มือกราดยิงสนามบินเคยมอบตัวให้ยึดปืน แต่ทางการเพิ่งคืนอาวุธเมื่อเดือนที่แล้ว

รอยเตอร์ - ตำรวจอะแลสกาเคยยึดปืนจากชายผู้กราดยิงในสนามบินฟอร์ต ลอเดอร์เดล เมื่อวันศุกร์ (6) ที่ทำให้มีคนตาย 5 ราย แต่ส่งคืนให้เมื่อเดือนที่แล้วเนื่องจากผลการประเมินไม่พบว่ามีอาการป่วยทางจิต ด้านพี่ชายผู้ต้องสงสัยตั้งข้อสังเกตศูนย์สุขภาพจิตรับตัวไว้เพียง 4 วัน ทั้งที่น้องชายบ่นว่าได้ยินเสียงคนอยู่ในหัวตลอดเวลา

เอสเตบาน ซานติเอโก อดีตทหารผ่านศึกวัย 26 ปีที่เคยประจำการณ์ในอิรัก พบประวัติมีพฤติกรรมไม่อยู่กับร่องกับรอย และเจ้าหน้าที่สอบสวนกำลังตรวจสอบว่าอาการป่วยทางจิตคือต้นเหตุของการกราดยิงครั้งล่าสุดในอเมริกาหรือไม่ โดยเจ้าตัวให้การกับเจ้าหน้าที่ว่าวางแผนการโจมตีและซื้อตั๋วเที่ยวเดียวไปฟลอริดา

กระทรวงยุติธรรมแถลงเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (7) ว่าอัยการของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ตั้งข้อหาซานติเอโกก่อความรุนแรงในสนามบิน ทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส ใช้อาวุธปืนและทำให้มีผู้เสียชีวิต ซึ่งอาจมีโทษสูงสุดคือประหารชีวิต โดยผู้ต้องหาจะไปขึ้นศาลที่ฟอร์ต ลอเดอร์เดลในวันจันทร์ (9)

ทั้งนี้ มีผู้เสียชีวิตในเหตุกราดยิงครั้งนี้ 5 ราย กับผู้ได้รับบาดเจ็บ 6 คน ที่ถูกส่งเข้าแผนกผู้ป่วยวิกฤต นอกจากนั้นยังมีประชาชนอีกนับสิบคนถูกนำส่งโรงพยาบาลจากอาการฟกช้ำและกระดูกหัก ระหว่างที่พยายามหนีออกจากบริเวณรับกระเป๋าเดินทางและสัมภาระที่มีผู้คนแออัด

มาร์ติน ริตซ์แมน เจ้าหน้าที่พิเศษของสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) จากสำนักงานแองเคอเรจแถลงว่า ซานติเอโกเดินทางไปยังสำนักงานเมื่อเดือนพฤศจิกายนและแจ้งว่า หน่วยงานข่าวกรองของสหรัฐฯ ครอบงำความคิดของเขา เขายังเคยไปมอบตัวที่สำนักงานตำรวจท้องถิ่นและถูกนำตัวเข้ารับการประเมินสภาพจิตในโรงพยาบาล

คริส ทอลลีย์ ผู้บัญชาการตำรวจแองเคอเรจแถลงสำทับว่า ซานติเอโกเชื่อว่าความคิดของเขาได้รับอิทธิพลจากกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) อย่างไรก็ตาม ตำรวจคืนปืนให้เขาเมื่อต้นเดือนที่แล้ว หลังจากไม่พบว่าเขามีอาการทางจิต ทอลลีย์ระบุด้วยว่า ยังไม่มีความชัดเจนว่าปืนที่คืนให้เป็นกระบอกเดียวกับที่ใช้ก่อเหตุเมื่อวันศุกร์หรือไม่

ทางด้านเจ้าหน้าที่สอบสวนเผยว่า ยังไม่ตัดความเป็นไปได้ในเรื่องที่ผู้ต้องสงสัยมีแรงจูงใจในการก่อการร้าย และขณะนี้กำลังตรวจสอบประวัติการเดินทางของผู้ต้องสงสัย

รายงานจากเจ้าหน้าที่ระบุว่า ซานติเอโกเดินทางจากอะแลสกาไปยังฟอร์ต ลอเดอร์เดล และนำปืนพกกึ่งอัตโนมัติขนาด 9 มม. ยี่ห้อวอลเทอร์ ออกจากกระเป๋าเดินทางที่ผ่านการตรวจเช็กก่อนโหลดขึ้นเครื่อง เพื่อบรรจุกระสุนในห้องน้ำและออกมากราดยิงไม่เลือกหน้า

จากคำฟ้องคดีอาญา ซานติเอโกยิงปืน 10-15 นัดโดยเล็งที่ศีรษะเหยื่อ ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า มือปืนที่สวมเสื้อยืดลาย “สตาร์วอร์ส” เขาไม่ได้พูดอะไรขณะเดินกราดยิง และยอมมอบตัวต่อตำรวจหลังจากกระสุนหมด

เจ้าพนักงานฝ่ายปกครองเทศมณฑลโบรวาร์ดเผยว่า เจ้าหน้าที่ใช้เวลา 70-80 วินาทีในการติดต่อกับผู้ต้องสงสัยหลังจากเริ่มกราดยิง และเมื่อเผชิญหน้ากัน ผู้ต้องสงสัยยอมทิ้งปืนและมอบตัวโดยดี

ซานติเอโกนั้นเคยเข้าร่วมกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิของเปอร์โตริโกและอะแลสการะหว่างปี 2007-2016 ซึ่งรวมถึงการประจำการณ์ในอิรักจากปี 2010-2011

ซานติเอโกในตำแหน่งพลทหารชั้นหนึ่งและเป็นสมาชิกหน่วยวิศวกรรมการทหาร เคยได้รับเหรียญตราจำนวนมากก่อนถูกปลดประจำการณ์เป็นกำลังพลสำรองพร้อมรบเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว

ป้าของซานติเอโกเล่าว่า เขาเปลี่ยนเป็นคนละคนหลังจากเข้าประจำการณ์เป็นทหาร ขณะที่พี่ชายตั้งข้อสงสัยว่า เหตุใดศูนย์สุขภาพจิตจึงปล่อยเขาออกมาหลังจากรับตัวไว้เพียง 4 วัน ทั้งที่ซานติเอโกบอกว่าเขาได้ยินเสียงคนพูดตลอดเวลา

เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นกรณีการสังหารหมู่ครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้นในอเมริกา ซึ่งบางครั้งได้แรงบันดาลใจจากกลุ่มอิสลามหัวรุนแรง ซึ่งบางครั้งดำเนินการโดยบุคคลเพียงคนเดียวหรือผู้มีอาการทางจิต

เดือนมิถุนายนปีที่แล้ว ฟลอริดากลายเป็นฉากกราดยิงนองเลือดที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของอเมริกา เมื่อมือปืนคนหนึ่งที่ได้แรงบันดาลใจจากไอเอส กราดยิงไนต์คลับเกย์ “พัลส์” ในออร์แลนโด ทำให้มีผู้เสียชีวิต 49 ราย และบาดเจ็บ 53 คน