เอเจนซีส์ - ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ “โดนัลด์ ทรัมป์” จับเข่าคุย “แจ็ก หม่า” เจ้าพ่ออาลีบาบา ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่แดนมังกร เพื่อหาทางนำธุรกิจขนาดเล็กของอเมริกา 1 ล้านรายเข้าถึงผู้บริโภคจีนและเอเชีย ด้วยการขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มอาลีบาบาภายใน 5 ปี คาดแผนการนี้จะช่วยสร้างงาน 1 ล้านตำแหน่งในสหรัฐฯ
ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน ที่ไม่เคยมีประสบการณ์งานการเมืองและจะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคมนี้ ให้สัญญาตั้งแต่ครั้งหาเสียงว่า การสร้างงานจะเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญในคณะบริหารของตน
ทีมงานของทรัมป์แถลงเมื่อวันจันทร์ (9) ว่า การพบปะระหว่างเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์วัย 70 ปีจากนิวยอร์ก ที่กำลังจะย้ายนิวาสถานเข้าสู่ทำเนียบขาว กับมหาเศรษฐีเบอร์หนึ่งของจีน “แจ็ก หม่า” ได้เน้นหารือวิธีการที่ “อาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง” จะช่วยสร้างงาน 1 ล้านตำแหน่งในสหรัฐฯ จากการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการขนาดเล็กของอเมริกาใช้แพลตฟอร์มของอาลีบาบาเพื่อขายสินค้าให้กับลูกค้าในจีนและเอเชีย
แม้อาลีบาบาอวดอ้างมานานแล้วว่าต้องการนำธุรกิจขนาดเล็กของอเมริกาเข้าสู่เว็บไซต์ของบริษัท แต่นี่เป็นครั้งแรกที่หม่าหารือเป้าหมายนี้อย่างเฉพาะเจาะจง
ภายหลังการหารือที่อาคาร “ทรัมป์ ทาวเวอร์” ในนิวยอร์ก ว่าที่ผู้นำอเมริกาได้ยกย่องว่า มหาเศรษฐีวัย 52 ปีของจีนเป็นผู้ประกอบการที่ยิ่งใหญ่ และเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการที่เก่งที่สุดในโลก
ทางด้าน แจ็ก หม่า ประธานบริหารอาลีบาบา แถลงว่า การประชุมก่อเกิดผลลัพธ์ที่ดีมากมายโดยมุ่งเน้นที่ธุรกิจขนาดเล็ก เช่น เกษตรกรและผู้ผลิตเสื้อผ้า โดยเฉพาะในย่านมิดเวสต์ของอเมริกา ให้สามารถเข้าถึงตลาดจีนและเอเชียโดยตรงผ่านอาลีบาบาที่มีแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ “ทีมอลล์” นำเสนอหน้าร้านเสมือนและพอร์ทัลการชำระเงินให้ผู้ค้า
ช่วงหลายปีมานี้ อาลีบาบาพยายามเกี้ยวพาแบรนด์ต่างประเทศให้นำสินค้าไปขายให้ชนชั้นกลางของจีนที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วผ่านทางทีมอลล์ ด้วยการเสนอกระบวนการขาย ชำระเงิน และจัดส่งสินค้าในจีนอย่างราบรื่น
การพบกันครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่ทรัมป์ขู่รีดภาษี 45% จากสินค้านำเข้าของจีน รวมทั้งประกาศว่า จะตีตราจีนเป็นประเทศที่บิดเบือนอัตราแลกเปลี่ยนตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับตำแหน่ง
ท่าทีเป็นปรปักษ์ดังกล่าวทำให้ภาคธุรกิจอเมริกันหวาดเกรงว่า การส่งออกของตนจะถูกลูกหลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ปักกิ่งส่งสัญญาณว่า จะตอบโต้หากมีการขึ้นภาษีจริง
เกี่ยวกับเรื่องนี้ หม่ากล่าวว่า ตนและทรัมป์เห็นพ้องว่า ความสัมพันธ์อเมริกา-จีนควรได้รับการส่งเสริมให้เข้มแข็งและเป็นมิตรมากขึ้น พร้อมยกย่องทรัมป์ว่า “ฉลาดและใจกว้างมาก” ในการรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง
ผู้ก่อตั้งอาลีบาบายังบอกอีกว่า ตนนำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับวิธีปรับปรุงความสัมพันธ์ทางการค้า และทรัมป์ซึ่งมีข้อกังวลแต่ก็มีวิธีแก้ปัญหา บอกว่า ต้องการหารือกับจีนและอาลีบาบา
อาลีบาบานั้นมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับรัฐบาลจีน และทำงานอย่างใกล้ชิดกับทางการ ด้วยเป้าหมายพัฒนาเทคโนโลยีหลักบางอย่างของประเทศ ซึ่งรวมถึงโครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์และบิ๊กดาต้า
โฆษกหญิงของอาลีบาบาเผยว่า ปัจจุบันมีแบรนด์อเมริกันราว 7,000 แบรนด์ รวมถึงบริษัทค้าส่ง “คอสต์โคโฮลเซล คอร์ป” และ “ลีวายส์” ที่เปิดหน้าร้านบนทีมอลล์ ซึ่งปีที่ผ่านมาบริษัทเหล่านี้ทำยอดขายในจีนรวม 15,000 ล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม ดันแคน คลาร์ก ประธานบริษัทที่ปรึกษาด้านการลงทุน บีดีเอ ไชน่า และผู้เขียนหนังสือเกี่ยวกับอาลีบาบามองว่า เป้าหมายของหม่าในการช่วยสร้างงาน 1 ล้านตำแหน่งในอเมริกาคงต้องใช้ความอุตสาหะพยายามอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม อาลีบาบาไม่ได้ระบุว่า ทรัมป์และหม่าได้คุยกันเรื่องที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (เอสอีซี) ขึ้นบัญชีดำอาลีบาบา เนื่องจากเห็นว่าผู้ค้าปลีกออนไลน์ยักษ์ใหญ่ของจีนแห่งนี้ไม่ดำเนินการอย่างเพียงพอเพื่อหยุดยั้งการขายสินค้าปลอมบนเว็บของบริษัทหรือไม่
ถึงกระนั้นก็เป็นที่น่าสังเกตว่า ตัวเลือกของทรัมป์สำหรับตำแหน่งนายใหญ่เอสอีซี ซึ่งก็คือ “เจย์ เคลย์ตัน” นักกฎหมายชั้นนำในวอลล์สตรีท ก็เคยทำงานให้อาลีบาบาตอนที่เสนอขายหุ้นต่อสาธารณชนครั้งแรก