เอเจนซีส์ - ทรัมป์ของขึ้นโจมตีซีเอ็นเอ็นเต้าข่าว และเล่นเกม “ล่าแม่มดทางการเมือง” หลังสื่อดังนำทีมแฉหัวหน้าหน่วยงานข่าวกรองสำคัญแจ้งว่าที่ผู้นำสหรัฐฯ ตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่แล้ว ว่า ถูกสายลับรัสเซียล้วงข้อมูลทั้งด้านการเงินและเรื่องส่วนตัว ขณะที่ผู้ช่วยอาวุโสของทรัมป์รุมสับซีเอ็นเอ็นอีกแรงว่า ข่าวดังกล่าวไม่สามารถยืนยันได้ ซ้ำใช้แหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยตัวตน
รายงานของเครือข่ายซีเอ็นเอ็นและหนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทมส์ ที่อ้างอิงเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ที่มีส่วนร่วมในการประชุม แต่ไม่ประสงค์ออกนาม ระบุว่า บรรดาหัวหน้าหน่วยงานด้านข่าวกรองได้มอบรายงานสรุปความยาว 2 หน้าให้แก่ โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐฯ และประธานาธิบดี บารัค โอบามา ที่กำลังจะอำลาตำแหน่งในสัปดาห์หน้า ตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา (6) ระหว่างการบรรยายสรุปข้อกล่าวหาที่ว่า รัสเซียพยายามแทรกแซงการเลือกตั้งของอเมริกา
แม้รายงานของซีเอ็นเอ็นที่ออกมาเมื่อวันอังคาร (10) ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับรายงานสรุปดังกล่าว ทว่า เว็บไซต์บัซฟีดได้เผยแพร่บันทึกความจำความยาว 35 หน้าซึ่งเป็นข้อมูลอ้างอิงของรายงานสรุปที่ส่งให้ ทรัมป์ และ โอบามา และที่สำคัญ บันทึกฉบับนี้เผยแพร่ในวอชิงตันมาหลายเดือนแล้ว
บันทึกความจำระบุถึงวิดีโอฉาวที่มีภาพหญิงขายบริการที่ถ่ายระหว่างที่ทรัมป์เดินทางไปยังโรงแรมหรูแห่งหนึ่งในมอสโกเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ซึ่งน่าเชื่อว่า คลิปนี้มีจุดประสงค์ในการแบล็กเมล์
บันทึกความจำยังบ่งชี้ว่า เจ้าหน้าที่รัสเซียเสนอข้อตกลงบางอย่างเพื่อครอบงำทรัมป์
ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า บันทึกดังกล่าวรวบรวมโดยอดีตสายลับเอ็มไอ-6 ของอังกฤษที่ได้รับการว่าจ้างโดยสมาชิกพรรครีพับลิกันที่ต้องการสกัดทรัมป์เมื่อปีที่แล้ว และภายหลังยังได้ทุนจากสมาชิกพรรคเดโมแครต รายงานของซีเอ็นเอ็นที่อ้างอิงข้อมูลของนิตยสารมาเธอร์ โจนส์ เมื่อเดือนตุลาคม ยังระบุว่า สายลับอังกฤษส่งข้อมูลที่รวบรวมได้ให้สำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) ตั้งแต่เดือนสิงหาคม หรือก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีกว่าสองเดือน
รายงานสรุปความยาว 2 หน้า ยังครอบคลุมข้อกล่าวหาว่า มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันเป็นประจำระหว่างบรรดาผู้ช่วยของทรัมป์กับสื่อกลางของรัฐบาลรัสเซียในช่วงหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้ว
ทันทีที่รายงานข่าวนี้ออกมา ซึ่งเกิดขึ้นก่อนที่ทรัมป์จะแถลงข่าวครั้งแรกหลังได้รับการเลือกตั้งในวันพุธ (11) ว่าที่ผู้นำสหรัฐฯ ทวีตตอบโต้ว่า “ข่าวมั่ว เกมล่าแม่มดทางการเมืองทั้งเพ” รวมถึงทวีตโจมตีบัซฟีด ว่า เผยแพร่เอกสารที่ไม่สามารถตรวจยืนยันได้ ขณะที่ เคลลี แอนน์ คอนเวย์ ผู้ช่วยอาวุโสของทรัมป์ สำทับว่า รายงานดังกล่าวไม่ได้รับการยืนยัน และใช้แหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยตัวตน
กระนั้น ดูเหมือนเดโมแครตไม่ยอมปล่อยผ่านง่ายๆ วุฒิสมาชิก คริส คูนส์ บอกผ่านซีเอ็นเอ็น ว่า หากข้อกล่าวหาที่ว่า ทีมงานทรัมป์รวมหัวกับเจ้าหน้าที่ข่าวกรองรัสเซีย และมอสโกพยายามครอบงำทรัมป์เป็นเรื่องจริงถือว่า น่าตกใจมากและทรัมป์ไม่สมควรได้เป็นประธานาธิบดี
ซีเอ็นเอ็นยังรายงานว่า นับจากที่เอฟบีไอได้รับข้อมูลเหล่านี้ หน่วยงานข่าวกรองของอเมริกาก็รีบเร่งตรวจสอบสายลับอังกฤษที่เป็นต้นตอข้อมูลและได้ข้อสรุปว่า ข้อมูลดังกล่าวเชื่อถือได้เพียงพอที่จะรวมไว้ในรายงานที่เสนอต่อทรัมป์
ขณะเดียวกัน ข่าวลือที่ว่า ข้อมูลเหล่านี้แพร่หลายในวอชิงตันมาตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง ดูมีน้ำหนักมากขึ้น เมื่อ แฮร์รี รีด ผู้นำพรรคเดโมแครตในวุฒิสภา ส่งจดหมายถึง เจมส์ โคมีย์ ผู้อำนวยการเอฟบีไอ ในช่วงหนึ่งสัปดาห์ก่อนวันเลือกตั้ง เรียกร้องว่า ประชาชนมีสิทธิ์รับรู้ข้อมูลเกี่ยวกับความสัมพันธ์และการร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างทรัมป์และที่ปรึกษาระดับสูงกับรัฐบาลรัสเซีย
โคมีย์นั้นเป็น 1 ใน 4 หัวหน้าหน่วยงานข่าวกรองที่บรรยายสรุปต่อทรัมป์เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว โดยอีกสามคน คือ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลาง (ซีไอเอ) และ ผู้อำนวยการสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ
อย่างไรก็ดี เมื่อถูกวุฒิสภาซักถามเมื่อวันอังคาร โคมีย์ไม่ยืนยันหรือปฏิเสธว่า เอฟบีไอกำลังตรวจสอบข้อกล่าวหาที่ว่า ทีมงานทรัมป์ติดต่อกับรัสเซียอย่างต่อเนื่องหรือไม่
อนึ่ง ข่าวกรองของสหรัฐฯ สรุปว่า ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย พยายามบิดเบือนการเลือกตั้งผู้นำสหรัฐฯ เพื่อช่วยทรัมป์ ด้วยการเจาระบบอีเมลของพรรคเดโมแครต และปล่อยข่าวลวงเพื่อดิสเครดิต ฮิลลารี คลินตัน ที่โพลทุกสำนักฟันธงว่า จะเป็นผู้ชนะในศึกชิงทำเนียบขาวเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
รายงานยังระบุว่า จีอาร์ยู ซึ่งเป็นหน่วยข่าวกรองทางทหารของรัสเซีย ใช้ตัวกลาง อาทิ เว็บไซต์วิกิลีกส์ ปล่อยอีเมลที่แฮกจากคณะกรรมการแห่งชาติพรรคเดโมแครต และสมาชิกชั้นนำของพรรคนี้บางคน
ทว่า ทรัมป์ปฏิเสธข้อสรุปดังกล่าวมาตลอด แถมเรียกร้องให้อเมริกาเยียวยาความสัมพันธ์กับรัสเซีย โดยประณามพวกที่คัดค้านข้อเรียกร้องนี้ว่า “โง่”