xs
xsm
sm
md
lg

“ทรัมป์” อ้างแบนวีซ่าไม่ได้กีดกัน “มุสลิม” ทำเนียบขาวชี้คนมะกัน 80% เห็นด้วย-ยันไม่กระทบผู้ถือ “กรีนการ์ด”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ผู้ประท้วงหลายพันคนเดินขบวนไปตามถนนเพนซิลเวเนียอเวนิวในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวันที่ 29 ม.ค. เพื่อคักค้านคำสั่งบริหารของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ห้ามผู้ลี้ภัยซีเรียและพลเมืองจาก 7 ประเทศมุสลิมเดินทางเข้าสหรัฐฯ
เอเอฟพี - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ยืนยันมาตรการแบนวีซ่าพลเมือง 7 ประเทศไม่ได้จงใจกีดกันชาวมุสลิม แต่เพื่อปกป้องอเมริกาจากผู้ก่อการร้าย ขณะที่โฆษกทำเนียบขาวระบุชาวอเมริกัน 75-80% เห็นด้วยกับนโยบายนี้ พร้อมยืนยันจะไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ถือ “กรีนการ์ด”

มาตรการแบนผู้ลี้ภัยอย่างน้อย 120 วันทำให้ ทรัมป์ ต้องเผชิญกระแสประท้วงอย่างรุนแรงทั่วโลก ซึ่งถือเป็นบททดสอบแรกที่หนักหน่วงสำหรับผู้นำคนใหม่ที่เข้ารับตำแหน่งได้เพียง 9 วัน

ภายใต้คำสั่งบริหารของทรัมป์ ผู้ลี้ภัยชาวซีเรียจะถูกห้ามเข้าสหรัฐฯ อย่างไม่มีกำหนด ส่วนพลเมืองอิหร่าน อิรัก ลิเบีย โซมาเลีย ซูดาน ซีเรีย และเยเมนจะถูกห้ามเข้าอเมริกาเป็นเวลา 90 วัน

มาตรการนี้เรียกเสียงวิจารณ์อื้ออึงจากชาติพันธมิตรของสหรัฐฯ และยังก่อให้เกิดความสับสนเรื่องการบังคับใช้ ขณะที่พรรคเดโมแครตก็ยกประเด็นนี้ขึ้นมาโจมตีรัฐบาลเต็มที่ แม้แต่คนในพรรครีพับลิกันเองก็นั่งไม่ติด

ผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลาง 4 คนตัดสินใจงัดข้อกับรัฐบาลด้วยการพิพากษาให้ที่พักพิงแก่ผู้ที่ถูกกักตัวเพื่อเนรเทศ ล่าสุดมีรายงานผู้คนถูกกักตัวหรือห้ามเข้าสหรัฐฯ ราวๆ 300 คน ขณะที่ทนายความด้านสิทธิพลเมืองเตือนว่า ปัญหานี้อาจนำไปสู่การต่อสู้ทางกฎหมายระหว่างรัฐบาลทรัมป์กับศาลสูงสุด

ประชาชนหลายพันคนออกมาชุมนุมประท้วงตามท้องถนนและสนามบินต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 เพื่อคัดค้านคำสั่งบริหารของทรัมป์ ขณะที่ทนายความก็เร่งช่วยเหลือคนเดินทางที่ถูกกักตัว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพวกที่ขึ้นเครื่องบินมายังสหรัฐฯ ก่อนที่ ทรัมป์ จะลงนามในคำสั่งแบน

ทรัมป์ ได้ออกคำแถลงอย่างเป็นทางการจากทำเนียบขาว ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้จงใจแบนชาวมุสลิม พร้อมตำหนิสื่อมวลชนว่ารายงานผิดพลาด

“ขอให้เข้าใจชัดเจนว่านี่ไม่ใช่การแบนชาวมุสลิมอย่างที่สื่อเอาไปรายงานผิดๆ มันไม่เกี่ยวกับศาสนา แต่เกี่ยวกับลัทธิก่อการร้าย และการปกป้องประเทศของเราให้ปลอดภัย” ทรัมป์ ระบุ

เขายังเปรียบเทียบนโยบายนี้กับคำสั่งของอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา ซึ่งเคยสั่งห้ามผู้ลี้ภัยอิรักเข้าสหรัฐฯ 6 เดือน เมื่อปี 2011

คำสั่งของโอบามาซึ่งก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในขณะนั้น กำหนดให้ผู้ที่เคยเดินทางไปยัง 7 ประเทศดังกล่าวในช่วง 5 ปีจะต้องขอวีซ่าเข้าสหรัฐฯ

ทรัมป์ ยังโพสต์ทวิตเตอร์แขวะ ส.ว.จอห์น แม็กเคน และ ส.ว.ลินด์ซีย์ เกนแฮม ซึ่งเป็นคนในพรรครีพับลิกันที่ไม่เห็นด้วยกับคำสั่งแบนของเขาว่า “คิดผิด”, “อ่อนแอเรื่องคนเข้าเมือง” และ “อยากจะก่อสงครามโลกครั้งที่ 3”

มหาเศรษฐีปากเปราะผู้ไม่เคยดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆ มาก่อนเชื่อว่าเขากำลังรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับชาวอเมริกันเรื่องการนำระบบคัดกรองเข้มข้น (extreme vetting) มาใช้กับพลเมืองประเทศมุสลิม เพื่อให้อเมริกาปลอดภัยจาก “ผู้ก่อการร้ายอิสลามหัวรุนแรง”

“นี่คือสิ่งที่ชาวอเมริกัน 75-80% เห็นด้วย” ไรน์ซ พรีบัส ประธานคณะเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวให้สัมภาษณ์ในรายการ Meet the Press ทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซี

พรีบัส ระบุด้วยว่า คำสั่งแบนชั่วคราวนี้ “ไม่ได้ครอบคลุมถึงผู้ที่ถือกรีนการ์ด” แต่ใครก็ตามที่เดินทางไปหรือกลับจาก 7 ประเทศเหล่านี้ต้องผ่านมาตรการคัดกรองเป็นกรณีพิเศษ แม้จะเป็นพลเมืองอเมริกันก็ตาม

กรีนการ์ดเป็นเอกสารที่กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ ออกให้แก่บุคคลที่เกิดนอกประเทศ เพื่ออนุญาตให้พำนักและทำงานในสหรัฐอเมริกาได้ โดยเป็นหลักฐานยืนยันว่าผู้ถือเป็นผู้พำนักถาวร และเป็นขั้นตอนหนึ่งที่จะนำไปสู่การได้สัญชาติอเมริกัน

ล่าสุดยังไม่มีตัวเลขที่ชัดเจนว่ามีผู้ถูกกักตัวมากน้อยเท่าใดเมื่อวานนี้ (29 ม.ค.) แต่บรรดาผู้ช่วยของทรัมป์ ต่างออกมาอ้างว่า มีแค่ “ไม่กี่สิบคน”






กำลังโหลดความคิดเห็น