เอเจนซีส์ - คืนวันจันทร์(30 ม.ค)ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ออกคำสั่งเปลี่ยนตัวรักษาการผู้อำนวยการคนเข้าเมืองและศุลกากรอเมริกา ICE หะทันหัน โดยประกาศให้โทมัส โฮแมน( Thomas Homan) ผู้ช่วยผู้อำนวยการบริหารปฎิบัติการเนรเทศและการบังคับใช้ ขึ้นดำรงตำแหน่งแทนโดยไม่มีเหตุผล และไม่มีการไล่รักษาการเดิมออกเหมือนที่เกิดขึ้นกับกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ซึ่งพบว่า ดานา เบนเต ถูกสั่งเข้าทำหน้าที่รักษาการรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯแทน แซลลี เยตส์ ซึ่งถูกปลดออกฟ้าผ่าเซ่นความหัวแข็งต่อกฎทรัมป์
NBC NEWS สื่อสหรัฐฯรายงานเมื่อวานนี้(30 ม.ค) จอห์น เคลลี(John Kelly)รัฐมนตรีกระทรวงมาตุภูมิและความมั่นคงอเมริกาออกแถลงการณ์สั้นในวันจันทร์(30 ม.ค)ถึงการเปลี่ยนตัวล่าสุดว่า “ผมมีความมั่นใจว่า เขาจะสามารถทำหน้าที่ผู้นำองค์กรได้อย่างเข้มแข็งและมีประสิทธิภาพต่อชายและหญิงในองค์กร ICEแห่งนี้”
ในขณะที่ ICE ออกแถลงการณ์มาเช่นกันในคืนวันจันทร์(30 ม.ค)ว่า ในขณะเดียวกัน แดเนียล แร็กสเดล(Daniel Ragsdale )ที่เดิมทำหน้าที่ตำแหน่งรักษาการผู้อำนวยการ ICE นั้นจะยังคงกลับไปทำหน้าที่ผู้ช่วยอำนวยการตามปกติ
ซึ่งสื่อสหรัฐฯชี้ว่า การเปลี่ยนครั้งนี้ไม่มีการไล่ออกเหมือนอย่างเช่นที่เกิดขึ้นในกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ โดย NBC NEWS ระบุว่า ภาษาที่ใช้ในการประกาศการแต่งตั้งผู้มาแทนแร็กสเดลนั้นแตกต่างจากที่ถูกใช้ในการประกาศในกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เช่นเดียวที่เกิดขึ้นกับอดีตรักษาการรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ แซลลี เยตส์
ทั้งนี้ในส่วนของเยตส์ที่ขึ้นมารับตำแหน่งรักษาการรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯได้ไม่นาน ที่บรรดาสื่อทั่วโลกเรียกว่า “คืนวันจันทร์สังหารหมู่” ทรัมป์ได้ส่งอัยการสหรัฐฯเขตตะวันออกรัฐเวอร์จิเนีย ดานา เบนเต (Dana Boente ) เข้าทำหน้าที่แทนทันที ไม่นานหลังจากที่เยตส์ ที่แต่เดิมดำรงตำแหน่งหัวหน้าแผนก Immigration Litigation ในกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯต้องรับเรื่องคำฟ้องต่อคำสั่งประธานาธิบดีสหรัฐฯตั้งแต่เริ่มบังคับใช้ในวันศุกร์(27 ม.ค) ถึงการแบนวีซ่า 7 ประเทศ
และทำให้เยตส์ซึ่งถูกแต่งตั้งในสมัยอดีตประธานาธิบดี บารัค โอบามา ที่นั่งรักษาการ ได้ออกจดหมายภายในไปยังเจ้าหน้าที่กฎหมายประจำกระทรวงทุกคน***ไม่ให้ปกป้องคำสั่งประธานาธิบดีสหรัฐฯในชั้นศาล*** โดยในจดหมายเยตส์ ประกาศว่า เธอเชื่อมั่นว่า ****คำสั่งของทรัมป์ที่ออกมาในวันศุกร์(27 ม.ค) ไม่ชอบด้วยกฎหมาย***
NBC NEWS รายงานว่า เบนเตถูกเรียกให้เข้าสาบานตนรับทำหน้าที่ว่าการกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯแทนเยตส์ในเวลา 21.00 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯในวันจันทร์(30 ม.ค) และก่อนหน้านั้น เบนเตได้ออกคำสั่งลบล้างคำสั่งเดิมของเยตส์ที่ไม่ให้ปกป้องคำสั่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยเบนเตกล่าวในคำสั่งว่า ทุกคนต้องทำงานตามหน้าที่ซึ่งได้รับการสาบานตน และปกป้องคำสั่งประธานาธิบดีสหรัฐฯที่ชอบด้วยกฎหมาย
โดยในการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ เบนเตออกมาระบุว่า เขาตกลง และพร้อมที่จะบังคับใช้คำสั่งประธานาธิบดีสหรัฐฯในบ่ายวันจันทร์(30 ม.ค)
ด้านชัค ชูเมอร์ ผู้นำสว.เสียงข้างน้อยของพรรคเดโมแครต และดำรงตำแหน่งประธานพรรคเดโมแครต DNC ออกมาชื่นชมความกล้าหาญของแซลลี เยตส์ ว่า เป็นสิ่งที่กล้าหาญ เกิดขึ้นอย่างถูกที่ถูกเวลาและถูกเรื่อง และยังกล่าวต่อผ่านทางทวิตเตอร์ว่า หน้าที่ของรักษาการรัฐมนตรีกระทรวงยุติรรมสหรัฐฯ ต้องปกป้องกฎหมายและรัฐธรรมนูญอเมริกา ไม่ใช่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ