เอเอฟพี/เอพี - เกิดเหตุโจมตีศาลสูงอัฟกานิสถานกลางกรุงคาบูลวันนี้ (7 ก.พ.) เบื้องต้นดับไม่ต่ำกว่า 19 คน บาดเจ็บอีก 41 ราย มีเด็กและผู้หญิงรวมอยู่ในนั้น เป็นผลงานมือระเบิดฆ่าตัวตาย ลงมือกับกลุ่มเป้าหมายเจ้าหน้าที่ศาลสูงอัฟกานิสถานในขณะที่กำลังขึ้นรถบัสเพื่อกลับบ้าน
เอเอฟพีรายงานวันนี้ (7 ก.พ.) ว่า มือระเบิดฆ่าตัวตายที่เดินมาด้วยเท้าบริเวณจุดเกิดเหตุ ได้ทำการจุดระเบิดในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ศาลสูงอัฟกานิสถานกำลังขึ้นรถบัสเพื่อกลับบ้านบริเวณจุดลานจอดรถภายในเขตศาลสูงกลางกรุงคาบูลวันนี้ (7)
ทั้งนี้ ศาลสูงแห่งนี้ตั้งอยู่บนถนนสายหลักที่เชื่อมจากท่าอากาศยานนานาชาติคาบูลไปยังสถานทูตสหรัฐฯ ประจำอัฟกานิสถานโฆษกกระทรวงมหาดไทยอัฟกานิสถาน นาจิบุลลาห์ ดานิช (Najibullah Danish) ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี
ในขณะที่ตัวเลขผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตมาจากการแถลงของโฆษกกระทรวงสาธารณสุขอัฟกานิสถาน วาฮีด มัจโรห์ (Waheed Majroh) ซึ่งล่าสุดพบว่ามีผู้เสียชีวิต 12 คน และบาดเจ็บอีก 41 คน โดยมัจโรห์ย้ำว่า มีทั้งเด็กและผู้หญิงรวมอยู่ในกลุ่มผู้ได้รับบาดเจ็บ
เอเอฟพีรายงานต่อว่า ตำรวจอัฟกันได้ปิดกั้นถนนรอบบริเวณที่ตั้งศาลสูงอัฟกานิสถานในระหว่างที่ญาติของเจ้าหน้าที่ศาลสูงต่างเริ่มมารวมตัวในที่เกิดเหตุด้วยใจระทึกและน้ำตา และพบว่ามีรถพยาบาลฉุกเฉินและรถดับเพลิงได้เดินทางมาถึงจุดเกิดเหตุแล้วเช่นกัน
ด้านเอพีรายงานเพิ่มเติมว่า โฆษกกระทรวงหมาดไทย ดานิชเสริมว่า ระเบิดเกิดขึ้นบริเวณใกล้กับประตูข้าง ซึ่งถูกใช้โดยเจ้าหน้าที่ศาลสูงอัฟกานิสถานในการออกมาจากตัวตึกที่ทำการหลัก และในขณะนี้ทางอัฟกานิสถานยังไม่สามารถพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลผู้เสียชีวิตได้ครบทุกราย
เอพีระบุว่า มือระเบิดฆ่าตัวตายเป็นชายได้ทำการจุดระเบิดเสื้อกั๊กในระหว่างที่มือระเบิดยืนใกล้กับกลุ่มเจ้าหน้าที่ศาลสูงอัฟกานิสถานและคนอื่นๆหลังจากที่คนเหล่านี้ได้เดินทางออกมาจากตัวตึกใหญ่
ล่าสุดในขณะนี้ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาประกาศแสดงความรับผิดชอบ แต่อย่างไรก็ตาม เอพีรายงานว่า ในอดีตกลุ่มก่อการร้ายตอลิบานเป็นผู้ลงมือโจมตีศาลอัฟกานิสถาน และเจ้าหน้าที่ศาล
เหตุระเบิดศาลสูงคาบูลที่เกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังจากเหตุระเบิดที่ถูกซ่อนไว้บริเวณข้างถนนในตัว จ.ฟาราห์ (Farah) ทางตะวันตกของอัฟกานิสถาน สังหารเจ้าหน้าที่คนสำคัญของจังหวัด ซึ่งจากการเปิดเผยของตำรวจในพื้นที่พบว่า ผู้เสียชีวิตคือ อัลดุล คาลิค (Abdul Khaliq) เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเขตคาค อี ฟาเซด (Khak-e-Safed) ในระหว่างทางกลับบ้านหลังจากที่ได้แวะเข้ามัสยิดก่อนหน้านี้
โดยในการโจมตีจังหวัดฟาราห์ โฆษกกลุ่มตอลิบานออกมาประกาศแสดงความรับผิดชอบ