เอเจนซีส์ – ประธานาธิบดีหญิงไต้หวัน ไช่ อิงเหวิน เข้าร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งผู้นำนิการากัวของเผด็จการ แดนเนียล ออร์เตกา ที่จะเข้าสาบานตนพร้อมกับว่าที่รองประธานาธิบดี โรซาริโอ มูริลโล(Rosario Murillo) ศรีภรรยา วันนี้(10 ม.ค) โดยไช่และคณะได้เดินทางมาถึงนิการากัวตั้งแต่เมื่อวานนี้(9 ม.ค) ก่อนที่จะได้รับการต้อนรับจากออร์เตกาและภรรยาที่สำนักงานพรรคการเมืองกลางกรุงมานากัว แทนที่จะเป็นทำเนียบประธานาธิบดีนิการากัวตามปกติ ด้านโฆษกไช่ปัดวุ่น “ไม่ใช่การลดระดับความสำคัญ”
สื่อไต้หวันนิวส์ รายงานวันนี้(10 ม.ค)ว่า ในการเดินทางเยือนถึงนิการากัว ประธานาธิบดีหญิงไต้หวัน ไช่ อิงเหวิน ได้รับการต้อนรับจาก ว่าที่ประธานาธิบดี การ แดนเนียล ออร์เตกา ที่มีกำหนดจะเข้ารับการสาบานตนพร้อมกับว่าที่รองประธานาธิบดี โรซาริโอ มูริลโล(Rosario Murillo) ศรีภรรยาในวันนี้(10 ม.ค)
โดยทั้งออร์เตกาและมูริลโลชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทะลายในเดือนพฤศจิกายนล่าสุดในการกลับเข้ารับตำแหน่งอีกครั้ง โดยจะเป็นการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีในสมัยที่ 3 ของออร์เตกา ซึ่ง ไต้หวันนิวส์ชี้ว่า สำนักงานทำเนียบประธานาธิบดีไต้หวันแถลงก่อนการเดินทางว่า ในการเดินทางมาเยือนนิการากัวครั้งนี้ ไช่มีกำหนดจะพบกับออร์เตกา แต่ทว่าไม่ได้มีการประกาศกำหนดเวลาการพบปะออกมาในขณะนั้น
แต่อย่างไรก็ตาม สื่อไต้หวันชี้ว่า หลังจากที่ผู้นำไต้หวันได้เดินทางมาถึงกรุงมานากัวแล้ว กลับพบว่าบรรดาผู้สื่อข่าวติดตามจากไต้หวันถูกกีดกันการรายงานข่าวการหารือ โดยกลุ่มคณะนักข่าวติดตามถูกนำไปยังโรงแรมที่พัก ในขณะที่ไช่ อิงเหวิน และคณะกลับถูกนำขึ้นรถไปยังสำนักงานใหญ่ของพรรคการเมืองของแดนเนียล ออร์เตกา แทน
และเมื่อบรรดาผู้สื่อข่าวไต้หวันที่ในขณะอยู่ในโรงแรมได้เปิดโทรทัศน์เพื่อรับชม แต่ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่า มีภาพข่าวการรายงานสดการพบปะระหว่างประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน และว่าที่ประธานาธิบดีนิการากัว แดเนียล ออร์เตกา พร้อมกับว่าที่รองประธานาธิบดีนิการากัว โรซาริโอ มูริลโล ผ่านการรายงานสถานทีโทรทัศน์รัฐบาลช่อง 6 (Canal 6) ของนิการากัวออกมา
และทำให้ทางคณะผู้สื่อข่าวที่ติดตามต้องถ่ายภาพข่าวจากโทรทัศน์ในการรายงานข่าว
ด้านโฆษกประธานาธิบดีไต้หวัน อเล็กซ์ ฮวง( Alex Huang) แถลงว่า การพบปะระดับทวิภาคีของผู้นำระดับประเทศนั้นเป็นการหารือแบบปิดลับ ที่จะมีการแถลงข่าวเกิดขึ้นตามมาในภายหลัง และเขาได้อธิบายถึงการถ่ายทอดสดผ่านหน้าจอเกิดขึ้นอย่างกะทันหันนั้นเกิดจากความกระตือรือล้นส่วนตัวของว่าที่ประธานาธิบดีนิการากัว แดเนียล ออร์เตกา
ซึ่งก่อนหน้านี้ สื่อไต้หวันรายงานว่า มีความกังวลว่า นิการากัวจะเป็นชาติต่อไปที่จะประกาศตัดความสัมพันธ์จากไต้หวัน เพื่อหวังใกล้ชิดปักกิ่ง
โดยสื่อ ไต้หวัน โฟกัส นิวส์ แชเนล รายงานเพิ่มเติมว่า ในการพบปะระหว่างไช่และออร์เตกาในวันจันทร์(9 ม.ค)นั้น ผู้นำนิการากัวยืนยันว่า ทางนิการากัวจะยังคงให้การสนับสนุนการเข้าร่วมของไต้หวันต่อองค์การสหประชาชาติ และหน่วยงานระดับนานาชาติอื่นๆ
ซึ่งในการพบปะหารือ ออร์เตกาได้กล่าวคำหวาน แสดงความชื่นชมต่อไช่และประชาชนชาวไต้หวัน พร้อมกับกล่าวว่า นิการากัวได้ประโยชน์จากความร่วมมือของทั้ง 2 ชาติระดับทวิภาคีโดยเฉพาะในด้านการค้า
และนอกจากนี้ ประธานาธิบดีออร์เตกายังกล่าวชื่นชมว่า ตัวเขาซาบซึ้งเป็นอย่างมากต่อไต้หวันในการให้ความช่วยเหลือต่อนิการากัวเป็นพิเศษ โดยในการประชุมซัมมิตระบบรวมกลุ่มอเมริกากลาง SICA ซึ่งถูกจัดขึ้นในนิการากัวเมื่อไม่นานมานี้ ออร์เตกาได้ประกาศว่า ประเทศของเขายังคงมีจุดยืนในพันธะสัญญาการกระชับความสัมพันธ์กับไต้หวันต่อไป
โดยในการหารือร่วมกับไช่ ออร์เตกาได้ยืนยันกับผู้นำหญิงไต้หวันว่า เขายืนยันว่า นิการากัวจะให้การสนับสนุนไต้หวันในการเข้าสมัครเป็นสมาชิกองค์การสหประชาชาติ หรือหน่วยงานระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง และหน่วยงานอื่นๆด้านบรรเทาทุกข์ สาธารณสุข การศึกษา วัฒนธรรม ความปลอดภัยการบินพลเรือน การปกป้องสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศไต้หวัน โฟกัส นิวส์ แชเนล รายงาน
ซึ่งออร์เตกาได้ประกาศว่า “ขอให้เรามาร่วมสู้เพื่อสิทธิที่ดีกว่าของพลเมืองไต้หวัน” และทำให้ไช่ตอบกลับมาว่า การสนับสนุนของชุมชนนานาชาติได้ช่วยให้ไต้หวันประสบความสำเร็จต่อการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ และทำให้ไต้หวันมีความมุ่งมั่นที่จะตอบแทนด้วยการช่วยเหลือประเทศอื่นๆในการพัฒนาและปรับปรุงเพื่อประชาชนของประเทศเหล่านั้นเช่นกัน
และในแถลงการณ์ของไช่ เธอกล่าวว่า ในการเยือนประเทศทั้ง 4 ในอเมริกากลางนี้ ล้วนแต่เป็นพันธมิตรอย่างยาวนานของไต้หวัน และไต้หวันจะทำทุกวิถีทางเพื่อจะทำให้อเมริกากลางสามารถมีความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว
และสำหรับการเดินทางเข้าร่วมพิธีสาบานตนของผู้นำเผด็จการนิการากัว แดเนียล ออร์เตกานั้น ไช่กล่าวแสดงความรู้สึกว่า เธอรู้สึกยินดีที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วม ซึ่งเธอได้ส่งผ่านการแสดงความยินดีจากประชาชนไต้หวันไปยังออร์เตกา และไช่ยังกล่าวต่อว่า เธอหวังว่าการเดินทางมาเยือนคราวนี้ จะช่วยสามารถทำให้ความสัมพันธ์ทั้งสองประเทศนั้นมั่นคงมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้สื่อไต้หวัน โฟกัส นิวส์ แชเนล รายงานสอดคล้องกับไต้หวันนิวส์ที่ว่า การพบปะระหว่างไช่และออร์เตกานั้น มีว่าที่ประธานาธิบดีนิการากัว ซึ่งเป็นภรรยาของออร์เตกาอยู่ในที่หารือด้วย
ด้านไต้หวันนิวส์รายงานเพิ่มเติมต่อว่า แต่อย่างไรก็ตาม ฮวง โฆษกประธานาธิบดีไต้หวัน ได้ปฎิเสธในเรื่องสถานที่การพบปะหารือระหว่างไช่และออร์เตกา ที่เลือกใช้สำนักงานพรรคการเมืองแทนทำเนียบประธานาธิบดีนิการากัวตามปกตินั้น ***ไม่ใช่เกิดขึ้นเนื่องมาจากการลดระดับความสำคัญของไช่แต่อย่างใด*** แต่ย่างไรก็ตาม ไต้หวันนิวส์รายงานว่า บรรดาสมาชิกรัฐสภาไต้หวันได้ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลไต้หวันถามไปยังเจ้าหน้าที่นิการากัวถึงสาเหตุนี้
ทั้งนี้การเยือนนิการากัวของไช่จะเสร็จสิ้นในวันพุธ(11 ม.ค)และเธอจะเดินทางต่อไปยังกัวเตมาลา และเอลซัลวาดอร์ต่อไป ก่อนที่จะเดินทางกลับไปยังไต้หวันในวันที่ 15 ม.ค โดยที่ไช่มีกำหนดจะหยุดจอดเพื่อเปลี่ยนเครื่องบินที่เมืองซานฟรานซิสโก สหรัฐฯ
โดยการเดินทางเยือนอเมริกากลางเป็นเวลา 9 วันของไช่มีเป้าหมายเพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไต้หวันและชาติเหล่านี้ให้มั่นคงหลังจากก่อนหน้านี้ สาธารณรัฐประชาธิปไตยเซาตูเมและปรินซิปี ในแอฟริกาตะวันตก ประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวันในวันที่ 20 ธ.ค 2016 สื่อไต้หวัน โฟกัส นิวส์ แชเนล รายงาน