xs
xsm
sm
md
lg

InClips: ทรัมป์อนุมัติ “รบพิเศษสหรัฐฯ SEAL ทีม#6” บุกลับเยเมน สุดโหด!! “ลูกสาวพลเมืองสหรัฐฯ 8 ขวบ” ของแกนนำอัลกออิดะห์ อันวาร์ อัล-เอาลากี ถูกยิงที่คอดับก่อนรุ่งสาง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

(ขวาล่าง)นาวาร์ อัล-เอาลากี(Nawar al-Awlaki) วัย 8 ปีลูกสาวแกนนำอัลกออิดะห์ อันวาร์ อัล-เอาลากี (Anwar al-Awlaki)
เอพี/เอเจนซีส์ - โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และบุตรสาว อีวังกา ทรัมป์ บินด่วนร่วมพิธีศพของเจ้าหน้าที่หน่วยรบพิเศษสหรัฐฯ SEALทีม#6 วิลเลียม โอเวนส์ (William Owens) ในวันอังคาร (31 ม.ค) ซึ่งเสียชีวิตในปฏิบัติการลับบุกเยเมนครั้งแรก จากการอนุมัติของทรัมป์ สูญเสียหนักทั้งคน และ ฮ. สุดอึ้ง SEAL ทีม#6” ลงมือปลิดชีวิต เด็กอเมริกันวัย 8 ขวบ นาวาร์ อัล-เอาลากี (Nawar al-Awlaki) ลูกสาวแกนนำอัลกออิดะห์ อันวาร์ อัล-เอาลากี (Anwar al-Awlaki) พบถูกกระสุนเจาะต้นคอเสียชีวิต พร้อมกับพลเรือนรายอื่นๆ อีกหลายสิบ

เอพีรายงานวันนี้ (2 ก.พ.) ว่า บุตรสาววัย 8 ปี นาวาร์ อัล-เอาลากี (Nawar al-Awlaki) ของ วาร์ อัล-เอาลากี (Anwar al-Awlaki) ศาสนจารย์แกนนำอัลกออิดะห์เชื้อสายอเมริกัน-เยเมน ซึ่งกลายเป็นพลเมืองสหรัฐฯรายแรกถูกอนุมัติให้ใช้ปฏิบัติการโดรนสหรัฐฯสังหารในปี 2011 ซึ่งเด็กหญิงชาวอเมริกันรายนี้เป็นหนึ่งในกลุ่มพลเรือนที่เสียชีวิตในปฏิบัติการลับเยเมนของหน่วยรบพิเศษสหรัฐฯ SEAL เกิดขึ้นในวันอาทิตย์ (29 ม.ค.) ล่าสุด

หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษรายงานเพิ่มเติม โดยอ้างอิงจากการเปิดเผยของสมาชิกครอบครัวของเด็กหญิงในเยเมนที่ยังรอดชีวิต ว่า นาวาร์ อัล-เอาลากี ที่รู้จักในอีกชื่อ คือ โนรา (Nora) เสียชีวิตจากการที่ถูกกระสุนปืนบริเวณต้นคอ โดยทางปู่ของเด็กหญิงได้ให้ความเห็นกับสื่ออังกฤษ โดยระบุว่า เขาไม่เชื่อว่า “โนรา” จะเป็นเป้าการสังหารของสหรัฐฯ

นัสเซอร์ อัล-เอาลากี (Nasser al-Awlaki) ปู่ของโนรา เปิดใจว่า ไม่คิดว่าพวกอเมริกันมีความประสงค์ต้องการที่จะสังหารหลานสาว นาวาร์ ซึ่งในขณะเกิดเหตุเด็กหญิงวัย 8 ปีอยู่ในบ้านของเธอพร้อมมารดา โดยเธอถูกพบยิงที่บริเวณต้นคอ

NBC NEWS สื่อสหรัฐฯรายงานเพิ่มเติมในรายละเอียดการเสียชีวิตของโนรา ต่อว่า พบว่า ในเวลาเกิดเหตุ ทั้งโนราและแม่ของเธอกำลังนั่งอยู่ภายในบ้านของตนเอง โดยเธอถูกยิงในเวลาราว 2.30 น. และเสียชีวิตในอีก 2 ชม. หลังจากนั้น และนอกจากนี้ เด็กคนอื่นๆ ในบ้านหลังเดียวกันนี้ล้วนแต่ถูกสังหารทั้งสิ้น

โดยปู่ของโนรา กล่าวว่า “พวกเขา (SEAL) บุกเข้าไปบ้านหลังอื่น และสังหารทุกคนที่อยู่ในนั้น รวมไปถึงผู้หญิงทั้งหมด และพบว่า พวกเขาได้เผาบ้านทำลายทิ้งหลังจากนั้น ซึ่งมีการตั้งสมมติฐานว่า มีผู้หญิงหนึ่งคนมาจากซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่มอัลกออิดะห์อยู่ แต่ทว่าที่พวกเราทราบ คือ เธอเป็นบุตรของครู” NBC NEWS รายงาน

สื่อสหรัฐฯชี้ว่า ทั้งแม่ของโนราและตัวเด็กหญิงวัย 8 ปี แต่เดิมอาศัยอยู่ในกรุงซานา แต่ต้องหลบหนีออกมายังหมู่บ้านแห่งนี้จากการสู้รบระหว่างกบฏฮูตี และฝ่ายรัฐบาลเยเมนและพันธมิตร

และในการให้สัมภาษณ์กับเดอะการ์เดียน ปู่ของโนรากล่าวทางโทรศัพท์ต่อว่า “ผมไม่คิดว่าเหตุการณ์นี้จะเป็นการจงใจให้เกิดขึ้น” และในการให้สัมภาษณ์ นัสเซอร์ อัล-เอาลากี ซึ่งเป็นอดีตรัฐมนตรีในคณะรัฐบาล ได้เปิดเผยต่อว่า หมู่บ้านที่หลานสาวอาศัยอยู่นั้นไม่ใช่ฐานที่มั่นสำคัญของกลุ่มอัลกออิดะห์ AQAP ในเยเมน แต่เป็นฐานที่มั่นสำคัญของลูงของเธอ ซึ่งมีศักดิ์เป็นชีคของชนเผ่า ที่ได้ทำการสู้รับร่วมกับรัฐบาลเยเมน ต่อกบฏฮูตีที่มีอิหร่านสนับสนุน

และในการเปิดเผยของปู่ของโนรา ยังชี้ต่อว่า รัฐบาลพลัดถิ่นของเยเมนได้จัดส่งอาวุธไปให้กับญาติพี่น้องของเขาจากฐานที่มั่นเมืองท่าเอเดนทางใต้ของเยเมนเพื่อสู้รบกับกบฏฮูตี

โดย นัสเซอร์ อัล-เอาลากี ยืนยันว่า “หากว่าพวกอเมริกันคิดว่า อาวุธพวกนั้นจะตกไปในมือของกลุ่มอัลกออิดะห์ หรืออะไรสักอย่าง ผมไม่รู้นะ” และเสริมต่อว่า “ผมไม่ทราบว่าเหตุใดอเมริกันจึงเลือกใช้ปฏิบัติการคอมมานโดที่ใหญ่โตเช่นนี้ในการโจมตีหมู่บ้านเล็กๆ ในเยเมน เหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับการลอบสังหารอดีตหัวหน้าอัลกออิดะห์ อุซามะฮ์ บิน ลาดิน”

อย่างไรก็ตาม เอพีชี้ว่า พันเอก จอห์น โทมัส (John Thomas) โฆษกกองบัญชาการกลางสหรัฐฯ CENTCOM ออกแถลงการณ์ยืนยันกับเดอะการ์เดียน ว่า ทางกองทัพสหรัฐฯไม่ทราบมาก่อนล่วงหน้าว่า เด็กหญิง นาวาร์ อัล-เอาลากี นั้นจะอยู่ในที่เกิดเหตุ

โดย โทมัส ยืนยันว่า กลุ่มอัลกออิดะห์บนคาบสมุทรอาระเบีย หรือ AQAP นั้นได้ขึ้นชื่อเป็นกลุ่มที่ใช้เด็กและผู้หญิงเป็นโล่มนุษย์ โดยซ่อนคนเหล่านี้ในพื้นที่ปฏิบัติการทางทหาร และร่วมไปถึงที่ตั้ง ซึ่งทางกลุ่มยังคงแสดงออกอย่างต่อเนื่องไม่ให้ความสำคัญต่อชีวิตผู้บริสุทธิ์เหล่านี้

ทั้งนี้ บิซิเนสอินไซเดอร์ รายงานยืนยันในวันพุธ (1 ก.พ.) ว่า ก่อนหน้าที่ โนรา วัย 8 ปีจะถูกสังหารพี่ชายของเธอวัย 16 ปี อับดุลรอห์มัน (Abdulrahman) พลเมืองสหรัฐฯ เสียชีวิตจากการถูกสังหารจากปฏิบัติการโดรนสไตร์ก 2 สัปดาห์ หลังจากที่บิดา อันวาร์ อัล-เอาลากี ถูกปฏิบัติการโดรนของ CIA สังหารในวันที่ 30 ก.ย. 2011 ซึ่งในขณะนั้น ทางสหรัฐฯได้ออกมาปฏิเสธเหมือนอย่างที่เกิดในกรณีของโนรา ว่า “อับดุลรอห์มันไม่ได้ตกเป็นเป้าสังหารของอเมริกาแต่อย่างใด”

บิสซิเนสอินไซเดอร์ เชื่อว่า การเสียชีวิตของโนรา บุตรคนที่ 2 ของแกนนำอัลกออิดะห์จะถูกใช้ในสงครามข่าวโฆษณาชวนเชื่อในฐานะเป็นบุตรของแกนนำที่เสียชีวิต เนื่องมาจากถูกสหรัฐฯสังหาร ซึ่งในขณะนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า เด็กหญิงวัย 8 ปี เกิดที่ใด แต่ทว่าการที่เธอเป็นบุตรของ อันวาร์ อัล-เอาลากี.แกนนำอัลกออิดะห์ซึ่งเป็นพลเมืองสหรัฐฯเกิดในรัฐนิวเม็กซิโก ปี 1971 ทำให้โนรามีสัญชาติอเมริกันไปโดยปริยาย รวมไปถึงสัญชาติจากประเทศที่เธอถือกำเนิด

ทั้งนี้ สำหรับทีมที่ลงมือสังหารโนรา สื่อ NBC NEWS รายงานวันอังคาร (31 ม.ค.) ว่า ปฏิบัติการลับเยเมนที่เกิดขึ้นครั้งแรกในวันอาทิตย์ (29 ม.ค.) ภายใต้รัฐบาลทรัมป์นั้นเป็นผลงานของหน่วยรบพิเศษ SEAL ทีม#6 ที่โด่งดัง ซึ่งสื่อสหรัฐฯชี้ว่า นอกจากโนรา ซึ่งเป็นพลเมืองชาวอเมริกันได้ถูกสังหารแล้ว ยังมีชาวอเมริกันอีกคนเสียชีวิตในปฏิบัติการนี้

โดยเดอะการ์เดียนรายงานว่า ปฏิบัติการลับเยเมนในช่วงสุดสัปดาห์นั้น ประสบปัญหาตั้งแต่เริ่มแรก เฮลิคอปเตอร์ออสเปรย์ของหน่วย SEAL รุ่น tilt-rotor MV-22 นั้นประสบปัญหาการร่อนลงจอด ที่เป็นการตกระหว่างการร่อนลงจอดใกล้กับจุดพื้นที่เป้าหมาย และทำให้ทางเจ้าหน้าที่รบพิเศษ SEAL ต้องทำการทำลาย ฮ.ทิ้งก่อนที่จะออกไปปฏิบัติการ

เอพีรายงานเพิ่มเติมต่อว่า ในปฏิบัติการลับนี้ ได้กลายเป็นการรบที่ถึงขั้นเอาชีวิตผู้ปฎิบัติงานในจังหวัดเบย์ดา (Bayda) เยเมน โดยเอพีได้ระบุถึงยานพาหนะที่ใช้ในปฎิบัติการ ได้แก่ เฮลิคอปเตอร์มารีน อากาศยานกันชิป (gunship) เครื่องบินเจ็ตแฮริเออร์ (Harrier) และเฮลิคอปเตอร์ออสเปรย์ MV-22 อีก 2 ตัว โดยในรายงานของรอยเตอร์ชี้ว่า 1 ใน 2 ของ ฮ.ออสเปรย์ ประสบปัญหาจากเครื่องยนต์ขัดข้อง และต้องถูกทำลายทิ้ง

ในขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วย SEAL วิลเลียม โอเวนส์ (William Owens) ตำแหน่ง Chief petty officer ซึ่งเป็นตำแหน่งสูงขั้นที่ 7 ในหน่วยกองทัพเรือสหรัฐฯ และหน่วยงานยามฝั่งสหรัฐฯ ถูกสังหารในปฏิบัติการ และเจ้าหน้าที่ SEAL อีก 3 นายได้รับบาดเจ็บ โดยทาง MSNBC สื่อทีวีเน็ตเวิร์กอเมริกา ชี้ว่า เป็นปฏิบัติการลับที่ผิดพลาดไปเกือบทุกอย่าง สอดคล้องกับการออกมายอมรับของสหรัฐฯที่ว่า “เป็นปฏิบัติการที่ไม่สมบูรณ์ 100%”

โดยเมื่อวานนี้ (1 ก.พ.) เดลิเมล สื่ออังกฤษรายงานว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และบุตรสาว อีวังกา ทรัมป์ ได้เดินทางไปยังฐานทัพอากาศสหรัฐฯโดเวอร์ (Dover) รัฐเดลาแวร์ เพื่อร่วมเคารพศพของนายทหาร วิลเลียม โอเวนส์ ก่อนเดินทางกลับมายังทำเนียบขาวในช่วงคำวันพุธ (1 ก.พ.) เพื่อร่วมพิธีสาบานตนของรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯคนใหม่ เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน (Rex Tillerson)

โดย โทมัส โฆษกกองบัญชาการกลางสหรัฐฯ CENTCOM ออกแถลงการณ์จากการรายงานของเดอะการ์เดียน ว่า ปฏิบัติการ JSOC เกิดขึ้นเพื่อรวบรวมข้อมูลของกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ AQAP จากพื้นที่เป้าหมาย ไม่ใช่การตามล่าผู้ก่อการร้าย “เป้าหมายไม่ได้มีเพื่อสังหารผู้ใด ซึ่งทางเรามีความเชี่ยวชาญจากการกระทำเช่นนั้นทางอากาศ” โทมัส กล่าว

โดย NBC NEWS ชี้ว่า ปฏิบัติถูกสั่งออกมาจากฐานสหรัฐฯ ที่ Djibouti อยู่ระหว่างตรงข้ามอ่าวเอเดน แหลมใต้สุดของคาบสมุทรอาระเบีย และตะวันตกของเยเมน

เอพีรายงานต่อว่า แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ความมั่นคงสหรัฐฯ อ้างว่า ปฏิบัติการนี้ถูกวางแผนไว้ตั้งแต่ในสมัยของชุดรัฐบาลโอบามา แต่ทว่ารัฐบาลทรัมป์เป็นผู้ลงมืออนุมัติ เพื่อหวังว่าจะสามารถหาข่าวกรองได้เพิ่มมากขึ้น โดย เดอะการ์เดียน ชี้ว่า สหรัฐฯและโลกตะวันตกต่างวิตกกังวลกับเยเมน ซึ่งเป็นฐานที่มั่นให้กับกลุ่มก่อการร้ายอัลกกอิดะห์ AQAP มานานกว่า 10 ปี่แล้ว นอกจากกลุ่ม AQAP แล้ว ยังมีปรากฏเงาของกลุ่ม IS แต่ทว่ายังไม่สามารถขึ้นมาเทียบชั้นได้

โดยภายใต้ขอเสนอของ CENTCOM และที่อื่นๆ คือ การกำหนดให้ “เยเมนเป็นสมรภูมิรบอย่างเป็นทางการสำหรับกองกำลังสหรัฐฯ” เหมือนกับที่เกิดขึ้นในซีเรีย อิรัก และอัฟกานิสถาน ซึ่งความเคลื่อนไหวนี้จะช่วยให้มีการตัดสินใจลงมาได้เร็วมากยิ่งขึ้น ขยายขอบเขตอำนาจ และรวมไปถึงปฏิบัติการ มากกว่าเป็นเพียงแค่การบุกจู่โจมเป็นครั้งคราว หรือการโจมตีทางอากาศด้วยโดรน

และเดอะการ์เดียน ยังรายงานต่อว่า โดยอ้างอิงจากแหล่งข่าวอดีตเจ้าหน้าที่ความมั่นคงทำเนียบขาวสมัยรัฐบาลสหรัฐฯโอบามาที่อ้างว่า ทำเนียบขาวในสมัยโอบามา “มักลังเล” ที่จะอนุมัติปฏิบัติการพิเศษบุกพื้นที่เป้าหมายของกลุ่ม AQAP ในช่วงปีท้ายๆ ของสมัย ถึงแม้ว่าจะยอมอนุมัติการโจมตีทางอากาศด้วยโดรนก็ตาม

แต่อย่างไรก็ตาม สื่ออังกฤษรายงานว่า ความลังเลนี้ดูเหมือนจะหมดไปในสมัยชุดรัฐบาลทรัมป์ โดยเมื่อในครั้งแรกที่กองบัญชาการกลางสหรัฐฯ CENTCOM ได้เปิดเผยปฏิบัติการบุกเยเมนในวันอาทิตย์ (29 ม.ค.) ทางกองบัญชาการส่งสัญญาณว่า ปฏิบัติการที่เกิดขึ้นนี้เป็นหนึ่งในชุดนโยบายที่แข็งกร้าวต่อกลุ่มผู้เป็นมันสมองในการวางแผนก่อการร้ายในเยเมน และทั่วโลก”

ทั้งนี้ ในปฏิบัติการลับบุกเยเมนครั้งนี้ หน่วยรบพิเศษ SEAL สามารถสังหารสมาชิกกลุ่มก่อการร้ายได้ 14 คน แต่เจ้าหน้าที่คอมมาโดเสียชีวิตในระหว่างการต่อสู้บริเวณภาคพื้น 1 นาย และมีความสูญเสียเกิดขึ้นกับพลเรือนที่เป็นเด็กและสตรีรวมอยู่ด้วย ด้านกลุ่มก่อการร้าย AQAP ออกแถลงการณ์ล่าสุดประณามปฏิบัติการลับบุกเยเมนครั้งนี้ว่า เป็นการลงมือฆ่าหมู่แบบเลือดเย็น
(ขวา)เจ้าหน้าที่หน่วย SEAL วิลเลียม โอเวนส์(William Owens)ตำแหน่ง Chief petty officer
(จากภาพเคลื่อนไหวของการรายงานสื่อสหรัฐฯ CNN) โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และบุตรสาว อีวังกา ทรัมป์  บินด่วนร่วมพิธีศพของเจ้าหน้าที่หน่วยรบพิเศษ SEALทีม#6 วิลเลียม โอเวนส์(William Owens) ในวันอังคาร(31 ม.ค)
โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และบุตรสาว อีวังกา ทรัมป์  บินด่วนร่วมพิธีศพของเจ้าหน้าที่หน่วยรบพิเศษ SEALทีม#6 วิลเลียม โอเวนส์(William Owens) ในวันอังคาร(31 ม.ค)

(ภาพจากแฟ้ม)ภาพหน่วยรบพิเศษ SEALของสหรัฐฯ







กำลังโหลดความคิดเห็น