เอเอฟพี - ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ในวันศุกร์ (3 ก.พ.) ได้ทีหยิบยกเหตุคนร้ายใช้มีดโจมตีเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงที่พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ในกรุงปารีส พร้อมตะโกนสรรเสริญพระเจ้า มาสนับสนุนนโยบายแบนชาวมุสลิม 7 ชาติของตนเอง ระบุสหรัฐฯต้อง “ฉลาด” หากไม่ต้องการจมอยู่กับความหวาดหวั่นดังเช่นฝรั่งเศส
ทรัมป์ บอกว่า มือโจมตีคือพวกก่อการร้ายอิสลามิสต์หัวรุนแรง ถ้อยคำแบบเดียวกับที่เขาเคยใช้ประณามเหตุโจมตีต่างๆ ก่อนหน้านี้ “ก่อการร้ายอิสลามิกหัวรุนแรงรายหนึ่งเพิ่งโจมตีที่พิธิภัณฑ์ลูฟวร์ในปารีส นักท่องเที่ยวถูกห้ามเข้าออก ฝรั่งเศสอยู่บนความหวาดหวั่นอีกครั้ง สหรัฐฯต้องฉลาด” ทรัมป์เขียนบนทวิตเตอร์
ในการแถลงสรุปเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯรายหนึ่ง ปกป้องคำสั่งพิเศษของทรัมป์ในการงดรับผู้อยพชั่วคราว และระงับการออกวีซ่าแก่นักเดินทางจาก 7 ชาติมุสลิม โดยอ้างว่าอเมริกาพยายามหลีกเลี่ยงสถานการณ์ความมั่นคงแบบเดียวกับในฝรั่งเศสและประเทศยุโรปอื่นๆ
“ความจริงก็คือ สถานการณ์ที่มีอยู่ในทุกวันนี้ในบางพื้นที่ของฝรั่งเศส บางพื้นที่ของเยอรมนี ในเบลเยียม และอื่นๆ ไม่ใช่สถานการณ์ที่เราต้องการให้เกิดขึ้นภายในสหรัฐฯ” เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวบอก “เราไม่ต้องการสถานการณ์ที่นับจากนี้จนถึง 20 หรือ 30 ปีข้างหน้า เกิดการโจมตีก่อการร้ายภายในเป็นประจำ ร้านค้าต่างๆ ต้องปิด หรือมีการซุกระเบิดที่สนามบิน หรือผู้คนนอนรวยรินบนท้องถนนหลังจากถูกรถยนต์พุ่งชน”
ตำรวจต้องพานักท่องเที่ยวหลายร้อยคนไปยังพื้นที่คุ้มกันของพิพิธภัณฑ์เลื่องชื่อย่านใจกลางปารีส หลังจากคนร้ายควงมีดไล่แทงเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง ก่อนถูกเจ้าหน้าที่สาดกระสุนใส่ 5 นัด ภายในพื้นที่สาธารณะของพิพิธภัณฑ์ตอนเวลาราวๆ 10.00 น. (ตรงกับเมืองไทย 16.00 น.)
มือโจมตีมีอาการสาหัส ส่วนทหารได้รับาดเจ็บเล็กน้อยบริเวณศีรษะ 1 นาย และถูกพาตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล
กระเป๋าเป้ 2 ใบของคนร้ายถูกตรวจสอบในบริเวณที่เกิดเหตุ โดยเจ้าหน้าที่พิเศษชุดเก็บกู้ระเบิด แต่ไม่มีการพบวัตถุระเบิดใดๆ
เหตุการณ์นี้กระพือความหวาดผวารอบใหม่ในประเทศที่ยังคงซวนเซจากเหตุโจมตีก่อการร้ายหลายระลอกในช่วง 2 ปีหลังสุด และอยู่ภายใต้ประกาศภาวะฉุกเฉินมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2015