เอเจนซีส์ - ความคืบหน้าล่าสุดเหตุการณ์จลาจลภายในเรือนจำอัลคาคุซ Alcacuz) เมืองนาตาล(Natal) รัฐรีอูกรันดีดูนอร์ตี(Rio Grande Do Norte) ทางใต้ของบราซิล พบยอดเสียชีวิตเพิ่มจาก 10 รายไปอยู่ที่ 26 รายแล้ว และพบว่านอกจากจะมีนักโทษถูกตัดศรีษะ เจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์บราซิลที่ได้เดินทางเข้าไปด้านในชี้ ยังพบชิ้นส่วนของร่างกายมนุษย์ถูกฟันขาดตกกระจายบนพื้น เกิดขึ้นในช่วงเวลา 14 ชม.ของการก่อจลาจลเริ่มต้นตั้งแต่บ่ายวันเสาร์(14ม.ค)
บีบีซีรายงานเมื่อวานนี้(15 ม.ค)ว่า ยอดเสียชีวิตจากเหตุจลาจลเรือนจำรัฐรีอูกรันดีดูนอร์ตี(Rio Grande Do Norte)ล่าสุดเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่า โดยอยู่ที่ 26 คนแล้ว จากแต่เดิม 10 รายก่อนหน้านี้
ซึ่งเหตุการณ์ปะทุขึ้นตั้งแต่บ่ายวันเสาร์(14 ม.ค)เกิดขึ้นระหว่างการปะทะกันของสมาชิกแก๊งภายในเรือนจำคู่อริ ที่ยาวนานไปจนถึงเช้าวันถัดไป กินเวลาร่วม 14 ชม.
โดยก่อนหน้านี้มีรายงานออกมาจากเจ้าหน้าที่บราซิลว่า พบว่ามีผู้เสียชีวิตบางส่วนถูกตัดศรีษะ “เราเห็นศรีษะที่ถูกตัดออกมาจากร่างนักโทษ 3 รายที่นอนเสียชีวิต” เซมิลตัน ซิลวา( Zemilton Silva) ผู้ประสานงานประจำระบบเรือนจำบราซิลแถลง
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มีการบุกเข้าไปในรุ่งเช้าวันอาทิตย์(15 ม.ค)ของทางเจ้าหน้าที่คอมมานโดบราซิล และทำให้เจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์บราซิลได้เข้าไปสำรวจภายใน ซึ่งพบว่ามีชิ้นส่วนร่างกายของมนุษย์ถูกตัดออกมา ในขณะที่มีร่างผู้เสียชีวิตอีกจำนวนมากถูกโยนลงไปในบ่อน้ำท่วมขัง
ซึ่งมาถึงเวลานี้ บีบีซีรายงานว่า ยังไม่ทราบว่ามีเจ้าหน้าที่บราซิลได้รับบาดเจ็บจากเหตุจลาจลเรือนจำอัลคาคุซครั้งนี้หรือไม่
ในขณะที่ภาพจากกล้องทีวีวงจรปิดที่บันทึกภาพไว้ได้ในขณะเกิดเหตุชี้ให้เห็นว่า บรรดานักโทษต่างเคลื่อนไหวอย่างอิสระบนบริเวณหลังคาเรือนจำ และพบว่ามีควันดำพวยพุ่งออกมาจากอาคารหลังหนึ่ง
นอกจากนี้ ในรายงานจำนวนหนึ่งยังระบุต่อว่า บรรดานักโทษที่ก่อหวอดขึ้น ได้ทำการตัดการจ่ายกระแสไฟฟ้าภายในเรือนจำอัลคาคุซตั้งแต่ในช่วงเริ่มต้นการก่อเหตุ โดยหนังสือพิมพ์บราซิล ริโอ เด จาไนโร โอ โกลโบ(Rio de Janeiro's O Globo)รายงานโดยระบุว่า มีนักโทษ 1 รายแอบหลบออกไปด้านนอกเรือนจำ แต่ถูกจับตัวกลับมาได้ไม่นานหลังจากนั้น
โดยชี้ว่า เชื่อว่าไม่มีนักโทษจากเรือนจำอัลคาคุซหลบหนี แต่ทว่ามีนักโทษจำนวนหนึ่งถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลบริเวณใกล้เคียง
บีบีซีรายงานต่อว่า เรือนจำอัลคาคุซถูกออกแบบให้รองรับนักโทษจำนวนแค่ 620 คนเท่านั้น แต่ทว่าจากสถานการณ์ความเป็นจริงพบว่าเรือนจำแห่งนี้ถูกใช้เป็นที่กักขังนักโทษไม่ต่ำกว่า 1,000 คนที่อยู่ภายใต้สภาวะที่แออัด ซึ่งถือเป็นสภาพปกติในระบบเรือนจำบราซิล