เอเอฟพี - สหรัฐฯ ประกาศขึ้นบัญชีดำเจ้าหน้าที่คนสนิทของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย พร้อมผู้ต้องสงสัยหลักในคดีลอบวางยาพิษสังหารอดีตสายลับหมีขาว อเล็กซานเดอร์ ลิตวิเนนโก ในกรุงลอนดอนเมื่อ 10 ปีก่อน
กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้เพิ่มชื่อของ อเล็กซานเดอร์ บาสตรีกิน ประธานคณะกรรมการสืบสวนแห่งรัสเซีย รวมถึง อันเดร ลูโกวอย และ ดมิตรี คอฟตุน ซึ่งเชื่อกันว่าเป็น “นักฆ่า” ที่ลอบสังหาร ลิตวิเนนโก ที่โรงพยาบาลในกรุงลอนดอน ลงในบัญชีดำคว่ำบาตรตามกฎหมายแม็กนิตสกี (Magnitsky Act)
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ออกมาแถลงเรื่องนี้ ไม่ได้ระบุชัดเจนว่าบุคคลทั้งสามถูกกล่าวหาในเรื่องใด ทว่าการขึ้นบัญชีดำเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ความสัมพันธ์ทางการทูตกำลังตกต่ำจากกรณีที่มอสโกถูกกล่าวหาว่าแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
“เราได้ศึกษาข้อมูลมาอย่างถี่ถ้วน ก่อนจะพิจารณาเพิ่มชื่อบุคคลกลุ่มนี้ลงในบัญชีดำ” จอห์น เคอร์บีย์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุ พร้อมอธิบายว่า บุคคลทั้งสาม “มีบทบาทสำคัญในกลไกการบังคับใช้กฎหมายแบบกดขี่ในรัสเซีย และยังพัวพันการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นร้ายแรง”
ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ซึ่งกำลังจะหมดวาระในอีกไม่ถึง 2 สัปดาห์ กล่าวหารัสเซียว่าเป็นผู้สั่งการโจมตีทางไซเบอร์ เปิดโปงอีเมล และโฆษณาชวนเชื่อ เพื่อแทรกแซงศึกเลือกตั้งผู้นำสหรัฐฯ เมื่อเดือน พ.ย.
หน่วยข่าวกรองอเมริกันสรุปตรงกันแล้วว่า รัสเซียจงใจแฮกเลือกตั้งเพื่อช่วยให้ โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นฝ่ายชนะ ฮิลลารี คลินตัน ซึ่งข้อสรุปเช่นนี้ก็ทำให้มหาเศรษฐีปากร้ายถึงกับควันออกหู และตำหนิประชาคมข่าวกรองว่ากำลัง “ล่าแม่มด” เพื่อบั่นทอนความชอบธรรมของตน
ฝ่ายรัสเซียเองก็ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมดนี้ พร้อมยืมคำว่า “ล่าแม่มด” มาใช้ด้วย
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลโอบามาได้ตัดสินใจตอบโต้โดยการขับทูตรัสเซีย 35 คนออกจากสหรัฐฯ รวมถึงประกาศคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่คนสนิทของ ปูติน เมื่อวานนี้ (9) ด้วย
สำหรับคำถามที่ว่า เหตุใดการอัพเดตบัญชีดำของกฎหมายแม็กนิตสกีครั้งล่าสุดจึงไม่มีรายชื่อของ “ปูติน” อยู่ด้วย เจ้าหน้าที่อาวุโสคนหนึ่งก็อธิบายว่า สหรัฐฯ ไม่ต้องการทำรุนแรงถึงขั้นแตกหักกับรัสเซีย
“เราจำเป็นต้องรักษาโอกาสในการทำงานร่วมกับรัสเซียในส่วนที่จะเป็นผลประโยชน์ของชาติ... เช่น การหาทางออกให้แก่วิกฤตการณ์ในซีเรีย และยูเครนตะวันออก” เจ้าหน้าที่ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม กล่าว
“จุดประสงค์ของการคว่ำบาตรก็เพื่อกดดันให้พวกเขาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม... เราต้องการสื่อให้เห็นชัดเจนว่า การแทรกแซงกระบวนการประชาธิปไตยในสหรัฐฯ จะต้องได้รับผลสนอง”
บาสตรีกิน เป็นหนึ่งในพันธมิตรผู้ทรงอิทธิพลที่สุดของ ปูติน และปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการสืบสวนแห่งชาติ ซึ่งมีหน้าที่ปราบปรามผู้ต่อต้านในประเทศ
เขาเคยถูกบีบให้ออกมาขออภัยหลังจาก “ขู่ฆ่า” นักข่าวคนหนึ่ง และยังเล่นงานกลุ่มเอ็นจีโอที่พยายามก้าวก่ายการเมืองในรัสเซีย
รัฐบาลอังกฤษระบุว่า ลูโกวอย และ คอฟตุน เป็นผู้ต้องสงสัยหลักในคดีลอบสังหาร ลิตวิเนนโก ซึ่งถูกพิษกัมมันตภาพรังสีจนเสียชีวิตในกรุงลอนดอนเมื่อปี 2006 หลังจากดื่มชาผสมโพโลเนียมเข้าไป