รอยเตอร์ - โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ฟุ้งการสนทนาเป็นไปอย่างฉันมิตร หลังต่อสายตรงพูดคุยกับประธานาธิบดี เอนริเก เปญา เนียโต ของเม็กซิโก ในวันศุกร์ (27 ม.ค.) แต่ยืนยันจะเจรจาข้อตกลงการค้าและแง่มุมอื่นๆ ด้านความสัมพันธ์ระหว่างสองชาติใหม่ ขณะที่ รบ.จังโก้ เผย ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องจะไม่หยิบยกประเด็นค่าก่อสร้างกำแพงมาพูดต่อสาธารณะอีก หลังเรื่องนี้กลายเป็นประเด็นร้อนในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
“การพูดคุยเป็นไปด้วยความฉันมิตรอย่างมาก” ทรัมป์ เปิดเผยระหว่างแถลงข่าวร่วมกับ เทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ที่เดินทางมาเยือนทำเนียบขาว “เรากำลังทำงานบนความสัมพันธ์ที่ยุติธรรม และความสัมพันธ์ใหม่กับเม็กซิโก” อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ แสดงจุดยืนที่แข็งกร้าว ว่า “แต่สหรัฐฯไม่อาจสูญเสียภาคธุรกิจใหญ่โตมโหฬารเช่นนี้ได้อีกต่อไป ผู้คนหลายล้านต้องตกงาน กับผมแล้ว มันจะไม่เกิดขึ้นอีก”
คำยืนยันรอบใหม่เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่า เม็กซิโกจะเป็นผู้จ่ายค่าก่อสร้างกำแพงกั้นชายแดนระหว่างสองชาติ ก่อวิกฤตในความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ในสัปดาห์แรกของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์
กระนั้น ทรัมป์ บอกว่า สหรัฐฯ “จะเปิดเจรจาข้อตกลงการค้าต่างๆ ใหม่ และเราจะเจรจาแง่มุมอื่นๆ ในด้านความสัมพันธ์กับเม็กซิโกใหม่ และในท้ายที่สุด ผมคิดว่ามันจะดีกับทั้งสองประเทศ”
ในวันพุธ (25 ม.ค.) ทรัมป์ สั่งการให้เจ้าหน้าที่เริ่มวางแผน ออกแบบ และก่อสร้างกำแพงตามแนวชายแดนด้านใต้ติดกับเม็กซิโก ระยะทาง 3,200 กิโลเมตร โดยที่แดนจังโก้จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในโครงการนี้ พร้อมประกาศนับจากวันนี้ไป อเมริกาจะกลับมาควบคุมแนวชายแดนของตนเอง เพื่อสกัดกั้นการลักลอบเข้าประเทศของผู้อพยพและอาชญากร รวมทั้งการขนส่งยาเสพติด
อย่างไรก็ตาม เม็กซิโก ยืนกรานว่า จะไม่ยอมทำตามคำเรียกร้องของ ทรัมป์ ที่ต้องการให้เม็กซิโก รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างกำแพงกั้นชายแดนระหว่างสองประเทศ
ทั้งนี้ การพูดคุยกันทางโทรศัพท์ราว 1 ชั่วโมงในวันศุกร์ (27 ม.ค.) มีขึ้นหลังจาก ประธานาธิบดี เปญา เนียโต ยกเลิกแผนเดินทางเยือนวอชิงตันในสัปดาห์หน้า ตอบโต้จุดยืนของทรัมป์ ที่ต้องการให้เม็กซิโก รับผิดชอบค่าก่อสร้างกำแพงมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์
ด้านรัฐบาลเม็กซิโกออกถ้อยแถลงหลังการหารือ ระบุว่า ประธานาธิบดี เปญา เนียโต และ ทรัมป์ เห็นพ้องจะไม่หยิบยกเรื่องค่าก่อสร้างกำแพงมาพูดในที่สาธารณะอีก
รัฐบาลเม็กซิโกระบุในถ้อยแถลง ว่า ระหว่างการพูดคุยทางโทรศัพท์ในวันศุกร์ (27 ม.ค.) ทั้งสองได้พูดคุยอย่างสร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ ครอบคลุมประเด็นต่างๆนานา อย่างเช่น ตัวเลขขาดดุลการค้าต่อเม็กซิโกของสหรัฐฯ และการไหลบ่าข้ามชายแดนของอาวุธผิดกฎหมายและยาเสพติด
“ในเรื่องของกำแพงชายแดน ประธานาธิบดีทั้งสอง 2 ตระหนักว่า พวกเขามีความเห็นต่างกันอย่างเปิดเผยในประเด็นอ่อนไหวนี้ และเห็นพ้องว่าต้องคลี่คลายความเห็นต่างนั้นในส่วนหนึ่งของการหารืออย่างครอบคลุมในทุกแง่มุมของความสัมพันธ์ทวิภาคี” ถ้อยแถลงระบุ “ท่านประธานาธิบดีทั้งสองยังเห็นพ้องด้วยว่าจะไม่ถูกถึงประเด็นโต้เถียงนี้ในที่สาธารณะอีกแล้ว”
เมื่อวันพฤหัสบดี (26 ม.ค.) สกุลเงินเปโซของเม็กซิโกดิ่งลงหนัก หลังจาก ฌอน สไปเซอร์ โฆษกทำเนียบขาวบอกว่าทรัมป์ จะเรียกเก็บภาษีใหม่ 20 เปอร์เซ็นต์ต่อสินค้าต่างๆ ที่นำเข้าจากเม็กซิโก เพื่อสร้างกำแพงกั้นชายแดนระหว่างสองชาติ
สไปเซอร์ ให้รายละเอียดแค่เล็กน้อย แต่มันทำให้นึกถึงแนวคิดที่เรียกกันว่าภาษีชายแดน ซึ่งเวลานี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎกรสหรัฐฯ ที่พรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก ส่วนหนึ่งในแผนยกเครื่องทางภาษีอย่างกว้างขวาง