รอยเตอร์ - รัฐบาลทหารของไทยอนุมัติงบประมาณ 13,500 ล้านบาท สำหรับจัดซื้อเรือดำน้ำลำหนึ่งจากจีน หลังจากโครงการนี้ถูกระงับไปเมื่อปีที่แล้ว รอยเตอร์อ้างคำสัมภาษณ์ของเจ้าหน้าที่ในวันพุธ (25 ม.ค.) ความเคลื่อนไหวซึ่งเกิดขึ้นแม้มีข้อถกเถียงว่าไทยจำเป็นต้องมีเรือดำน้ำหรือไม่
นอกจากนี้ รอยเตอร์รายงานด้วยว่าทางกองทัพไทยจะซื้อรถถังและยานยนต์จากจีนอีก 10 คัน เพิ่มเติมจากคำสั่งซื้อรถถังประจัญบาน 28 คันเมื่อปีที่แล้ว
ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและไทย พันธมิตรเก่าแก่ที่สุดในอาเซียนของสหรัฐฯ แน่นแฟ้นขึ้น นับตั้งแต่ความสัมพันธ์กับอเมริกาตกอยู่ท่ามกลางความมึนตึง หลังเหตุรัฐประหารปี 2014
รอยเตอร์ระบุว่าคำสั่งซื้อเรือดำน้ำถูกระงับไปเมื่อปีที่แล้ว หลังถูกวิพากษ์วิจารณ์จากสาธารณชนและโดนตั้งคำถามว่าไทยมีความจำเป็นต้องมีเรือดำน้ำหรือไม่
เจ้าหน้าที่ของกองทัพเรือเผยว่าการเจรจากับรัฐบาลจีนใกล้ได้ข้อสรุปและได้จัดสรรงบประมาณสำหรับทยอยจ่ายค่าเรือดำน้ำเป็นเวลา 6 ปี “เราอยู่ในขั้นตอนการเจรจา แต่ปีนี้จะมีการลงนามในข้อตกลงอย่างแน่นอน เพราะเราได้งบประมาณแล้ว” พล.ร.อ.จุมพล ลุมพิกานนท์ โฆษกกองทัพเรือบอกกับรอยเตอร์
พล.ร.อ.จุมพลกล่าวกับรอยเตอร์ด้วยว่าเรือดำน้ำจะช่วยให้กองทัพเรือได้ศึกษากลยุทธ์ต่างๆ และเรียนรู้วิธีการใช้เรือดำน้ำทำสงครามกับไทย
รายงานของรอยเตอร์ระบุว่า ความมั่นคงทางทะเลนับเป็นประเด็นร้อนของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีการช่วงชิงกรรมสิทธิ์เหนือพื้นที่ต่างๆ ในทะเลจีนใต้ อย่างไรก็ตาม ไทยไม่เกี่ยวข้องกับข้อพิพาทนี้
กองทัพไทยยังได้จัดสรรงบประมาณ 3 พันล้านบาทในช่วง 3 ปีข้างหน้า สำหรับซื้อรถถังและยานยนต์จากจีนอีก 10 คัน เพิ่มเติมจากคำสั่งซื้อรถถังประจัญบาน 28 คันเมื่อปีที่แล้ว จากการเปิดเผยของพลเอกชาตอุดม ติตถะสิริ รองปลัดกระทรวงกลาโหม
รอยเตอร์ระบุว่า จีนเป็นมหาอำนาจชาติแรกที่ให้การยอมรับคณะรัฐประหารของไทย ตามหลังการยึดอำนาจในปี 2014 ส่วนสหรัฐฯ ตอบโต้เหตุรัฐประหารด้วยการระงับเงินช่วยเหลือที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง 4.7 ล้านดอลลาร์ และยกเลิกข้อตกลงด้านความมั่นคงบางส่วน