เอเจนซีส์/MGR ออนไลน์ - ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ บรรจงร่างสุนทรพจน์สาบานตนเข้ารับตำแหน่งจากไวท์เฮาส์ฤดูหนาว “Mar-a-Lago” ที่พักส่วนตัวในรัฐฟลอริดา 3 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ ประกาศจุดยืนล่าสุดจะสมานฉันท์ ลบรอยแผลใจอเมริกา บลูสเตท เรดสเตท ในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในช่วงบ่ายวันนี้ (20 ม.ค.) พร้อมประกาศเปรี้ยง ชัยชนะของทรัมป์ไม่ใช่สิ่งที่โลกเคยเห็นมาก่อน ท่ามกลางสักขีพยานอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ 3 คนเข้าร่วม พร้อมประธานาธิบดีบารัค โอบามา รับสภาพอากาศที่อึมครึมและชื้นแฉะฝนตก และสมาชิกสภาคองเกรสสายพรรคเดโมแครตไม่ต่ำกว่า 60 คนล่าสุดประกาศบอยคอตไม่เข้าร่วม แต่ไม่รวมถึงตัวแทนไต้หวัน อดีตนายกรัฐมนตรี Yu Shyi-kun และ 3 ผู้นำตั้งถิ่นฐานชาวยิวที่ได้รับเชิญโดยตรงจากทรัมป์เข้าร่วมแสดงความยินดี
หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษรายงานล่าสุดวันนี้ (20 ม.ค.) ถึงบรรยากาศสุดคึกคักของวันพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด ที่พิธีการสาบานตนถูกจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 58 สำหรับว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน และจะกลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 45 หลังจากบ่ายวันนี้ (20) ไปแล้ว
จากการรายงานสภาพอากาศในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ของสื่อสหรัฐฯ CNN ในวันพฤหัสบดี (19 ม.ค.) พบว่า พิธีสาบานตนของทรัมป์อาจต้องพบกับสภาพอากาศชื้นแฉะ อึมครึม และมีฝนตก เหมาะแก่การนำร่มติดตัวไปร่วมกางระหว่างการสาบานตนเป็นอย่างยิ่ง
โดยสำนักงานให้บริการอากาศสหรัฐฯ แถลงว่า มีโอกาสที่ฝนจะตกในช่วงบ่ายวันศุกร์ (20) ถึง 89% ส่วนอุณหภูมิจะอยู่ในราว 45 องศาลฟาเรนไฮต์ ซึ่งเป็นช่วงกำหนดเวลาที่ทรัมป์จะต้องเข้ารับพิธีสาบานตนต่อหน้าหัวหน้าคณะศาลสูงสหรัฐฯ จอห์น โรเบิร์ตส์ (John Roberts) ผู้ที่จะทำหน้าที่รับการสาบานตนบริเวณขั้นบันไดของแคปิตอล ฮิล ซึ่งเดอะการ์เดียนชี้ว่า ก่อนที่ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทรัมป์ จะเข้าสาบานตนนั้น ว่าที่รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไมค์ เพนซ์ จะเข้ารับการสาบานตนไม่นานก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ หน่วยงานพยากรอากาศของสหรัฐฯต่างๆ ยืนยันว่า อุณหภูมิของช่วงบ่ายวันศุกร์ (20) ไปจนถึงพลบค่ำจะอยู่ในราว 40 องศาฟาเรนไฮต์
และสำหรับสภาพอากาศนี้ สื่อ MIC ได้รายงานเมื่อวานนี้ (19) ว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา ที่กำลังจะพ้นตำแหน่งได้กล่าวผ่านการแถลงต่อสื่อทำเนียบขาวครั้งสุดท้ายในวันพุธ (17) โดยยืนยันว่าตัวเขาและภรรยาจะเดินทางไปร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีสาบานตนของทรัมป์ในวันศุกร์ (20) นี้อย่างแน่นอน
โดยโอบามาได้กล่าวถึงสภาพอากาศของวันพิธีสาบานตนของทรัมป์ว่า โชคดีไม่หนาวเหมือนเมื่อเขาต้องเข้ารับการสาบานตน แต่ในการให้สัมภาษณ์ ผู้นำสหรัฐฯจากพรรคเดโมแครต ปฎิเสธที่จะให้ความเห็นถึงการบอยคอตไม่เข้าร่วมพิธีสาบานตนของทรัมป์จากสมาชิกรัฐสภาของพรรคเดโมแครต ที่ล่าสุดมีไม่ต่ำกว่า 60 คนแสดงเจตจำนงไม่เข้าร่วม
“ผมจะไม่กล่าวให้ความเห็นถึงปัญหาบอยคอตเหล่านั้น” โอบามาแถลง และกล่าวต่อว่า “สิ่งที่ผมรู้แน่ๆ คือ ผมจะไปร่วมงานนี้ เช่นเดียวกับ มิเชล และผมได้ตรวจสอบสภาพอากาศมาอย่างเรียบร้อยแล้ว และรู้สึกยินดีที่ว่า จะไม่หนาวเหมือนเช่นการเข้ารับการสาบานตนในสมัยแรกของผม ซึ่งเป็นสภาพอากาศที่หนาวมาก”
ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติสำหรับประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่กำลังจะหมดวาระจะเข้าร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งใหม่ของผู้นำคนถัดไปเพื่อให้แน่ใจว่าการส่งผ่านอำนาจจะเป็นไปอย่างสันติ
แต่อย่างไรก็ตาม สื่อเดอะการ์เดียนชี้ว่า หากโอบามาตัดสินใจไม่เข้าร่วม จะกลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯคนแรกในรอบ 96 ปีทีทำการบอยคอต
การประกาศไม่เข้าร่วมพิธีการสาบานตนของทรัมป์นั้นเป็นที่โจษจันไปทั่ว โดยเฉพาะหลังจากที่ทรัมป์ได้ทวีตกล่าวพาดพิงถึง สัญลักษณ์ต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน สส.พรรคเดโมแครตจากรัฐจอร์เจีย จอห์น ลูอิส (John Lewis) รับวันต่อสู้เรียกร้องเพื่อความเท่าเทียมทางสีผิว MLK เดย์ แล้ว ล่าสุดพบว่า กลุ่มสมาชิกรัฐสภาคองเกรสสายพรรคไม่ต่ำกว่า 60 คนประกาศที่จะไม่เข้าร่วมอย่างแน่นอน จากการรายงานของสื่อ MIC
นอกจากนี้ เดอะการ์เดียนรายงานว่า ทรัมทป์ประสบความยากลำบากในการหาศิลปินเพื่อมาแสดงในพิธีสาบานตนของเขาเนื่องมาจากจุดยืนทางการเมืองที่ขวาจัด แบ่งแยกกีดกันสีผิว ดูถูกสตรี และกีดกันชาวมุสลิม รวมไปถึงการไม่รับหลักการภาวะโลกร้อน
โดยสื่ออังกฤษรายงานว่า กลุ่มศิลปินที่ออกมาปฏิเสธไม่เข้าร่วมแสดง เช่น คานเย เวสต์ (Kanye West) เซอร์ เอลตัน จอห์น (Sir Elton John) นักร้องโอเปราอิตาเลียน อันเดรีย บอเซลลี (Andrea Bocelli) ที่สื่ออังกฤษชี้ว่าถึงจะเป็นเพื่อนมักคุ้นกับทรัมป์ แต่ขอปฏิเสธการแสดงในพิธีสาบานตนครั้งนี้ และวงคิส (KISS)
อย่างไรก็ตาม ในพิธีการเข้ารับการสาบานตนครั้งที่ 58 นี้ เดอะการ์เดียนรายงานว่า นอกจากประธานาธิบดีบารัค โอบามา และสุภาพสตรีสหรัฐฯ หมายเลข 1 มิเชล โอบามา แล้ว จะยังมีอดีตผู้นำสหรัฐฯอีก 3 คนพร้อมอดีตสุภาพสตรีหมายเลข 1 เข้าร่วม ซึ่งสื่ออังกฤษชี้ว่า นี่จะเป็นการพบปะกันครั้งแรกหลังจากเสร็จสิ้นการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ดุเดือดเลือดพล่าน
เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์อเมริกันได้ประกาศออกมาว่า ชัยชนะการเลือกตั้งของเขาเป็นสิ่งที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในโลก
โดยมีรายงานว่า อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน จอร์จ ดับเบิลยู. บุช ผู้ลูก พร้อมกับอดีตสุภาพสตรีหมายเลข 1 ลอรา บุช จะเข้าร่วม รวมไปถึงอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต จิมมี คาร์เตอร์ พร้อมอดีตสุภาพสตรีหมายเลข 1 โรซาลีน คาร์เตอร์ และอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต บิล คลินตัน พร้อมอดีตสุภาพสตรีหมายเลข 1 อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ และอดีตผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯปี 2016 ฮิลลารี คลินตัน
และเป็นที่เรียกเสียงฮือฮาเมื่อพบว่า ทรัมป์ได้ส่งเทียบเชิญตัวแทนจากไต้หวันและผู้นำตั้งถิ่นฐานยิวให้เข้าร่วมพิธีสาบานตนในกรุงวอชิงตัน ดีซีครั้งนี้ด้วย
โดยพบว่าในส่วนของไต้หวันนั้น เดอะการ์เดียนชี้ว่า ผู้จะนำทีมตัวแทนไต้หวันคือ อดีตนายกรัฐมนตรีไต้หวัน และประธานกรรมการพรรค DPP “Yu Shyi-kun” ที่มาพร้อมกับเจ้าหน้าที่ความมั่นคงไต้หวันและสมาชิกรัฐสภาไต้หวัน สร้างความไม่พอใจให้กับจีนเป็นอย่างมาก
ในส่วนของจีน สื่ออังกฤษชี้ว่า ปักกิ่งได้ส่งเอกอัครราชทูตจีนประจำสหรัฐฯ ซุ่ย เถียนไค (Cui Tiankai) เข้าร่วมในพิธีนี้เช่นกัน โดยกระทรวงการต่างประเทศไต้หวันแถลงถึงการเข้าร่วมพิธีสาบานตนของทรัมป์ว่า “ตัวแทนจากไต้หวันที่เข้าร่วมนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของรัฐบาลของเราและประชาชนไต้หวัน ต่อความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีที่สนิทสนมและมีความเป็นมิตรของชาติทั้งสอง”
โดยพบว่าตัวแทนสหรัฐฯ เข้าร่วมพิธีสาบานตนของประธานิบดีหญิงไต้หวัน ไช่ อิงเหวิน ในปีที่ผ่านมาเช่นกัน
และในส่วนของผู้นำตั้งถิ่นฐานยิวที่ได้รับเชิญจากทรัมป์ให้ร่วมงานพิธีสาบานตนด้วยเช่นกัน สื่อเยรูซาเลมโพสต์รายงานต้นสัปดาห์นี้ว่า 3 ผู้นำตั้งถิ่นฐานยิว โอเดด เรวิวี (Oded Revivi) เบนนี คาชเรียล (Benny Kashriel) และยอซซี ดากาน (Yossi Dagan) ประกาศจะเดินทางเข้าร่วมพิธีสาบานตนของทรัมป์ตามที่ได้รับเชิญอย่างแน่นอน
สื่อยิวชี้ว่า การออกคำเชิญครั้งนี้ของทรัมป์ แสดงให้เห็นจุดยืนรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดใหม่ว่าจะไม่ตามหลังรัฐบาลโอบามาในการต่อต้านการตั้งถิ่นฐานของชาวยิว
โดยเรวิวีซึ่งเป็นหัวหน้าเอฟราต เคาน์ซิล (Efrat Council) และหัวหน้าทูตต่างประเทศประจำสภาแห่งชุมชนยิวแห่งยูเดียและซามาเรีย (Council of Jewish Communities of Judea and Samaria.) ได้ออกมาให้ความเห็นว่า “ผมคิดว่า สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า พวกเราเป็นพันธมิตรที่สำคัญในการเจรจาใดๆก็ตามที่ได้เกิดขึ้นแล้ว หรือกำลังจะเกิดขึ้นเกี่ยวกับภูมิภาคนี้”
โดยทั้งเรวิวีและคาชเรียลเป็นตัวแทนในส่วนของผู้ตั้งถิ่นฐานในเขตเวสต์แบงก์ ซึ่งการได้รับเทียบเชิญจากทรัมป์นั้นถูกส่งต่อผ่านมาในระดับรัฐสภา เยรูซาเลมโพสต์รายงาน
เดอะการ์เดียนรายงานเพิ่มเติมต่อว่า ในวันพฤหัสบดี (19 ม.ค.) เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์อเมริกันประกาศให้คำมั่นจะพยายามสมานฉันท์ประเทศอเมริกา ที่อยู่ในความแตกแยกทางแนวคิดทางการเมือง ที่มีกำแพงกั้นเม็กซิโก เป็นหนึ่งในชนวน รวมไปถึงการประกาศแบนมุสลิมเข้าประเทศในช่วงนโยบายการหาเสียงการเลือกตั้งของทรัมป์ และคลิปฉาวการดูถูกสตรีเพศ
โดยทรัมป์กล่าวในขณะที่ยืนโดยมีฉากหลังอนุสาวรีย์อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ อับราฮัม ลิมคอล์น อยู่เบื้องหลังว่า “เป็นความเคลื่อนไหวที่เราไม่เคยมีโอกาสพบเห็นมาก่อนในโลกนี้” ก่อนที่จะมีการเปิดคอนเสิร์ตฉลองชัยชนะในค่ำคืนวันพฤหัสบดี (19)
และทรัมป์ยังกล่าวไปถึงผู้เข้าร่วมที่สนับสนุนทรัมป์มาตั้งแต่แรก โดยทรัมป์ให้คำสัญญาว่า “พวกคุณจะไม่ถูกลืมอีกต่อไป” “พวกคุณจะไม่ถูกทอดทิ้ง” และกล่าวต่อว่า “ผมจะพบกับพวกคุณอีกครั้งในวันพรุ่งนี้” พร้อมกันนั้นพลุไฟตระการตาได้ถูกจุดขึ้นเหนือท้องฟ้าในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
ก่อนหน้านี้ สื่ออังกฤษรายงานว่า ทรัมป์ และว่าที่สุภาพสตรีหมายเลข 1 สหรัฐฯ มาเลเนีย ทรัมป์ ได้ก้าวลงมาจากเครื่องบินกองทัพสหรัฐฯ ที่ฐานทัพอากาศร่วม แอนดริวส์ นอกกรุงวอชิงตัน ดีซี ซึ่งมีรายงานว่าเขารับการวันทยาหัตถ์จากนายทหารประจำเครื่องบิน และในกำหนดการพบ ทรัมป์ได้เดินทางไปเคารพสุสานแห่งชาติ อาร์ลิงตัน พร้อมกับว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพนซ์ โดยมีการวางพวกหรีดไว้บริเวณสุสานเพื่อแสดงความเคารพต่อผู้สูญเสีย
เดอะการ์เดียนรายงานว่า และในวันพฤหัสบดี (19 ม.ค.) เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์อเมริกันได้ทวีตภาพของตนในขณะที่กำลังร่างสุนทรพจน์พิธีสาบานตน โดยทรัมป์อ้างว่า เป็นผู้ร่างเองกับมือ 3 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ที่ทำเนียบขาวฤดูหนาว “Mar-a-Lago” ที่พักส่วนตัวของทรัมป์และครอบครัวในรัฐฟลอริดา โดยสื่ออังกฤษชี้ว่า หากเป็นไปตามปกติ คาดว่าสุนทรพจน์ที่ว่าอาจจะใช้เวลานานราว 20 นาที ตามอย่างโอบามา
สื่อสหรัฐฯ ต่างออกมารอคอยถึงสุนทรพจน์ของทรัมป์ว่า เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์อเมริกันจะต้องฆ่าตัวตายกลางขั้นบันไดของแคปิตอลฮิลในขณะอ่านสุนทรพจน์ตนเองหรือไม่ โดยมีการเปรียบเทียบสุนทรพจน์ของโอบามาและทรัมป์ที่จะมีขึ้นในช่วงบ่ายวันนี้ (20)