เอเอฟพี - บังกลาเทศเริ่มปลูกต้นไม้หนึ่งล้านต้นทั่วประเทศ เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้คนหลายร้อยถูกฟ้าผ่าตายในแต่ละปี เจ้าหน้าที่ระดับสูงรายหนึ่งกล่าวในวันนี้ (24)
เมื่อปีที่แล้วทางการประกาศให้ฟ้าผ่าเป็นภัยพิบัติธรรมชาติในขณะที่ยอดเสียชีวิตอย่างเป็นทางการเมื่อปีที่แล้วอยู่ที่ 200 คน โดยเมื่อเดือนพฤษภาคมมีผู้เสียชีวิตถึง 82 คน ในวันๆ เดียว
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ตัวเลขที่แท้จริงมากกว่านี้อย่างแน่นอน ผู้สังเกตการณ์อิสระรายหนึ่ง ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตจากฟ้าผ่า 349 คน ในปี 2016 คนจำนวนมากที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกลไม่ได้แจ้งการเสียชีวิตต่อตำรวจ
เจ้าหน้าที่ภัยพิบัติใช้เวลาหลายเดือนหาวิธีลดยอดผู้เสียชีวิตดังกล่าว และโครงการปลูกต้นไม้น่าจะเป็นมาตรการแรกในหลายๆ มาตรการที่รัฐบาลนำมาใช้
“เราเริ่มการปลูกต้นปาล์มในพื้นที่ห่างไกลในความพยายามลดตัวเลขผู้เสียชีวิตจากฟ้าผ่า” ชาห์ คามัล รัฐมนตรีกระทรวงภัยพิบัติแห่งชาติ บอกกับเอเอฟพี “เราจะปลูกต้นปาล์มหนึ่งล้านให้ได้ภายในเดือนมิถุนายนปีนี้”
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตที่สูงส่วนหนึ่งเกิดจากการขาดแคลนต้นไม้ ซึ่งกิ่งก้านของมันสามารถดูดซับผลกระทบจากฟ้าผ่าได้ ถึงแม้ว่าต้นไม้จะได้รับความเสียหายแต่มันจะทำให้ประจุไฟฟ้าไม่ไหลผ่านพื้นดิน
คามัล กล่าวว่า โครงการเดียวกันนี้ เคยทำให้เห็นผลลัพธ์มาแล้วในไทย และเสริมว่า ทีมเจ้าหน้าที่บังกลาเทศก็เดินทางไปยังเวียดนามเพื่อศึกษาวิธีการที่ทางการเวียดนามปกป้องเกษตรกรตามดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง
นักอุตุนิยมวิทยารายหนึ่ง ซึ่งทำการวิจัยเกี่ยวกับฟ้าผ่ากล่าวว่า การปลูกต้นไม้น่าจะช่วยลดจำนวนผูเสียชีวิตได้ในที่สุด แต่กว่าจะเห็นผลก็ต้องใช้เวลา
“ต้นปาล์มใช้เวลาหลายปีกว่าจะโต แต่แน่นอน นี่เป็นความเคลื่อนไหวที่ดีของรัฐบาล มันจะลดการเสียชีวิต” ชาห์ อลัม อดีตผู้อำนวยการสำนักงานอุตุนิยมวิทยาของบังกลาเทศ บอกกับเอเอฟพี
อลัม กล่าวว่า จำนวนฟ้าผ่าเพิ่มมากขึ้นในบังกลาเทศท่ามกลางการตัดไม้ทำลายป่าที่เพิ่มขึ้นในพื้นที่ห่างไกลซึ่งเกษตรกรมักตัดต้นไม้เพื่อให้พวกเขาสามารถปลูกข้าวและพืชผลอื่นๆ ได้มากขึ้น