รอยเตอร์ - แอชตัน คาร์เตอร์ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ออกมายอมรับเมื่อวานนี้ (8 ม.ค.) ผ่านรายการ Meet The Press ทางสื่อสหรัฐฯ ว่า “ศักยภาพอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธของโครงการพัฒนาอาวุธเกาหลีเหนือ ถือเป็นภัยร้ายแรงต่อสหรัฐฯ” และหากหลังจากก่อนหน้านี้ในวันเดียวกันเปียงยางประกาศความพร้อมในการทดสอบยิงมิสไซล์ข้ามทวีป ICBM หากได้รับคำสั่งจากผู้นำเกาหลีเหนือ คิม จองอึน ถึงพิกัดและเวลา
รอยเตอร์รายงานเมื่อวานนี้ (8 ม.ค.) ว่า เกาหลีเหนือออกแถลงการณ์ในวันอาทิตย์ (8) แสดงความพร้อมในการเริ่มการทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป ที่รู้จักในนาม ICBM เมื่อได้รับการอนุญาตจากประธานาธิบดีเกาหลีเหนือ คิม จองอึน ที่จะเป็นผู้กำหนดพิกัดจุดทดสอบ และเวลาในการทดสอบ
ก่อนหน้านี้ในแถลงการณ์วันปีใหม่เมื่อวันที่ 1 ม.คที่ผ่านมา คิมได้ประกาศต่อสาธารณะว่า เกาหลีเหนือประสบความสำเร็จและเข้าใกล้ความพร้อมในการเริ่มทดสอบระบบขีปนาวุธข้ามประเทศแล้ว
โดยสำนักข่าวทางการเกาหลีเหนือ KCNA ได้รายงานการแถลงของโฆษกกระทรวงต่างประเทศเกาหลีเหนือวที่อ้างว่า เป็นความผิดของสหรัฐฯ ทั้งหมด ที่ทำให้เปียงยางจำเป็นต้องเร่งการพัฒนาโครงการอาวุธแบบก้าวกระดด โดยในแถลงการณ์กล่าวว่า “ความผิดทั้งหมดเป็นของสหรัฐฯ แต่ผู้เดียว ที่ได้บีบบังคับเกาหลีเหนือให้ต้องเร่งรีบพัฒนาอาวุธขีปนาวุธพิสัยข้ามทวีป จากการที่ทางเปียงยางต้องเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือต่อนโยบายที่เกิดขึ้นอย่างไม่เหมาะสมกับยุคสมัยของอเมริกาที่มีความมุ่งร้ายต่อเกาหลีเหนือนานหลายสิบปี มุ่งหมายเพื่อละเมิดอธิปไตยและสิทธิชอบธรรมของเกาหลีเหนือ”
ในแถลงการณ์ยังกล่าวต่อว่า “และใครก็ตามที่คิดจะต่อกรกับเกาหลีเหนือ เห็นควรจะต้องได้รับคำแนะนำให้หาทางใหม่หลังจากได้รับรู้อย่างแจ่มแจ้งแล้ว”
โดยในวันเดียวกันนั้น รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ออกมายอมรับผ่านรายการ Meet The Press ทางสื่อสหรัฐฯ MSNBC ว่า “ศักยภาพอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธของโครงการพัฒนาอาวุธเกาหลีเหนือ ถือเป็นภัยร้ายแรง” และทางอเมริกาเตรียมพร้อมที่จะยิงตกขีปนาวุธเปียงยางที่ถูกทดสอบ
โดยแอชตัน คาร์เตอร์กล่าวในรายการว่า “ทางอเมริกาทำได้เพียงแต่ยิงมันให้ตก หากพบว่าขีปนาวุธนี้เป็นภัยคุกคามโดยมีทิศทางการบินมุ่งหน้ามายังดินแดนสหรัฐฯ หรือประเทศพันธมิตรและเพื่อนสนิทของอเมริกา”
รอยเตอร์รายงานว่า ก่อนหน้านี้ในวันพฤหัสบดี (5) ทางสหรัฐฯ ได้ออกมาให้ความเห็นถึง การพัฒนาโครงการอาวุธเปียงยางว่า “มีความก้าวหน้าอย่างน่าเป็นห่วง” หลังจากที่มีการทดสอบล่าสุดเกิดขึ้นในปีที่ผ่านมา
ด้านผู้เชี่ยวชาญได้ให้ความเห็นกับรอยเตอร์ว่า ดูเหมือนทางเกาหลีเหนือได้ทำการทดสอบระบบเครื่องยนต์ของขีปนาวุธและระบบฉนวนกันความร้อน(heat shields) สำหรับระบบขีปนาวุธพิสัยข้ามทวีป ICBM ในขณะที่เดินหน้าไปพร้อมกับการพัฒนาระบบเทคโนโลยีนำวิถีจรวดมิสไซล์หลังจากกลับเข้าไปสู่ชั้นบรรยากาศเมื่อถูกปล่อยออกไป
แต่อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญกล่าวต่อว่า ถึงแม้ว่าขีปนาวุธพิสัยข้ามทวีป ICBM ของเกาหลีเหนือใกล้ที่จะถูกทดสอบ แต่ทางผู้เชี่ยวชาญยังเชื่อว่า เปียงยางอาจต้องใช้เวลาหลายปีในการทำให้ระบบเสถียรและสมบูรณ์
รอยเตอร์รายงานอีกว่า และเมื่อใดก็ตามที่ขีปนาวุธ ICBM พัฒนาสมบูรณ์แล้ว เชื่อว่าขีปนาวุธของเปียงยางนี้จะเป็นอันตรายต่อสหรัฐฯอย่างแน่นอน ที่ตั้งอยู่ห่างจากเกาหลีเหนือออกไป 5,500 ไมล์ ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ขีปนาวุธพิสัยไกล ICBM มีพิสัยทำการอย่างต่ำที่ 3,400 ไมล์ แต่ทว่ารอยเตอร์ชี้ว่า ในบางระบบได้ถูกออกแบบพัฒนาให้สามารถทำการที่พิกัด 6,200 ไมล์ หรืออาจได้ไกลกว่านั้น
ด้านเจออง จูน-ฮี (Jeong Joon-hee) โฆษกกระทรวงรวมชาติเกาหลี แถลงว่า ในขณะนี้ยังไม่มีข้อบ่งชี้ว่า เปียงยางจะเริ่มเตรียมพร้อมทำการทดสอบ แต่มุน ซาง-กยุน (Moon Sang-gyun) โฆษกกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ได้ออกมาโจมตีแถลงการณ์ล่าสุดวันอาทิตย์ (8) ของเปียงยางว่า เป็นการประกาศที่ออกมาเพื่อยั่วยุโดยเฉพาะ และในการแถลงข่าวสรุปประจำวันของกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ มุนประกาศว่า เปียงยางต้องเผชิญหน้ากับการคว่ำบาตรที่หนักหน่วงมากขึ้นหากทำการทดสอบจรวดขีปนาวุธพิสัยไกล ICBM จริง
ในขณะเดียวกัน ด้านทำเนียบขาวเมื่อได้ถูกถามจากนักข่าวถึงภัยคุกคามจากจรวดขีปนาวุธเกาหลีเหนือ ทางทำเนียบขาวได้อ้างไปถึงคำตอบที่ได้ให้ไว้ในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย จอร์จ เอิร์นเนสต์ (Josh Earnest) ประกาศว่า ทางกองทัพสหรัฐฯ เชื่อมั่นว่าจะสามารถปกป้องอเมริกาจากภัยคุกคามนี้ได้