เอเจนซีส์ - เป็นไปตามคาด กองทัพเซเนกัลเคลื่อนพลข้ามพรมแดนเข้ามายังแกมเบีย หลังพ้นเวลาเที่ยงคืนวันพุธ (18 ม.ค.) แต่สถานการณ์สุดคับขัน อาดามา บาร์โรว์ (Adama Barrow) ที่ชนะการเลือกตั้งในเดือนธันวาคมล่าสุด ปฏิเสธเดินทางกลับประเทศ เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีแกมเบียคนใหม่ภายในสถานทูตแกมเบียประจำกรุงดาการ์ เซเนกัล ท่ามกลางตึงเครียดต่อเนื่องเมื่อ ECOWAS องค์กรเศรษฐกิจ 15 ชาติแอฟริกาตะวันตกที่ได้รับการสนับสนุนจากคณะความมั่นคงองค์การสหประชาชาติ สั่งอดีตประธานาธิบดีแกมเบียที่ครองอำนาจมานานร่วม 22 ปี ยะห์ยา จัมเมห์ (Yahya Jammeh) ต้องเดินทางออกนอกประเทศทันทีภายในบ่ายวันศุกร์ (20)
บีบีซี สื่ออังกฤษรายงานวันนี้ (20 ม.ค.) ว่า เมื่อวานนี้ (19) ให้ผู้นำพรรคการเมืองฝ่ายค้านร่วมแกมเบีย อาดามา บาร์โรว์ (Adama Barrow) เข้าพิธีสาบานตนภายในสถานทูตแกมเบียประจำกรุงดาการ์ เซเนกัล หลังจากปฏิเสธที่จะยอมเดินทางเข้าแกมเบียจากเซเนกัลตามแผนก่อนหน้านี้ ส่งผลทำให้บาร์โรว์กลายเป็นผู้นำคนใหม่ของประเทศแอฟริกาตะวันตกแห่งนี้อย่างถูกต้องตามกฎหมายที่ได้รับรองจากนานาชาติ หลังจากชนะการเลือกตั้งทั่วไปแกมเบียในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา สื่ออังกฤษชี้
ท้งนี้ พบว่าสถานการณ์ด้านชายแดนบริเวณพรมแดนเซเนกัล-แกมเบียระอุหนัก เมื่อกองทัพเซเนกัลที่ได้กระทำตามคำมั่นสัญญาก่อนหน้านี้ว่า หลังจากพ้นเวลาเที่ยงคืนวันพุธ (18 ม.ค.) เซเนกัลจะเคลื่อนกองกำลังพ้นบริเวณชายแดนที่ติดกับแกมเบียเข้าประเทศ
โดยสื่ออังกฤษชี้ว่า ความตึงเครียดในแกมเบียมีมากขึ้น และเสี่ยงที่จะเกิดสงครามเมื่อองค์กรเศรษฐกิจชุมชนของประเทศแอฟริกาตะวันตก ECOWAS ที่มีสมาชิกประเทศแอฟริกาตะวันตก 15 ชาติยื่นคำขาดให้ ยะห์ยา จัมเมห์ (Yahya Jammeh) ที่กลายเป็นอดีตประธานาธิบดีแกมเบียต้องเดินทางออกนอกประเทศภายในบ่ายวันนี้ (20) ทันที
ขณะที่มีรายงานว่า ECOWAS ขู่ที่จะใช้กำลังทหารกับจัมเมห์ หากว่าอดีตผู้นำแกมเบียที่อยู่ในอำนาจมานานร่วม 22 ปีคนนี้ยังขัดขืน โดยบีบีซีรายงานว่า การปฏิเสธการลงจากอำนาจของจัมเมห์นั้นได้รับการสนับสนุนจากรัฐสภาแกมเบีย
ทั้งยังพบว่าหลังจากความพยายามก่อนหน้านี้ของประธานาธิบดีมอริเตเนีย โมฮัมเหม็ด อับดุล อาซิส (Mohamed Abdul Aziz) ในการกล่อมจัมเมห์ให้ลงจากอำนาจไม่สำเร็จ แต่อย่างไรก็ตามพบว่า ประธานาธิบดีสาธารณรัฐกินีอัลฟา กงเด (Alpha Conde) จะเข้ามาทำหน้าที่เป็นตัวกลางคนใหม่เพื่อเจรจากับจัมเมห์ก่อนเส้นตายของ ECOWAS ในวันศุกร์ (20) จะสิ้นสุดลง
อาดามา บาร์โรว์ ประธานาธิบดีแกมเบียคนใหม่ได้ให้สัมภาษณ์จากเซเนกัล ยืนยันว่าตัวเขาจะยังไม่เดินทางกลับเข้ากรุงบันจูล เมืองหลวงของแกมเบีย จนกว่าปฏิบัติการทหารที่เกิดขึ้นจะสิ้นสุด และพบว่าในวันพฤหัสบดี (19 ม.ค.) ไนจีเรียที่ได้ส่งเครื่องบินสอดแนมไปแกมเบีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการกองกำลังภูมิภาคแอฟริกา พร้อมส่งสัญญาณเตือนว่าทางไนจีเรียพร้อมจะลงมีโจมตีทางทหาร
สถานการณ์ทั่วไปพบว่าประชาชนชาวแกมเบียต่างหนีภัยสงครามกลางเมืองออกนอกประเทศ โดยต่างข้ามพรมแดนเข้าเซเนกัลเพื่อลี้ภัยสงคราม ในขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติต่างโกลาหล แตกตื่นเดินทางกลับประเทศอย่างฉุกละหุก
บีบีซีรายงานต่อว่า ประชาชนชาวแกมเบียทั่วไปสามารถรับชมพิธีการสาบานตนของบาร์โรว์ที่มีการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์แกมเบีย แต่กระนั้นกลับพบว่ามีประชาชนเพียงจำนวนไม่มากนักที่ออกมาตามท้องถนนเพื่อเฉลิมฉลอง และบันจูลเมืองหลวงของแกมเบียกลายเป็นเมืองร้างเนื่องจากประชาชนในพื้นที่ต่างเกรงภัยในความไม่สงบ ที่สถานการณ์ยังคงมีความเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง โดยคนจำนวนมากต่างกล่าวว่า กองทัพแกมเบียยังคงประจำอยู่ในเมือง เช่นเดียวกับอดีตประธานาธิบดีแกมเบีย ยะห์ยา จัมเมห์
ด้านกองกำลังเซเนกัล นักข่าวอังกฤษรายงานว่า พบว่ากองกำลังทหารเซเนกัลที่อยู่ในความพร้อมรบเต็มอัตราศึก เคลื่อนพลมุ่งหน้าออกห่างจากพรมแดนเซเนกัล หันหน้าเข้าสู่พรมแดนแกมเบีย โดยกองทัพเซเนกัลได้รับการเสริมกำลังทางอากาศจากกองทัพฟ้าไนจีเรีย รวมไปถึงกองทัพเรือ และกองกำลังอื่นๆจากกานา
โดยโฆษกกองทัพเซเนกัล พันเอก อับดู เอ็นดิเย (Col. Abdou Ndiaye) แถลงกับบีบีซีว่า ที่ผ่านมากองกำลังเซเนกัลยังไม่ได้รับการต่อต้าน และจะมุ่งหน้าเข้าสู่กรุงบันจูลในไม่ช้า แต่อย่างไรก็ตา เอ็นดิเยส่งเสียงเตือนว่า ***“นี่กำลังอยู่ในภาวะสงคราม หากทางเราได้รับการต่อต้าน กองกำลังของเราจะต่อสู้ทันที และหากพบมีกลุ่มคนที่สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีแกมเบียเข้าต่อสู้ เราจะทำการตอบโต้ ซึ่งเป้าหมายใหญ่ของเราคือการปกป้องประชาธิปไตยแกมเบีย และทำให้ประธานาธิบดีแกมเบียคนใหม่ที่มาจากมติมหาชนกลับเข้าทำหน้าที่ได้”กรุงดาการ์ เซเนกัล”***
ก่อนหน้านี้ สื่ออังกฤษชี้ว่า อูซมาน บาดเจีย (Ousman Badjie) ผู้นำกองทัพแกมเบียออกแถลงการณ์ในวันพุธ (18 ม.ค.) จากพยานที่ได้เปิดเผยกับเอเอฟพี โดยในแถลงการณ์ระบุว่า เขาจะไม่สั่งการให้กองทัพแกมเบียจับอาวุธต่อสู้กับกองกำลังพันธมิตรชาติแอฟริกัน หากว่ากองกำลังต่างชาติเหล่านี้เคลื่อนพลเข้าสู่ดินแดนแกมเบีย โดยบาดเจียกล่าวว่า “เราจะไม่ยอมให้ตัวเราต้องเกี่ยวข้องกับปฏิบัติการทางทหารเด็ดขาด เพราะนี่เป็นความขัดแย้งทางการเมือง”
ในแถลงการณ์ยังกล่าวต่อว่า “ผมจะไม่ยอมให้ทหารของผมต่อสู้ในสงครามโง่ๆ” และเสริมอีกว่า “ผมรักนายทหารของผม” และบาดเจียที่ได้หยุดพร้อมร่วมถ่ายภาพเซลฟีพร้อมกับกลุ่มผู้ให้การสนับสนุนจากการรายงาน โดยผู้บัญชาการกองทัพแกมเบียกล่าวยืนยันว่า “เมื่อพวกเขา (กองทัพเซเนกัล) เดินทางเข้ามา ทางกองกำลังของพวกเราจะทำการส่งสัญญาณยอมแพ้ให้รับรู้ด้วยการชูมือขึ้นเหนือศีรษะ”
และสอดคล้องในแถลงการณ์ในพิธีสาบานตนของประธานาธิบดีแกมเบีย บาร์โรว์ ที่ออกคำสั่งให้ทหารแกมเบียต้องอยู่ภายในกรมกองของตัวเองเท่านั้น และหากมีการละเมิดคำสั่งและจับอาวุธ จะถือว่า “เป็นการก่อกบฏ”
ด้านคณะกรรมการเลือกตั้งแกมเบียประกาศรับรองต่อชัยชนะการเลือกตั้งของบาร์โรว์ โดยกล่าวว่า ถึงแม้ผลการเลือกตั้งเบื้องต้นจะมีข้อผิดพลาดเล็กน้อย แต่ไม่ส่งผลถึงชัยชนะของบาร์โรว์ แต่จัมเมห์ได้ประกาศว่า เขาจะอยู่ในตำแหน่งต่อไปจนกว่าจะมีการจัดการเลือกตั้งรอบใหม่เกิดขึ้น โดยสื่ออังกฤษชี้ว่า จัมเมห์ทำเช่นนี้เพื่อป้องกันการถูกดำเนินคดีการใช้อำนาจมิชอบในช่วงการดำรงตำแหน่งผู้นำแกมเบียที่ยาวนานของเขา
ล่าสุดคณะมนตรีความมั่นคงองค์การสหประชาชาติได้ออกมาสนับสนุนจุดยืนของ ECOWAS ในการสนับสนุนประธานาธิบดีบาร์โรว์ และเรียกร้องให้จัมเมห์ลงจากอำนาจ