เอเอฟพี - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ถูกคนในพรรครีพับลิกันและเดโมแครตสวดยับอีกระลอก หลังออกมาให้สัมภาษณ์ในทำนองไม่แคร์เรื่องที่รัสเซียสังหารผู้ต่อต้านและยึดคาบสมุทรไครเมียไปจากยูเครน โดยยืนยันว่าตนยังรู้สึก “เคารพ” ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เหมือนเดิม
แม้จะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ มานานกว่า 2 สัปดาห์แล้ว แต่ ทรัมป์ ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะปลีกตัวออกห่างจากผู้นำรัสเซียตามที่คนในพรรครีพับลิกันเรียกร้อง
“ผมรู้สึกเคารพเขา อันที่จริงก็มีคนหลายคนที่ผมเคารพ แต่นั่นไม่ได้แปลว่าผมจะต้องเข้ากับคนเหล่านั้นได้ดีเสมอไป” ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์กับ บิลล์ โอรีลลีย์ พิธีกรฟ็อกซ์นิวส์ โดยบทสัมภาษณ์นี้ได้ออกอากาศไปแล้วเมื่อวันอาทิตย์ (5)
เมื่อ โอริลลีย์ ถามย้ำว่า เขาคิดอย่างไรเรื่องที่ ปูติน อาจเกี่ยวข้องกับการสังหารสื่อมวลชนและผู้ที่ต่อต้านรัฐบาลรัสเซีย ทรัมป์ ก็ตอบว่า “เราเองก็มีฆาตกรอยู่เยอะแยะไป คุณคิดว่าประเทศเราบริสุทธิ์ผุดผ่องนักหรือ”
“ลองดูสิ่งที่พวกเราทำบ้างสิ เราเองก็ทำอะไรผิดพลาดมากมาย”
สมาชิกพรรครีพับลิกันหลายคน รวมถึง มิตช์ แม็กคอนเนลล์ ผู้นำ ส.ว.เสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐฯ ได้ออกมาตำหนิคำพูดของประธานาธิบดีทันที
“ผมไม่คิดว่าพฤติกรรมของรัสเซียกับสิ่งที่สหรัฐฯ ทำจะเอามาเปรียบเทียบกันได้” แม็คคอนเนลล์ ให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็น
“เขา (ปูติน) เป็นอดีตสายลับเคจีบี เป็นอันธพาล และไม่ได้ผ่านกระบวนการเลือกตั้งที่คนส่วนใหญ่มองว่าเป็นการเลือกตั้งที่เชื่อถือได้”
ไมเคิล แม็กโฟล อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงมอสโก และที่ปรึกษาของอดีตประธานาธิบดี บารัค โอบามา ก็ประณามคำพูดของ ทรัมป์ ว่า “น่าสะอิดสะเอียน”
“การที่ ทรัมป์ พยายามเปรียบเทียบระดับคุณธรรมของสหรัฐฯ กับรัสเซียช่างเป็นเรื่องที่น่าสะอิดสะเอียน (และไม่ถูกต้องด้วย)” เขาโพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์
มหาเศรษฐีปากเปราะวัย 70 ปีปฏิเสธที่จะวิจารณ์ผู้นำรัสเซียตลอดการหาเสียงเมื่อปีที่แล้ว โดยอ้างว่าสหรัฐฯ จะได้ประโยชน์มากกว่าจากการมีความสัมพันธ์ที่ดีกับทำเนียบเครมลิน
ล่าสุด เขายังประกาศจะร่วมมือกับรัสเซียปราบปรามกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในซีเรีย
“ถ้ารัสเซียยื่นมือเข้ามาช่วยเราปราบไอเอส ซึ่งถือเป็นการต่อสู้ครั้งใหญ่ และช่วยกำจัดลัทธิอิสลามก่อการร้ายทั่วโลก นั่นจะเป็นเรื่องที่ดีมาก” ทรัมป์ บอกกับฟ็อกซ์นิวส์
รัสเซียได้ส่งทั้งเครื่องบิน เรือ และทหารเข้าไปยังซีเรีย ทว่าปฏิบัติการส่วนใหญ่ยังคงมุ่งปราบปรามพวกกบฏ และปกป้องรัฐบาลของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด
เดือน ธ.ค.ปีที่แล้ว ประชาคมข่าวกรองสหรัฐฯ ได้แถลงอย่างเป็นทางการว่า รัสเซียลงมือโจมตีทางไซเบอร์และเผยแพร่ข้อมูลละเอียดอ่อนเพื่อบั่นทอนคะแนนนิยมของ ฮิลลารี คลินตัน และหนุนให้ ทรัมป์ เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ
การที่ ทรัมป์ วิจารณ์นาโตว่าเป็นองค์กรที่ “ล้าสมัย” ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้หลายฝ่ายเกรงว่า เขาอาจเลือกอยู่ข้างรัสเซียมากกว่าพันธมิตรในยุโรป
จุดยืนของทรัมป์ต่อปัญหายูเครนก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ถูกตั้งคำถาม โดยหลังจากที่ ทรัมป์ โทรศัพท์พูดคุยกับประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชนโก แห่งยูเครนเมื่อวันเสาร์ (4) ทำเนียบขาวก็ออกมาแถลงว่า ทั้งสองได้หารือเกี่ยวกับ “ความขัดแย้งที่ยาวนานระหว่างยูเครนกับรัสเซีย”
มอสโกใช้กำลังช่วงชิงคาบสมุทรไครเมียไปจากยูเครนเมื่อเดือน มี.ค.ปี 2014 หลังยังสนับสนุนกบฏแบ่งแยกดินแดนในภาคตะวันออกของยูเครนด้วย
ซูซาน ไรซ์ อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ก็ได้ทวีตข้อความวิจารณ์มุมมองที่ ทรัมป์ มีต่อสถานการณ์ในยูเครนว่า “การบิดเบือนแม้กระทั่งประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ เป็นสิ่งที่น่ากังวลอย่างยิ่ง”
ด้านรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ก็ออกมาแก้ต่างให้กับรัฐบาลซึ่งถูกวิจารณ์อย่างหนัก หลังจากที่ ทรัมป์ คุยโทรศัพท์กับ ปูติน เมื่อ 1 สัปดาห์ก่อน
“เราได้ติดตามสถานการณ์ และรู้สึกกังวลต่อความรุนแรงที่เกิดขึ้นในยูเครนตะวันออกเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา” เพนซ์ กล่าวผ่านรายการ This Week ของสำนักข่าวเอบีซี
ทำเนียบเครมลินระบุว่า บทสนทนาระหว่าง ทรัมป์ และ ปูติน เน้นหนักไปที่การฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าผู้นำสหรัฐฯ เต็มใจที่จะยกเลิกคว่ำบาตรรัสเซีย