เอพี – มาจนถึงทุกวันนี้ยังไม่มีใครทราบแน่ชัดถึงชะตากรรม นักท่องเที่ยวอเมริกันวัย 21 ปี ออตโต วอร์มเบียร์(Otto Warmbier) นักศึกษามหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย ที่เดินทางเข้าเกาหลีเหนือพร้อมกับกรู๊ปทัวร์ ซึ่งถูกเปียงยางตัดสินโทษใช้แรงงานในค่ายกักกัน 15 ปี หลังเปียงยางยัดข้อหา “โค่นล้มรัฐบาลเกาหลีเหนือ” จากการที่วอร์มเบียร์แอบขโมยป้ายประกาศของเกาหลีเหนือเพื่อให้เพื่อนหญิงระหว่างการเดินทางภายในเกาหลีเหนือ
เอพีรายงานล่าสุดว่า ในแถลงการณ์ที่ดูเหมือนจัดฉากขึ้นในการปรากฏตัวครั้งสุดท้ายของ นักศึกษามหาวิทยาลัยเวอร์จิเนียในซับเบอร์เบิน ซินซีเนติ รัฐโอไฮโอ ออตโต วอร์มเบียร์(Otto Warmbier) วัย 21 ปี ยอมรับด้วยน้ำตาว่า เขาได้แอบขโมยป้ายประกาศของรัฐบาลเกาหลีเหนือ เพื่อนำกลับไปให้เพื่อนหญิงในรัฐโอไฮโอแขวนไว้ที่โบสถ์ของเธอ นั้นถูกวอชิงตันมองว่าเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมือง ซึ่งนักศึกษาชาวอเมริกันรายนี้เดินทางเข้าเกาหลีเหนือในช่วงเวลาที่มีความตรึงเครียดสูงระหว่างทั้งสองประเทศ
โดยกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯได้ประณามการตัดลงโทษวอร์มเบียร์เป็นการลงโทษที่รุนแรง ในขณะที่โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ จอห์น เคอร์บี ในชุดรัฐบาลสหรัฐฯโอบามา ได้ออกแถลงการณ์ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเพื่อตอบคำถามเอพีที่ว่า กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯยังคงทำงานอย่างต่อเนื่องในการที่จะช่วยเหลือเพื่อให้นักศึกษามหาวิทยาลัยเวอร์จิเนียรายนี้ได้รับการปล่อยตัวโดยเร็วที่สุดหรือไม่
ซึ่งพบว่า วอร์มเบียร์ไม่ได้เข้าสู่กระบวนการทางยุติธรรมของเกาหลีเหนือ และดูเหมือนว่านักศึกษาวัย 21 ปีผู้นี้ถูกขังอยู่ในค่ายแรงงานทาสเกาหลีเหนือนานกว่า 1 ปีแล้ว
โดยในแถลงการณ์ของเคอร์บีกล่าวว่า “ทางกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯยังคงเรียกร้องให้เกาหลีเหนืออภัยโทษให้กับพลเมืองสหรัฐฯรายนี้ และทำการปล่อยตัวเป็นอิสระเพื่อมนุษยธรรม”
ก่อนหน้านี้พบว่า นักท่องเที่ยวชาวอเมริกันอีกราย เจฟฟรี เฟล (Jeffrey Fowle) ถูกจับในปี 2014 หลังจากที่พบว่า ได้ทิ้งคัมภีร์ไบเบิลไว้ในห้องน้ำในไนท์คลับแห่งหนึ่งในเกาหลีเหนือในระหว่างท่องเที่ยว และอีก 6 เดือนต่อมาเฟลได้รับการปล่อยตัว
เอพีรายงานเพิ่มเติมว่า เป็นที่น่าเสียดายว่าเปียงยางปฎิเสธคำร้องขอของเอพีนับครั้งไม่ถ้วนในความต้องการที่จะสัมภาษณ์วอร์มเบียร์ ในขณะที่ครอบครัวของนักท่องเที่ยวอเมริกันรายนี้ รวมไปถึงกลุ่มคนรู้จักต่างระมัดระวังในการให้สัมภาษณ์ ด้านโฆษกผู้ว่าการรัฐโอไฮโอ จอห์น คาซิค ได้กล่าวว่า คาซิคยังคงมีความวิตกกังวลต่อชะตากรรมของวอร์มเบียร์ และได้เรียกร้องไปยังหน่วยงานรัฐบาลกลางสหรัฐฯที่เกี่ยวข้อง ให้ข้อมูลล่าสุดกับทางครอบครัวของวอร์มเบียร์
ด้านเฟรด วอร์มเบียร์ (Fred Warmbier)พ่อของวอร์มเบียร์ได้กล่าวถึงลูกชายว่า หลังจากที่มีการปรากฏตัวของออตโต วอร์มเบียร์ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2016 เขาไม่สามารถติดต่อลูกชายได้อีกเลยหลังจากนั้น และหวังว่า การออกมาขออภัยอย่างสุจริตใจของลูกชายจะช่วยทำให้เปียงยางยอมใจอ่อน และยินยอมปล่อยตัวกลับบ้านอย่างปลอดภัย เอพีรายงานว่า แถลงการณ์ของเฟรด วอร์มเบียร์ออกมาผ่านทางมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย
เอพีรายงานว่า ถึงแม้ว่าจะมีข่าวของวอร์มเบียร์ออกมาจากเกาหลีเหนือน้อยมากหลังจากที่นักศึกษามหาวิทยาลัยเวอร์จิเนียวัย 21ปีรายนี้ถูกตัดสินลงโทษในเดือนมีนาคม 2016 แต่อาจมีความเปลี่ยนแปลงเนื่องมาจากรัฐบาลสหรัฐฯภายใต้การบริหารของประธานาธิบดัโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เคยออกมาชี้ว่า จะพยายามกระตุ้นจีนให้ช่วยผลักดันให้เกาหลีเหนือทำการปล่อยตัวพลเมืองสหรัฐฯโดยเร็ว และในช่วงการหาเสียงประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทรัมป์เคยออกมาประกาศว่า เขาพร้อมที่จะพบกับประธานาธิบดีเกาหลีเหนือ คิม จองอุน
ซึ่งเกือบที่จะไม่เป็นที่น่าสงสัยเลยว่า เปียงยางจะใช้โอกาสนี้ด้วยการใช้วอร์มเบียร์เป็นตัวล่อ เพื่อให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯเดินทางไปยัง “kowtow” เพื่อร้องขอตัววอร์มเบียร์กลับบ้าน ศาสตราจารย์เกียร์ติคุณ วอลเตอร์ เคลเมนส์(Walter Clemens) ผู้เชี่ยวชาญด้านเกาหลีเหนือประจำมหาวิทยาลัยบอสตันกล่าวให้ความเห็น
แต่อย่างไรก็ตาม เคลเมนซ์ชี้ว่า การพบปะครั้งนี้อาจนำไปสู่โอกาสที่ดีในการทำให้สถานการณ์ความตรึงเครียดนั้นดีขึ้น “ถือเป็นสถานการณ์ที่ร้ายสำหรับครอบครัวและต่อตัวคุณวอร์มเบียร์” และชี้ว่า “อย่างไรก็ตาม เขาอาจถูกมองว่าเป็นสะพานเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือและสหรัฐฯ”
ด้านแอนโธนี พี เด บรุน( Anthony P. de Bruyn) โฆษกมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนียแถลงว่า “ยังไม่ทราบถึงแถลงการณ์ที่ออกมาจากครอบครัววอร์มเบียร์” และเสริมต่อว่า “ตัวเขาไม่ใช่โฆษกของครอบครัววอร์มเบียร์”
โดยบรุนกล่าวว่า “ทางมหาวิทยาลัยยังคงติดตามสถานการณ์ที่น่าเศร้านี้อย่างใกล้ชิดที่เกี่ยวข้องกับนักศึกษา ออตโต วอร์มเบียร์ และยังคงติดต่อกับครอบครัวของเข้าอย่างใกล้ชิด”
ด้านสว.ประจำรัฐสภาโอไฮโอ เขตซินซิเนติ ร็อบ พอร์ตแมน(Rob Portman) ได้ออกมาให้ความเห็นสอดคล้องกันที่ว่า ยังคงติดตามความเคลื่อนไหววอร์มเบียร์อย่างใกล้ชิด
