รอยเตอร์ - ศาลเกาหลีใต้แถลงไม่เห็นความจำเป็นในการอนุมัติหมายจับประธานซัมซุง กรุ๊ป ในขณะนี้ ด้านสำนักงานอัยการพิเศษลั่นเดินหน้าทำคดีต่อ ส่อแววบิ๊กซัมซุงอาจได้รับอิสรภาพแค่ชั่วคราวเท่านั้น
นักวิเคราะห์ด้านกฎหมาย ชี้ว่า เจ วาย. ลี วัย 48 ปี ที่เข้ากุมบังเหียนซัมซุง กรุ๊ป กลุ่มกิจการ หรือแชโบลใหญ่สุดของเกาหลีใต้ นับจากที่ ลุ คุน-ฮี พ่อของเขา หัวใจวายเมื่อปี 2014 ยังมีแนวโน้มถูกตั้งข้อหาติดสินบน ฉ้อโกง และให้การเท็จ
ลีหิ้วถุงชอปปิ้งสีขาวเดินออกจากศูนย์ควบคุมตัวในโซล และขึ้นรถที่จอดรออยู่โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ หลังถูกควบคุมตัวตลอดคืนวันพุธ (18) ขณะที่ศาลพิจารณาว่า จะออกหมายจับหรือไม่
ทางด้านสำนักงานอัยการพิเศษ แถลงว่า จะสอบสวนคดีนี้ต่อไป แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจว่า จะขอหมายจับอีกหรือไม่ พร้อมยืนยันว่า เหตุการณ์นี้ไม่ส่งผลต่อแผนการสอบสวนแชโบลรายอื่นๆ แต่อย่างใด
ลี คิว-ชุล โฆษกสำนักงานอัยการพิเศษ ยังเผยว่า อัยการไม่เชื่อคำให้การของลีที่อ้างว่า ตัวเขาเป็นเหยื่อที่ถูกประธานาธิบดี พัค กึน-ฮเย บีบบังคับ
โฆษกสำนักงานอัยการพิเศษสำทับว่า ชอย กี-ซุง รองประธานกรรมการซัมซุง กรุ๊ป ถูกระบุเป็นผู้ต้องหาในการติดสินบน และยังมีพนักงานอีกสองคนของซัมซุง คือ ชาง ชุง-กี ผู้ช่วยของชอย และ พัค ซัง-จิน ผู้บริหารซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ ถูกสอบสวนอยู่ในขณะนี้
สำนักงานอัยการพิเศษ กล่าวหาว่า ลีติดสินบนนับล้านดอลลาร์ให้แก่ชอย ซุน-ซิล เพื่อนสนิทของพัคที่เป็นตัวละครหลักของคดีอื้อฉาวนี้ เพื่อให้สำนักงานบำนาญแห่งชาติอนุมัติการผนวกกิจการระหว่างบริษัทในเครือซัมซุงสองแห่งเมื่อปี 2015 ที่ทำให้ลีกระชับอำนาจการควบคุมอาณาจักรธุรกิจของซัมซุงที่ครอบคลุมตั้งแต่สมาร์ทโฟนจนถึงชีวเภสัชภัณฑ์ ทว่า เจ้าตัวปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด
ทางด้านผู้พิพากษาแถลงเมื่อวันพฤหัสฯ (19) ว่า ไม่เห็นความจำเป็นในการอนุมัติหมายจับลีในขณะนี้
ลี จุง-แจ ทนายความและอดีตอัยการ เชื่อว่า ในที่สุดแล้วอัยการพิเศษจะตั้งข้อหานายใหญ่ซัมซุงโดยไม่ผลักดันให้มีการควบคุมตัวอีก เนื่องจากน่าจะมีหลักฐานเพียงพอแล้ว
ส่วนซัมซุงออกแถลงการณ์แสดงความยินดีที่เจ้าหน้าที่สามารถสอบสวนคดีนี้ต่อโดยไม่ต้องควบคุมตัวประธานบริษัท
ทั้งนี้ ในการขออนุมัติหมายจับลีเมื่อวันจันทร์ (16) สำนักงานอัยการพิเศษ กล่าวหาว่า นายใหญ่ซัมซุงติดสินบนจำนวนทั้งสิ้น 36.70 ดอลลาร์ให้แก่องค์กรที่เชื่อมโยงกับชอย เพื่อให้ได้รับการสนับสนุนสำหรับการผนวกกิจการระหว่างซัมซุง ซีแอนด์ที กับชีล อินดัสทรีส์
คดีอื้อฉาวนี้ทำให้พัคถูกรัฐสภาลงมติถอดถอนเมื่อเดือนที่แล้ว และหากศาลรัฐธรรมนูญยืนตามมติของสภา พัคจะเป็นผู้นำเกาหลีใต้คนแรกที่มาจากการเลือกตั้งที่ถูกบังคับให้ลาออกจากตำแหน่งก่อนหมดวาระ
ทว่า ทั้งพัคที่ยังอยู่ในตำแหน่งแต่ถูกลิดรอนอำนาจระหว่างการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และ ชอย ต่างปฏิเสธข้อกล่าวหา
วันอังคารที่ผ่านมา (24) สำนักงานอัยการพิเศษ เผยว่า พบหลักฐานชี้ว่า พัค และ ชอยนำกำไรที่ได้จากสินบนมาแบ่งปันกัน
ต้นสัปดาห์นี้ สำนักงานอัยการพิเศษยังตั้งข้อหาใช้อำนาจโดยมิชอบและให้การเท็จเกี่ยวกับข้อตกลงการผนวกกิจการซัมซุง กับประธานสำนักงานบำนาญแห่งชาติ ซึ่งเป็นกองทุนบำนาญใหญ่อันดับ 3 ของโลก
ขณะเดียวกัน การปฏิเสธการออกหมายจับประธานซัมซุงเมื่อวันพฤหัสฯ สร้างความไม่พอใจให้คนจำนวนมาก ซึ่งรวมถึงสมาชิกพรรคฝ่ายค้านปีกซ้าย เดโมเครติก ปาร์ตี ที่โจมตีว่า การวินิจฉัยของศาลขัดแย้งกับความรู้สึกของประชาชน
ช่วงหลายสัปดาห์มานี้ ซัมซุง และผู้นำบริษัทเผชิญกระแสประท้วงของประชาชน ขณะที่การสอบสวนคดีติดสินบนเข้มข้นขึ้น โดยบางคนเรียกร้องให้จับกุมลีทันที
วันพฤหัสฯ ราคาหุ้นบริษัทหลายแห่งในกลุ่มซัมซุงเด้งขึ้นรับข่าวศาลไม่อนุมัติหมายจับลี
กระนั้น พัค จุง-ฮุน ผู้จัดการกองทุนของเอชดีซี แอสเส็ต แมเนจเมนต์ บอกว่า อย่างเดียวที่เปลี่ยนแปลง คือ ลีได้รับการปล่อยตัวในขณะนี้ แต่สถานการณ์จะยังคงไร้ความแน่นอนต่อไป