เอเอฟพี - เกิดเหตุระเบิดและไฟไหม้ที่โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์แห่งหนึ่งตามแนวชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงเหนือของฝรั่งเศสในวันพฤหัสบดี (9 ก.พ.) เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยหลายราย แต่เจ้าหน้าที่ยืนยันว่าไม่มีความเสี่ยงเกี่ยวกับกัมมันตภาพรังสี
เหตุระเบิดเกิดขึ้นในห้องเครื่องยนต์ของโรงไฟฟ้าฟลามองวิลล์ ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองท่าเชอร์บูร์กไปทางตะวันตก 25 กิโลเมตร “มันเป็นเหตุขัดข้องทางเทคนิค ไม่ใช่อุบัติเหตุทางนิวเคลียร์” ฌักส์ วิตโควสกี เจ้าหน้าที่ระดับสูงท้องถิ่นเปิดเผยกับเอเอฟพี
เขาบอกต่อว่า เครื่องระบายอากาศระเบิดด้านนอกเขตนิวเคลียร์ของโรงไฟฟ้า ซึ่งปฏิบัติการมาตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1980 และบริหารงานโดย EDF รัฐวิสาหกิจพลังงานของประเทศ
“มันยุติแล้ว ทีมฉุกเฉินกำลังออกมา” วิตโควสกีกล่าว พร้อมเผยว่า มีอยู่ 5 คนที่มีอาการสำลักควัน แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บร้ายแรง
เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า ต้องปิดเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบน้ำแรงดันสูงตัวหนึ่งจากทั้งหมด 2 เตาของโรงไฟฟ้าหลังเกิดระเบิด และประกาศว่าเหตุการณ์นี้สิ้นสุดลงตอนเวลาประมาณ 11.00 จีเอ็มที (ตรงกับเมืองไทย 17.00 น.)
เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 1,300 เมกะวัตต์ทั้ง 2 เตาเดินเครื่องใช้งานมาตั้งแต่ปี 1985 และปี 1986 ขณะที่ปัจจุบัน ณ โรงไฟฟ้าแห่งนี้มีพนักงานอยู่ 810 คน และบรรดาผู้รับเหมาตามสัญญาจ้างอีก 350 คน
ทั้งนี้ เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ใหม่รุ่น 3 ที่เรียกว่า EPR กำลังดำเนินการก่อสร้างที่ฟลามองวิลล์ ซึ่งจะกลายเป็นหนึ่งในเตาปฏิกรณ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เมื่อมันเข้าสู่ปฏิบัติการในช่วงปลายปี 2018
การก่อสร้างเตาปฏิกรณ์ใหม่ที่โรงไฟฟ้าแห่งนี้ ซึ่งตั้งอยู่ในแคว้นนอร์มังดี เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2007 และเดิมทีมีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2012 ทว่า มันประสบปัญหาล่าช้าหลายต่อหลายครั้ง ขณะที่งบประมาณก่อสร้างบานปลายเป็น 10,500 ล้านยูโร สูงกว่าที่ตั้งไว้ขั้นต้นถึง 3 เท่า