เอเจนซีส์ – อิสราเอลอนุมัติการขยายจำนวนบ้านของชาวอาณานิคมสร้างตนเองยิวครั้งใหญ่ร่วม 2,500 หลังในเขตเวสต์แบงก์ หลัง 2 วันก่อนหน้านี้คณะรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีอิสราเอลเบนจามิน เนทันยาฮูอนุมัติการก่อสร้างบ้านในเขตสร้างตนเองเยรูซาเลมตะวันออก เป็นครั้งแรกหลังจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่ง
หนังสือพิมพ์ดิอินดีเพนเดนต์รายงานเมื่อวานนี้(24 ม.ค)ว่า อิสราเอลล่าสุดอนุมัติการก่อสร้างบ้าน 2,500 หลังในเขตอาณานิคมสร้างตนเองในเขตเวสต์แบงก์ ที่ชี้ให้เห็นถึงนโยบายแข็งกร้าวรอบใหม่ภายใต้ปีกการขึ้นมาบริหารประเทศของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์
โดยในวันอังคาร(24 ม.ค) กระทรวงกลาโหมอิสราเอลประกาศการขยายบ้านในเขตอาณานิคมสร้างตนเองยิวหลังจากก่อนหน้านี้ในวันอาทิตย์(22 ม.ค) คณะรัฐมนตรีของเนทันยาฮูได้อนุมัติการก่อสร้างบ้านผู้ตั้งถิ่นฐานชาวยิวเพิ่ม 566 หลังในเมืองเยรูซาเลมตะวันออก
ด้านองค์การเสรีภาพปาเลสไตน์ PLO ออกมาเรียกร้องให้ประชาคมโลกแสดงบทบาทต่อการขยายเขตปกครองตนเองของยิวในครั้งนี้ โดยในแถลงการณ์ของทาง PLO กล่าวว่า ทางกลุ่มเชื่อว่า ความเคลื่อนไหวล่าสุดที่เกิดขึ้นจากทางรัฐบาลอิสราเอลในครั้งนี้ เป็นผลมาจากการสนับสนุนของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์
โดยอิสราเอลระบุว่า บ้านเรือนของชาวยิวที่จะถูกก่อสร้างใหม่นั้น จะเกิดขึ้นในส่วนของเขตก่อตั้งอาณานิคมเดิมที่มีอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว เพื่อตอบสนองต่อความต้องการมีที่อยู่อาศัยของชาวยิว รายงานจากแถลงการณ์ที่ลงนามโดยนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู และรัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล อาวิกดอร์ ลีบเบอร์มาน(Avigdor Lieberman)
อย่างไรก็ตามในขณะนี้ สื่ออังกฤษชี้ว่า ยังไม่ปรากฏว่าแผนการขยายการก่อสร้างบ้านเรือนในเขตตั้งถิ่นฐานชาวยิวล่าสุดนั้นถูกวางแผนล่วงหน้าก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯหรือไม่ เนื่องจากมีกระบวนการหลายเฟสที่ต้องดำเนินการ
ซึ่งการก่อสร้างบ้านในเขตเมืองเยรูซาเลมตะวันออกต้องชะงักไปในสมัยอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา แต่ทว่าแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่อิสราเอลให้ข้อมูลกับสื่อกาตาร์ว่า ใบอนุญาตการก่อสร้างถูกระงับลงในช่วงสมัยการดำรงตำแหน่งของโอบามา และเมื่อสิ้นสุดสมัยการดำรงตำแหน่ง อิสราเอลเป็นอิสระไม่ถูกมัดมืออีกต่อไป และสามารถสร้างบ้านเรือนให้กับชาวอาณานิคมยิวได้
ดิอินดีเพนเดนต์ชี้ว่า ในปัจจุบันนี้คาดว่ามีจำนวนผู้ตั้งถิ่นฐานเขตสร้างตนเองชาวยิวมากถึง 550,000 คนในเขตเวสต์แบงก์ โดยปาเลสไตน์ได้ออกมาประณามการประกาศสร้างบ้านเรือนของผู้ตั้งถิ่นฐานชาวยิว และชี้ว่าเป็นการขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ ทั้งนี้ชาวยิวคนใดก็ตามที่สร้างบ้านเรือนในเขตเวสต์แบงก์และเขตเมืองเยรูซาเลมตะวันออกเหนือเส้นกรีนไลน์ 1967 จะถูกมองว่าละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ
โดยโฆษกประธานาธิบดีปาเสสไตน์ มาห์มูด อับบาส ออกแถลงการณ์ว่า ความพยายามในการสร้างสันติภาพภายในภูมิภาคต้องหมดไป และยังเป็นการสงเสริมให้เกิดความรุนแรงเกิดขึ้น
ในขณะที่นักข่าวอัลญะซีเราะฮ์ที่รายงานมาจากเขตเมืองยรูซาเลมตะวันออกได้ให้ความเห็นว่า จากแถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมยิวที่มีขึ้นในวันอังคาร(24 ม.ค) ได้ระบุว่า เฟสแรกของการก่อสร้างบ้าน 100 หลังแรกจะเกิดขึ้นในเบต เอล (Beit El) บริเวณอาณาเขตนิคมสร้างตนเองชาวยิว ซึ่งเป็นจุดที่ลึกเข้าไปในดินแดนปาเลสไตน์
นโยบายที่อนุมัติออกมาล่าสุดของเนทันยาฮูสร้างความโกรธให้กับรัฐบาลปาเลสไตน์ ที่ระบุว่าเป็นเสมือนการหมิ่นต่อมติขององค์การสหประชาชาติซึ่งหน้า “พวกเขากล่าวว่า เป็นการสิ้นสุดทางออกแนวทางแก้ปัญหา 2 นคราของยูเอ็น” นักข่าวอัญะซีเราะฮ์ในพื้นที่รายงาน
โดยในการแถลงผ่านทางทวิตเตอร์ของเนทันยาฮูหลังการประกาศของรัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล ผู้นำอิสราเอลประกาศว่า “เราจะสร้าง และจะก่อสร้างต่อไปเรื่อยๆโดยไม่มีหยุด”