เอเอฟพี - รัฐบาลเกาหลีเหนือออกมาแถลงตอบโต้ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ที่สั่งขึ้นบัญชีดำน้องสาวของผู้นำคิม จองอึน ไปเมื่อไม่กี่วันก่อน โดยเตือนให้เขาเอาเวลาไป “แพกของ” ออกจากทำเนียบขาวดีกว่าจุ้นจ้านเรื่องสิทธิมนุษยชนในประเทศอื่น
สัปดาห์ที่แล้ว กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้ประกาศขึ้นบัญชีดำเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเกาหลีเหนือ 7 คนที่มีส่วนพัวพันการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง โดยหนึ่งในนั้นคือ คิม โย-จอง น้องสาวของผู้นำคิม
ก่อนหน้านั้น กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ก็ได้เผยแพร่รายงานว่าด้วยสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในเกาหลีเหนือ ซึ่งจัดว่าเลวร้ายเป็นอันดับต้นๆ ของโลก
“โอบามา ไม่ควรเสียเวลาก้าวก่ายประเด็นสิทธิมนุษยชนในประเทศอื่น แต่ควรเอาเวลาไปเตรียมแพ็กของออกจากทำเนียบขาวจะดีกว่า” สำนักข่าวเคซีเอ็นเอซึ่งเป็นกระบอกเสียงของพรรคแรงงานเกาหลีเหนือ ระบุเมื่อค่ำวานนี้ (16)
สื่อโสมแดงระบุด้วยว่า สถานการณ์สิทธิมนุษยชนในสหรัฐฯ “ย่ำแย่เป็นประวัติการณ์” ตลอดยุคสมัยของโอบามา
“เขาควรสำนึกบาปที่ได้สร้างความเจ็บปวดและโชคร้ายให้แก่ชาวอเมริกัน รวมถึงผู้คนทั่วโลก”
รัฐคอมมิวนิสต์โสมแดงได้ทดสอบนิวเคลียร์และยิงขีปนาวุธอีกนับครั้งไม่ถ้วนตลอดระยะเวลาที่ โอบามา เป็นผู้นำสหรัฐฯ ซึ่งทำให้พวกเขาถูกองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) คว่ำบาตรหนักขึ้นเรื่อยๆ
สหรัฐฯ เลือกใช้นโยบาย “อดทนทางยุทธศาสตร์” (strategic patience) มาตลอดหลายปี โดยปฏิเสธที่จะเจรจาอย่างเป็นทางการกับเกาหลีเหนือ จนกว่าเปียงยางจะยอมลดอาวุธนิวเคลียร์ลงให้เห็นเป็นรูปธรรม
เคซีเอ็นเอยังประณามนโยบายก้าวร้าวที่ โอบามา ใช้กับเกาหลีเหนือเรื่อยมา ซึ่งมีแต่จะกระตุ้นให้เปียงยางต้อง “เสริมศักยภาพด้านการทหาร เพื่อทำลายล้างพวกที่ชอบรุกรานอย่างไม่ปรานี”
ว่าที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งจะสาบานตนรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันศุกร์นี้ (20) ไม่เคยแถลงชัดเจนว่าจะมีแนวทางแก้ไขปัญหาเกาหลีเหนืออย่างไร แต่เคยทวีตข้อความปรามาสโสมแดงว่าไม่มีวันพัฒนาจรวดพิสัยไกลมาโจมตีแผ่นดินสหรัฐฯ ได้สำเร็จ
ผู้นำเกาหลีเหนือถือโอกาสในการกล่าวสุนทรพจน์ต้อนรับปีใหม่ 2017 ประกาศว่าโครงการพัฒนาขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป (ICBM) คืบหน้าถึง “ขั้นสุดท้าย” ใกล้ความสำเร็จเข้ามาทุกขณะ พร้อมเตือนให้สหรัฐฯ ยุตินโยบายก้าวร้าวต่อเกาหลีเหนือเสีย แต่ก็ไม่ได้เอ่ยพาดพิงถึงทรัมป์ตรงๆ