าปกติในการรับโรมาเนีย เนื่องจากความคืบหน้าที่ล่าช้าของโรมาเนียในการรับมือกับการทุจริตและองค์กรอาชญากรรม
ประเทศนี้เพิ่มความเข้มข้นในการต่อสู้กับการทุจริตมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ด้วยการก่อตั้งหน่วยงานต่อต้านทุจริต (DNA) จนกลายเป็นหนึ่งในหน่วยงานของรัฐบาลที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากมีการเอาผิดรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ระดับสูง