เอเอฟพี - อัยการสหรัฐฯ ยื่นฟ้องญาติสนิทของอดีตเลขาธิการสหประชาชาติ บัน คีมูน โทษฐานพยายามติดสินบนเจ้าหน้าที่ตะวันออกกลางเพื่อขายอสังหาริมทรัพย์ในกรุงฮานอยที่มีมูลค่าราว 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
เอกสารคำฟ้องความยาว 39 หน้าที่เผยแพร่วานนี้ (10 ม.ค.) ได้แจ้งข้อหาเพื่อเอาผิดต่อ จู ฮยุน-บันห์ หรือ “เดนนิส” โบรกเกอร์อสังหาริมทรัพย์ในย่านแมนฮัตตัน และ บัน คีซัง บิดาของเขาซึ่งเป็นผู้บริหารอาวุโสของบริษัทก่อสร้างสัญชาติเกาหลีใต้
จำเลยคนที่ 3 ในคดีนี้เป็นชาวอเมริกันชื่อ มัลคอล์ม แฮร์ริส ซึ่งรับหน้าที่เป็นคนกลางเจรจากับเจ้าหน้าที่ชาวตะวันออกกลางคนหนึ่ง แต่กลับยักยอกเงินสินบน 500,000 ดอลลาร์เข้ากระเป๋าตัวเอง และนำไปซื้อสิ่งของฟุ่มเฟือย
บัน คีซัง เป็นน้องชายแท้ๆ ของอดีตเลขาธิการยูเอ็น ขณะที่ จู ฮยุน-บันห์ ก็เป็นหลานชาย
บัน คีมูน เพิ่งจะหมดวาระดำรงตำแหน่งเลขาธิการยูเอ็นไปเมื่อวันที่ 1 ม.ค.ปีนี้ และส่งมอบหน้าที่ให้อดีตนายกรัฐมนตรี อันโตนิโอ กูเตอร์เรส แห่งโปรตุเกส
อัยการสหรัฐฯ ระบุว่า แผนติดสินบนข้ามชาตินี้เกิดขึ้นระหว่างเดือน มี.ค.ปี 2013 ถึงเดือน พ.ค.ปี 2015 โดยเกี่ยวโยงกับการซื้อขายอาคารสำนักงานและที่พักอาศัยในเมืองหลวงของเวียดนามซึ่งมีบริษัทก่อสร้างโสมขาว เกียงนัม เอนเทอร์ไพรซ์ (Keangnam Enterprises) เป็นเจ้าของโครงการ
จำเลยทั้งสามมีเจตนาโน้มน้าวให้เจ้าหน้าที่จากราชอาณาจักรในตะวันออกกลางซื้ออาคารดังกล่าว โดยใช้เงินกองทุนความมั่งคั่งแห่งรัฐ (sovereign wealth fund) และยังพยายามติดต่อประมุขของรัฐแห่งนี้ระหว่างการประชุมสมัชชาใหญ่ยูเอ็นที่นครนิวยอร์กด้วย
บัน คีซัง และบุตรชายยอมจ่ายสินบนงวดแรก 500,000 ดอลลาร์สหรัฐ โดยโอนเงินจากเกาหลีใต้เข้าบัญชีเงินฝากในนครนิวยอร์กเมื่อเดือน เม.ย.ปี 2014 และได้จ่ายเพิ่มไปอีก 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อการซื้อขายเสร็จสิ้น
อย่างไรก็ตาม แฮร์ริส กลับนำเงิน 500,000 ดอลลาร์สหรัฐเข้ากระเป๋าตัวเอง ทำให้การซื้อขายครั้งนี้ไม่สำเร็จ ขณะที่ เกียงนัม เอนเตอร์ไพรซ์ ต้องร้องขอให้ศาลเกาหลีใต้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เนื่องจากเกิดวิกฤตสภาพคล่อง
ญาติสนิททั้งสองของบัน ถูกอัยการตั้งข้อหาทุจริต ฟอกเงิน และสมคบคิดก่ออาชญากรรม ขณะที่ตัวหลานชายยังถูกตั้งข้อหาปลอมเอกสารเพื่อให้ดูเหมือนว่าการซื้อขายอาคารใกล้จะสำเร็จลุล่วง