xs
xsm
sm
md
lg

“ทรัมป์” ด่าหน่วยสปาย US ทำตัวเป็น “นาซี” ตะคอกซ้ำ CNN เล่น “ข่าวปลอม”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จัดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการครั้งแรกภายหลังมีชัยชนะในการเลือกตั้ง ที่อาคารทรัมป์ ทาวเวอร์ ในนิวยอร์ก เมื่อวันพุธ(11ม.ค.)
เอเจนซีส์ - “ทรัมป์” กล่าวเมื่อวันพุธ (11 ม.ค.) ระหว่างการจัดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการครั้งแรกภายหลังมีชัยชนะในการเลือกตั้ง ตามถล่มหน่วยงานข่าวกรองของสหรัฐฯ ไม่เลิก โดยคราวนี้ถึงขั้นบอกว่าทำตัวเหมือนนาซี แถมด่าสื่อมวลชนก็ “กุข่าว” นอกจากนั้นยังยืนกรานปฏิเสธข้อกล่าวหามีสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรัสเซีย แต่ยอมรับเป็นครั้งแรกว่ามอสโกอาจพยายามแทรกแซงการเลือกตั้งประมุขทำเนียบขาว

ในการเปิดแถลงข่าวเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือนคราวนี้ นอกจากพูดประเด็นการจัดการกับอาณาจักรธุรกิจของเขาเองแล้ว ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ใช้เวลาส่วนใหญ่ของช่วงการชี้แจงตอบคำถามประมาณ 1 ชั่วโมงให้หมดไปกับการตอบโต้ข้อกล่าวหาซึ่งปรากฏในสื่อมวลชนที่ว่า ทีมผู้ช่วยของเขาสมคบกับเครมลินเพื่อเก็บชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อเดือนพฤศจิกายน รวมทั้งข้อกล่าวอ้างที่ว่าตัวเขาเองถูกรัสเซียแฮกข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลการเงิน

ทรัมป์กล่าวหาโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นเขียน “ข่าวปลอม” และประณามสื่อทางอินเทอร์เน็ต “บัซฟีด” เป็น “กองขยะ”

ขณะเดียวกัน แม้ยอมรับเป็นครั้งแรกว่ารัสเซียอาจเจาะระบบข้อมูลของคณะกรรมการแห่งชาติพรรคเดโมแครตและอีเมลของสมาชิกระดับนำของพรรคดังกล่าวระหว่างการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้ว แต่ทรัมป์สำทับว่าประเทศอื่นๆ ก็แฮกอเมริกาเช่นเดียวกัน

ว่าที่ประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันยังบอกว่า น่าขายหน้ามากที่หน่วยงานด้านข่าวกรองของสหรัฐฯ ปล่อยให้ข้อมูลการกล่าวหาที่ปราศจากหลักฐานรั่วไหลไปถึงสื่อบางสำนัก ซึ่งเป็นพฤติกรรมปกติของนาซีเยอรมัน

ทว่า เจมส์ แคลปเปอร์ ผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติ แถลงเมื่อช่วงค่ำวันพุธ (11) ว่า เขายืนยันกับทรัมป์ว่าไม่เชื่อว่าข่าวดังกล่าวรั่วจากหน่วยงานด้านข่าวกรอง และว่า ตัวเขากับว่าที่ประธานาธิบดีเห็นตรงกันว่าเหตุการณ์นี้บ่อนทำลายความมั่นคงของประเทศ

แคลปเปอร์ยังอธิบายสาเหตุที่รวมเอาเอกสารข้อมูลซึ่งได้รับจากอดีตสายลับอังกฤษผู้หนึ่งเอาไว้ในรายงานข่าวกรองที่เสนอต่อทรัมป์และโอบามาว่า เนื่องจากหน่วยงานข่าวกรองมีหน้าที่ในการรับประกันว่าบรรดาผู้วางนโยบายจะได้รับข้อมูลที่อาจกระทบต่อความมั่นคงของประเทศอย่างครบถ้วนที่สุดเท่าที่เป็นไปได้

เขายังกล่าวว่า ได้ย้ำกับทรัมป์ว่าเอกสารดังกล่าวไม่ได้จัดทำโดยหน่วยงานข่าวกรองของสหรัฐฯ และเจ้าหน้าที่ข่าวกรองไม่ได้ชี้ขาดว่าข้อมูลในเอกสารนั้นเชื่อถือได้หรือไม่

ทั้งนี้ สื่อหลายสำนักรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของพวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ซึ่งไม่ระบุนามว่า ในการบรรยายสรุปของหน่วยงานข่าวกรองต่อประธานาธิบดีและว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์ (6) ที่ผ่านมา นอกเหนือจากรายงานว่าด้วยการแทรกแซงของรัสเซียต่อการเลือกตั้งของอเมริกาแล้ว ยังมีบันทึกช่วยจำความยาว 2 หน้าระบุถึงข่าวกรองที่ฝ่ายรัสเซียรวบรวมเอาไว้เกี่ยวกับพฤติกรรมอันไม่เหมาะสมและข้อมูลทางการเงินของทรัมป์

มีรายงานว่าข้อมูลในบันทึกช่วยจำดังกล่าวเผยแพร่ในวอชิงตันมานานหลายเดือนก่อนหน้านี้ และกล่าวถึงคลิปวาบหวิวที่มีภาพหญิงขายบริการที่ถ่ายไว้ในปี 2013 ระหว่างที่ทรัมป์เดินทางไปยังโรงแรมหรูแห่งหนึ่งในมอสโก และน่าเชื่อว่าคลิปนี้มีวัตถุประสงค์ในการแบล็กเมล์

ซีเอ็นเอ็นรายงานข่าวเรื่องบันทึกช่วยจำนี้เมื่อวันอังคาร (10) ขณะที่บัซฟีดเผยแพร่เอกสารความยาว 35 หน้าที่รวบรวมโดยคริสโตเฟอร์ สตีลล์ อดีตสายลับอังกฤษ ซึ่งกล่าวหาว่าทรัมป์มีพฤติกรรมที่อ่อนข้อให้รัสเซีย รวมทั้งการเกี่ยวข้องระหว่างทรัมป์กับกลุ่มคนในรัสเซีย

ข้อกล่าวอ้างเหล่านั้นรวมอยู่ในรายงานการวิจัยเกี่ยวกับทรัมป์ที่ส่งถึงสมาชิกเดโมแครตและเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ บางคนเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งทรัมป์กล่าวหาว่าเป็นงานวิจัยที่ฝ่ายตรงข้ามว่าจ้างให้เขียนเพื่อต่อต้านตน

เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ คนหนึ่งเผยว่า เจ้าหน้าที่สอบสวนไม่สามารถยืนยันข้อมูลที่ระบุถึงความเกี่ยวพันทางการเงินและความเกี่ยวพันส่วนตัวของทรัมป์กับนักธุรกิจรัสเซีย และบุคคลอื่นๆ ที่นักวิเคราะห์ด้านข่าวกรองของสหรัฐฯ สรุปว่าเป็นเจ้าหน้าที่ข่าวกรองรัสเซียหรือคนที่ทำงานในนามหน่วยข่าวกรองรัสเซีย

นอกจากนั้น ข้อมูลบางส่วนในรายงานของสตีลล์ก็ได้รับการพิสูจน์ว่า ไม่ถูกต้อง

ในระหว่างแถลงข่าว ทรัมป์ปฏิเสธที่จะตอบคำถามว่าผู้ที่เกี่ยวข้องกับเขาหรือทีมหาเสียงของเขาติดต่อกับมอสโกระหว่างการหาเสียงหรือไม่ ซ้ำตะคอกผู้สื่อข่าวซีเอ็นเอ็นว่าจะไม่ยอมตอบคำถามจากโทรทัศน์ช่องข่าวแห่งนี้ที่เป็นผู้เพร่ “ข่าวปลอม”

อย่างไรก็ดี ทรัมป์ยืนยันว่าเขาไม่มีข้อตกลงเงินกู้หรือธุรกิจกับรัสเซีย รวมทั้งยังปกป้องเป้าหมายในการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับปูติน


กำลังโหลดความคิดเห็น