เอเจนซีส์ – เกิดเหตุการณ์ปะทะระหว่างกลุ่มคู่อริกลุ่มใหญ่ภายในเรือนจำก่อเหตุทะเลาะวิวาทตั้งแต่บ่ายวันเสาร์(14 ม.ค) และนำมาสู่การยึดเรือนจำอัลคาคุซ(Alcacuz) เมืองนาตาล(Natal) รัฐรีอูกรันดีดูนอร์ตี(Rio Grande Do Norte) ทางใต้ของบราซิล พบมีนักโทษภายในเรือนจำอย่างน้อย 10 รายเสียชีวิต และมีบางส่วนถูกตัดศรีษะ
บีบีซีรายงานวันนี้(15 ม.ค)ว่า ตำรวจบราซิลแถลงว่า มีนักโทษชาวบราซิลจำนวนอย่างน้อย 10 รายเสียชีวิตภายในเรือนจำเรือนจำอัลคาคุซ(Alcacuz) เมืองนาตาล(Natal) รัฐรีอูกรันดีดูนอร์ตี(Rio Grande Do Norte) ทางใต้ของบราซิลล่าสุด
ซึ่งถือเป็นเหตุจลาจลใหญ่ครั้งที่ 3 ในบราซิลในปปี 2017 หลังจากต้นเดือนมกราคม 2017 มีนักโทษจำนวนเกือบ 100 คนต้องจบชีวิตในเหตุจลาจลภายในเรือนจำในรัฐอามาโซนัส( Amazonas) และรัฐรอไรมา ( Roraima)
โดยสื่ออังกฤษชี้ว่า เหตุจลาจลในเรือนจำอัลคาคุซเริ่มตั้งแต่บ่ายวันเสาร์(14 ม.ค)เมื่อมีสมาชิกนักโทษกลุ่มอาชญากรรมที่ทรงอิทธิพลภายในเรือนจำส่วนใหญ่ของบราซิลได้เริ่มต้นเปิดฉากเข้าทำร้ายสมาชิกกลุ่มคู่อริที่อยู่อีกปีกหนึ่งของเรือนจำที่แยกออกไป “เราเห็นศรีษะที่ถูกตัดออกมาจากร่างนักโทษ 3 รายที่นอนเสียชีวิต” เซมิลตัน ซิลวา( Zemilton Silva) ผู้ประสานงานประจำระบบเรือนจำบราซิลแถลง
อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่เป็นครั้งแรกในเหตุจลาจลในเรือนจำบราซิลที่มีนักโทษถูกตัดศรีษะ โดยก่อนหน้านี้ยูโรนิวส์รายงานในวันที่ 8 ม.คว่า ภายในเรือนจำเมืองมาเนาส์( Manaus) เมืองเอกของรัฐอามาโซนัส พบมีร่างผู้เสียชีวิต 3 รายอยู่ในสภาพถูกตัดศรีษะมาแล้ว
ทั้งนี้มีรายงานว่า มีเสียงระเบิดและการยิงต่อสู้ถูกได้ยินเล็ดลอดออกไปด้านนอกของเรือนอัลคาคุซในช่วงระหว่างเกิดเหตุ สื่ออังกฤษรายงาน
ด้านพันตรีเวลลิงตัน คามิโล( Wellington Camilo)ผู้บัญชาการระบบเรือนจำรัฐรีอูกรันดีดูนอร์ตี ชี้แจงว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบราซิลจำเป็นต้องรอจนกระทั่งรุ่งเช้าจึงจะสามารถเข้าไปสู่บริเวณด้านในของเรือนจำที่เกิดเหตุ โดยระบุว่า “มีคนจำนวนมากเสียชีวิต แต่ในเวลานี้ทางเราไม่สามารถที่จะเข้าไปภายในคุกแห่งนี้ได้” คามิโลแถลง
แต่อย่างไรก็ตามคามิโลยืนยันว่า ไม่มีนักโทษคนใดหลบหนีออกมาภายนอกเรือนจำ ในขณะที่ทางญาติของกลุ่มนักโทษที่ถูกกักขังในเรือนจำอัลคาคุซตามยืนจับกลุ่มบริเวณด้านนอกเพื่อรอคอยข่าวความเคลื่อนไหว
บีบีซีชี้ว่า เป็นที่น่าประหลาดที่การก่อจลาจลไม่ใช่เป็นสิ่งที่ถูกพบเห็นบ่อยครั้งภายในระบบเรือนจำที่แน่นขนัดของบราซิล ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ภายใต้อิทธิพลของกลุ่มอาชญากรรมขนาดใหญ่ แต่ทว่าระยะความถี่ของจลาจลและความรุนแรงที่เกิดขึ้นภายในเรือนจำในปีนี้ สร้างความกดดันให้กับประธานาธิบดีบราซิล มิเชล เทเมอร์(Michel Temer) ต้องออกมากล่าวถึงปัญหาที่เกิดขึ้น
ซึ่งพบว่าหลังจากเกิดจลาจลครั้งใหญ่ในคุกรัฐอามาโซนัสแล้ว ทางบราซิลได้ออกแผนการที่จะก่อสร้างเรือนจำความมั่นคงสูงอีก 5 แห่งเพิ่มเติม และการตั้งหน่วยงานข่าวกรองขึ้นใหม่ในการที่จะขจัดอำนาจของกลุ่มอาชญากรรมในเรือนจำ
