รอยเตอร์/มาร์เกตวอตช์ - ดาวโจนส์พุ่งเหนือ 20,000 จุดเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ จากรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งและมุมมองทางบวกต่อนโยบายหนุนการเติบโตของประธานาธิบดีทรัมป์ ความเคลื่อนไหวของวอลล์สตรีทฉุดทองคำลงแรง ส่วนราคาน้ำมันปรับลดเล็กน้อย
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 155.80 จุด (0.78 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 20,068.51 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 18.30จุด (0.80 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,298.37 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 55.38 จุด (0.99 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,656.34 จุด
เอสแอนด์พี 500 และแนสแดค ต่างก็ทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลเช่นกันและเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน
ทรัมป์ ดำเนินการตัดสินใจที่เป็นมิตรกับภาคธุรกิจหลายอย่างนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันศุกร์ (20 ม.ค.) ในนั้นรวมถึงลงนามในคำสั่งพิเศษลดกฎระเบียบที่เป็นภาระต่อพวกผู้ผลิตภายในประเทศ และเปิดทางสำหรับก่อสร้างท่อลำเลียงน้ำมัน 2 แห่ง
วอลล์สตรีทเคยเฉียดใกล้ 20,000 จุดมาแล้วหนหนึ่งเมื่อวันที่ 6 มกราคม ด้วยนักลงทุนคาดหวังต่อนโยบายสนับสนุนการเติบโตและปรับลดภาษีของรัฐบาลใหม่
อย่างไรก็ตาม ดัชนีแกว่งตัวลงในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนรอความชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายสนับสนุนการเติบโตของทรัมป์
ความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นสหรัฐฯ หันเหนักลงทุนไปจากสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ ส่งผลให้ราคาทองคำในวันพุธ (25 ม.ค.) ปิดลบแรง แตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 13 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,197.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ส่วนตลาดน้ำมันในวันพุธ (25 ม.ค.) ขยับลงเล็กน้อย ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน หลังพบคลังเชื้อเพลิงสำรองของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 3 สัปดาห์ติดต่อกัน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลง 43 เซ็นต์ ปิดที่ 52.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 36 เซ็นต์ ปิดที่ 55.08 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ เผยแพร่รายงานเมื่อวันศุกร์ (25 ม.ค.) ระบุคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 20 มกราคม เพิ่มขึ้น 2.8 ล้านบาร์เรล
ตัวเลขดังกล่าวมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้พอสมควร โดยผลสำรวจความคิดเห็นของวอลล์สตรีท เจอนัล คาดว่าสต๊อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้นราว 2.1 ล้านบาร์เรล ส่วนโพลของเอสแอนด์พี โกลบัล แพลตส์ คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.9 ล้านบาร์เรล