เอเจนซีส์ - ทางการเม็กซิโกเผยผู้ต้องสงสัยลอบยิงเจ้าหน้าที่สถานกงสุลสหรัฐฯ ในเมืองกวาดาลาฮารา (Guadalajara) เป็นชาวอเมริกัน ซึ่งจะถูกเนรเทศกลับไปดำเนินคดีในสหรัฐฯ
หลังมีประกาศจับกุมผู้ต้องสงสัยแค่ไม่กี่ชั่วโมง สำนักงานอัยการสูงสุดเม็กซิโกและกระทรวงการต่างประเทศก็ได้มีถ้อยแถลงร่วมว่า มือปืนรายนี้ได้ก่ออาชญากรรมอัน “เลวทรามและขี้ขลาดตาขาว” และจะต้องถูกส่งตัวกลับไปดำเนินคดีในสหรัฐฯ
ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นมือปืนซึ่งสวมวิกสีดำ และเครื่องแบบบุรุษพยาบาลสีฟ้า ชักปืนขึ้นมายิงใส่เจ้าหน้าที่สถานกงสุลอเมริกัน ซึ่งขับรถเข้ามายังลานจอดของศูนย์การค้าในเมืองใหญ่อันดับ 2 ของเม็กซิโกเมื่อวันศุกร์ (6 ม.ค.)
เจ้าหน้าที่ยังไม่เปิดเผยชื่อผู้ต้องสงสัยและเหยื่อที่ถูกยิง และยังไม่ทราบแรงจูงใจในการก่อเหตุ
คำแถลงร่วมของสำนักงานอัยการสูงสุดและกระทรวงการต่างประเทศเม็กซิโกระบุด้วยว่า ตำรวจได้ประสานกับเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) และสถานทูตสหรัฐฯ จนสามารถรวบตัวมือปืนรายนี้ได้ ทว่าไม่ขอเปิดเผยวันเวลาและขั้นตอนการจับกุม ส่วนเหยื่อที่ถูกยิงนั้นยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลด้วยอาการคงที่
สำนักข่าวรอยเตอร์อ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า เจ้าหน้าที่สถานกงสุลถูกยิงเข้าที่หน้าอก
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เผยกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า ผู้ที่ถูกยิงเป็นรองกงสุลซึ่งประจำการอยู่ที่เมืองกวาดาลาฮารา ขณะที่ทางการเม็กซิโกระบุว่า เขามีหน้าที่สัมภาษณ์ผู้ที่ยื่นคำร้องขอวีซ่า
ด้านเจ้าหน้าที่จากสำนักงานอัยการแห่งรัฐฮาลิสโกเผยว่า ผู้ต้องสงสัยเป็นชาวอเมริกันวัย 31 ปี และมีเชื้อสายอินเดียน
ก่อนหน้านี้ เอฟบีไอได้ประกาศตั้งรางวัลนำจับมือปืนรายนี้เป็นเงินถึง 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ
สถานกงสุลสหรัฐฯ ในเมืองกวาดาลาฮาราได้เผยภาพจากกล้องวงจรปิดซึ่งแสดงให้เห็นว่า มือปืนยืนรออยู่ด้านนอกลานจอดรถ เมื่อรถยนต์สีดำของรองกงสุลแล่นเข้ามาจอดตรงไม้กั้นทางออก เขาก็ยกปืนขึ้นมายิงใส่ทันที
จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวขอบคุณรัฐบาลเม็กซิโกที่สามารถ “จับกุมผู้ต้องสงสัยซึ่งโจมตีเจ้าหน้าที่ทูตของเราอย่างอุกอาจได้อย่างรวดเร็ว”
“สวัสดิภาพและความปลอดภัยของพลเมืองสหรัฐฯ และเจ้าหน้าที่ทูตในต่างประเทศ คือสิ่งที่เราให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ” เคร์รี แถลง พร้อมฝากคำอวยพรถึงรองกงสุลที่ถูกยิงให้ “หายดีโดยเร็ว”
เหตุลอบยิงรองกงสุลทำให้สถานทูตสหรัฐฯ ออกประกาศเตือนเมื่อวันเสาร์ (7) ให้ชาวอเมริกันในเมืองกวาดาลาฮารา “หลีกเลี่ยงการเดินทางออกนอกบ้านและสถานที่ทำงาน เว้นแต่จะมีธุระจำเป็นจริงๆ”