เอเจนซีส์ - เด็กนักเรียนวัย 15 ปี ก่อเหตุใช้ปืนยิงครูกับเพื่อนนักเรียน แล้วก็ยิงตัวเองตาย ที่โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในเมืองมอนเตอร์เรย์ ประเทศเม็กซิโก เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (18 ม.ค.)
ไฮเม โรดริเกวซ ผู้ว่าการรัฐนูเอโวเลออน ระบุว่า มือปืนนั้นเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ส่วนเหยื่อทั้ง 3 คนที่มีแผลถูกยิงบริเวณศีรษะกำลังต่อสู้อยู่ระหว่างความเป็นและความตาย นอกจากนี้ยังมีเด็กผู้ชายอีกคนที่ได้รับบาดเจ็บที่แขน แต่อาการปลอดภัยดีแล้ว
คลิปวิดีโอที่ดูเหมือนว่าจะมาจากกล้องวงจรปิดของโรงเรียน ซึ่งต่อมาถูกนำไปโพสต์ไว้ในโซเชียลมีเดีย ได้แสดงให้เห็นว่า มือปืนวัยรุ่นนั้นชักปืนออกมายิงอย่างรวดเร็วและเยือกเย็น ประมาณ 7 นัด เข้าใส่ครูผู้หญิงและนักเรียนที่นั่งอยู่ บางนัดเป็นการยิงเผาขน จากนั้นก็ยิงตัวเองแล้วล้มลงไป
บรรดานักเรียนคนอื่นๆ ที่หลบกันอยู่ใต้โต๊ะได้พากันหนีออกจากห้องเรียนหลังเกิดเหตุ โดยมีการวิ่งข้ามมือปืนที่ล้มลงไปนอนกับพื้นเพื่อมุ่งหน้าไปที่ประตู
อัลโด ฟาสซี โฆษกความมั่นคงประจำรัฐ เปิดเผยว่า ผู้ที่มีแผลโดนยิงที่ศีรษะมีทั้งหมด 4 ราย รวมมือปืนที่เสียชีวิตด้วย โดยในส่วนของเหยื่อ 3 รายล้วนอยู่ในอาการสาหัส ประกอบด้วย ครูผู้หญิงวัย 24 ปี , เด็กหญิงวัย 14 ปี, เด็กชายวัย 14 ปี นอกจากนี้ยังมีเด็กชายวัย 15 ปีถูกยิงที่แขน แต่พ้นขีดอันตรายแล้ว
ฟาสซีระบุว่า มือปืนนั้นกำลังอยู่ระหว่างการรักษาภาวะซึมเศร้า ส่วนแรงจูงใจในการก่อเหตุนั้นยังอยู่ระหว่างการสืบสวน
ฟาสซียังบอกอีกว่า เด็กชายผู้ก่อเหตุนั้นได้นำปืนมาจากที่บ้าน ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่าเขาเอาปืนพกขนาดลำกล้อง .22 เข้ามาในโรงเรียนได้อย่างไร เนื่องจากเม็กซิโกเคยมีโครงการให้ทางโรงเรียนตรวจกระเป๋าที่หน้าประตูโรงเรียน แต่ในหลายพื้นที่ก็ไม่ได้ดำเนินการตรวจ
“นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงต้องตรวจกระเป๋านักเรียน ผมคิดว่าเราต้องหวนกลับไปเริ่มทำแบบนั้นอีกครั้ง” ฟาสซี กล่าว
ในช่วงที่มีสงครามยาเสพติดอย่างรุนแรงในเม็กซิโกระหว่างปี 2008-2011 หลายโรงเรียนทางตอนเหนือของเม็กซิโกได้กังวลถึงความเป็นไปได้ที่จะมีกระสุนลูกหลงจากการยิงสู้กันของพวกแก๊งค้ายาจากนอกโรงเรียนพุ่งเข้ามาในโรงเรียน ทำให้บางโรงเรียนมีการฝึกสอนนักเรียนเกี่ยวกับการมุดเข้าที่กำบัง (duck and cover) เพื่อรับมือเหตุการณ์ลักษณะนั้น