รอยเตอร์ - กองทัพสหรัฐฯ อาจเลือกที่จะเฝ้าจับตาการทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป (Intercontinental Ballistic Missile - ICBM) ของเกาหลีเหนือเพื่อรวบรวมข่าวกรอง มากกว่าที่จะยิงทำลายจรวดดังกล่าว หากไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อแผ่นดินอเมริกา รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แถลงเมื่อวานนี้ (10 ม.ค.)
เกาหลีเหนือประกาศเมื่อวันอาทิตย์ (8) ว่า พวกเขาอาจจะนำขีปนาวุธ ICBM ออกมายิงทดสอบในวันเวลาและสถานที่ใดก็ได้ตามที่ผู้นำ คิม จอง อึน มีคำสั่ง พร้อมกล่าวโทษนโยบายก้าวร้าวของสหรัฐฯ ว่าเป็นเหตุให้ต้องเร่งพัฒนาอาวุธป้องกันตนเอง
“หากขีปนาวุธนั้นเป็นภัยคุกคามกับเรา มันก็จะถูกยิงสกัด แต่หากไม่เป็นภัย เราก็ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น” แอชตัน คาร์เตอร์ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ บอกกับสื่อมวลชนในงานแถลงข่าวครั้งสุดท้าย ก่อนที่รัฐบาลประธานาธิบดีบารัค โอบามา จะหมดวาระลงในวันที่ 20 ม.ค.นี้
“นั่นเป็นเพราะว่าเราอาจจะได้ประโยชน์มากกว่า ประการแรกคือเราจะได้ประหยัดขีปนาวุธสกัดกั้นเอาไว้ และประการที่สองคือเราจะได้รวบรวมข่าวกรองระหว่างที่จรวดกำลังเดินทาง แทนที่จะไป (ยิงสกัด) ทั้งๆ ที่มันไม่ได้เป็นภัยคุกคาม”
พล.ร.อ.โจเซฟ ดันฟอร์ด ซึ่งจะยังดำรงตำแหน่งประธานเสนาธิการทหารร่วมสหรัฐฯ ต่อไป มีท่าทีเห็นด้วยกับ คาร์เตอร์ แต่ไม่ได้ลงลึกถึงรายละเอียด
สำนวนภาษาของคาร์เตอร์นั้น บ่งบอกว่าสหรัฐฯ อาจจะตัดสินใจใช้ปฏิบัติการทางทหารได้ทุกเมื่อเช่นกัน
คำแถลงของคาร์เตอร์ มีขึ้นเพียงสัปดาห์เศษๆ หลังจากที่ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกมายืนยันผ่านทวิตเตอร์เมื่อวันที่ 2 ม.ค. ว่าเกาหลีเหนือไม่มีวันยิงขีปนาวุธ ICBM มาโจมตีแผ่นดินสหรัฐฯ ได้สำเร็จ “มันจะไม่มีวันเกิดขึ้น!”
ทั้งนี้ การสกัดกั้นจรวด ICBM นั้นพูดง่ายแต่ทำได้ยากกว่า และ ทรัมป์ ก็ยังไม่เคยบอกว่าเขามีแผนอย่างไรที่จะกดดันให้เกาหลีเหนือละเลิกโครงการพัฒนาอาวุธหลังจากที่เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แล้ว ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลอเมริกันชุดก่อนๆ ไม่ว่าจะสายรีพับลิกันหรือเดโมแครตก็ยังทำไม่สำเร็จเช่นกัน
ผลการประเมินในปี 2016 ซึ่งสำนักงานทดสอบอาวุธของเพนตากอนเผยแพร่เมื่อวานนี้ (10) ชี้ว่า ระบบขีปนาวุธสกัดกั้นของสหรัฐฯ ที่ติดตั้งบนพื้นดินเพื่อยิงทำลายจรวด ICBM จากชาติศัตรูนั้น มีศักยภาพจำกัด และ “เชื่อถือได้น้อยมาก”
หากปล่อยให้พัฒนาจนสมบูรณ์แบบ ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จรวด ICBM ของโสมแดงจะเดินทางไปถึงสหรัฐฯ ซึ่งอยู่ห่างออกไปราว 9,000 กิโลเมตร และแม้ว่าจรวด ICBM ส่วนใหญ่จะมีพิสัยเดินทางขั้นต่ำ 5,500 กิโลเมตร แต่บางรุ่นก็อาจถูกออกแบบให้สามารถโจมตีเป้าหมายที่อยู่ไกลออกไปถึง 10,000 กิโลเมตร หรือไกลกว่านั้นก็ได้
อดีตเจ้าหน้าที่อเมริกันและผู้เชี่ยวชาญหลายคนระบุว่า สหรัฐฯ มีเพียง 2 ทางเลือกที่จะชะลอโครงการพัฒนานิวเคลียร์และขีปนาวุธของโสมแดงได้ นั่นคือการเจรจา หรือไม่ก็ต้องใช้ปฏิบัติการทางทหารเข้ายับยั้ง
อย่างไรก็ดี ทั้ง 2 ทางเลือกยังไม่อาจการันตีความสำเร็จได้ 100 เปอร์เซ็นต์ และหากวอชิงตันเลือกใช้ปฏิบัติการทางทหารก็อาจส่งผลกระทบใหญ่หลวงต่อญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ซึ่งอยู่ประชิดกับเกาหลีเหนือ
ด้าน จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เตือนว่าสถานการณ์กำลังเข้าสู่ภาวะอันตราย “และใกล้จุดนั้นเข้ามาทุกขณะ”
“เพราะหาก คิม จองอึน ยืนกราน (ที่จะพัฒนาจรวด ICBM ต่อไป) ก็เท่ากับดึงสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะสุ่มเสี่ยง ซึ่งเราอาจจะต้องหาวิธีการอื่นๆ ที่แข็งกร้าวและมีอิทธิพลต่อทางเลือกของเขามากกว่านี้” เคร์รี กล่าวที่วิทยาลัยกองทัพเรือสหรัฐฯ (US Naval Academy)
