รอยเตอร์ - อดีตประธานาธิบดีฟิเดล รามอส แห่งฟิลิปปินส์ออกโรงวิจารณ์สงครามกวาดล้างยาเสพติดของประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ชี้เป็นตัวกระตุ้นให้วัฒนธรรมการลอยนวลพ้นผิด (culture of impunity) เฟื่องฟู พร้อมแสดงความเป็นห่วงที่ประธานาธิบดีประกาศนโยบายต่างๆ ตามอำเภอใจ โดยไม่ปรึกษาหารือใคร
รามอส ซึ่งเปลี่ยนสถานะจากผู้สนับสนุน ดูเตอร์เต ในช่วงหาเสียงมาเป็นนักวิจารณ์รัฐบาลฝีปากกล้า ชี้ว่ารัฐบาลฟิลิปปินส์ชุดปัจจุบัน “นิยมกระทำการฝ่ายเดียวมากเกินไป (unilateralism)" โดยเฉพาะในเรื่องการบังคับใช้กฎหมายและความมั่นคง
สงครามยาเสพติดซึ่งเปิดฉากขึ้นทันทีที่ ดูเตอร์เต เข้ารับตำแหน่งผู้นำฟิลิปปินส์เมื่อ 7 เดือนก่อน ทำให้มีผู้คนถูกสังหารโดยปราศจากการไต่สวนแล้วมากกว่า 7,600 คน โดย 2,500 คนถูกตำรวจวิสามัญฆาตกรรม ส่วนที่เหลือถูกฆ่าโดยไม่ทราบทั้งสาเหตุและคนลงมือ
รามอส ได้ให้สัมภาษณ์ต่อเว็บไซต์ข่าว Rappler เมื่อวันอาทิตย์ (12) โดยผู้สื่อข่าวสอบถามว่า เหตุนองเลือดที่เกิดขึ้นในสงครามยาเสพติดของ ดูเตอร์เต ชี้ให้เห็นว่าวัฒนธรรมการลอยนวลพ้นผิดกำลังเฟื่องฟูในฟิลิปปินส์ใช่หรือไม่
“มันก็เริ่มจะกลายเป็นแบบนั้น” รามอส ตอบ
อดีตประธานาธิบดีวัย 88 ปี ระบุว่า ตนยังไม่อยากเรียกปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นว่า “วัฒนธรรมการลอยนวลพ้นผิด” เพราะเชื่อว่ายังไม่สายที่จะเปลี่ยนแปลง แต่นั่นก็ต้องขึ้นอยู่กับ ดูเตอร์เต เอง
“หากผู้นำรัฐบาลชี้แนะแนวทาง สิ่งที่เราปฏิบัติกันอยู่ก็อาจเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นได้”
ดูเตอร์เต สั่งให้ตำรวจเลิกยุ่งเกี่ยวกับสงครามยาเสพติดตั้งแต่วันที่ 31 ม.ค. หลังเกิดกรณีนักธุรกิจชาวเกาหลีใต้ถูกลักพาตัวและสังหารโดยพวกตำรวจกังฉิน โดยมอบหมายให้สำนักงานปราบปรามยาเสพติด (PDEA) และกองทัพเข้ามารับหน้าที่แทน
รามอส ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้นำฟิลิปปินส์ระหว่างปี 1992-1998 ไม่เห็นด้วยกับนโยบายนี้ เนื่องจากตำรวจและและทหารถูกฝึกมาไม่เหมือนกัน
“การทำงานของตำรวจแตกต่างจากปฏิบัติการของทหารเล็กน้อยตรงที่ว่า ตำรวจจะยึดกฎการปะทะขึ้นพื้นฐาน ยิงเพื่อให้บาดเจ็บ ไม่ใช่เพื่อฆ่า”
รัฐบุรุษอาวุโสผู้นี้เป็นชาวฟิลิปปินส์แค่ไม่กี่คนที่สามารถวิพากษ์วิจารณ์ ดูเตอร์เต โดยไม่ถูกประธานาธิบดีขาโหดตอกกลับอย่างเจ็บแสบ
ก่อนหน้านี้ รามอส เคยตำหนิ ดูเตอร์เต ว่าหมกมุ่นกับเรื่องยาเสพติดมากเกินไปจนลืมปัญหาสำคัญอื่นๆ และไม่เห็นด้วยที่ประธานาธิบดีพูดจาก้าวร้าวกับสหรัฐฯ
รามอส ยังแสดงความกังวลเรื่องที่ ดูเตอร์เต ไม่ปรึกษาหารือคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับความสัมพันธ์จีนและสหรัฐฯ รวมไปถึงการเจรจาสันติภาพกับกลุ่มติดอาวุธมุสลิมและกบฏคอมมิวนิสต์
“ประธานาธิบดีทำอะไรโดยไม่ปรึกษาหารือคนอื่น... ไม่ใช่แต่เฉพาะกับผู้บัญชาการที่รับผิดชอบงานโดยตรงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงคณะรัฐมนตรีของเขาและพลเมืองฟิลิปปินส์ด้วย” เขากล่าว
เออร์เนสโต อาเบลลา โฆษกของดูเตอร์เต ยังไม่ตอบรับคำขอสัมภาษณ์ของสื่อมวลชนในวันนี้ (13) แต่เขาเคยให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อวิทยุว่า ดูเตอร์เต รับฟังความเห็นของ รามอส เสมอ เพียงแต่เขาเป็นผู้นำคนละประเภทกันเท่านั้น