แค่ออกไปก่อน! “ทรัมป์” ยืนยันจะบีบให้เม็กซิโกจ่ายเงินค่าสร้าง “กำแพง” กั้นพรมแดนคืนให้สหรัฐฯ

รอยเตอร์ - โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยืนยันวานนี้ (6 ม.ค.) ว่ารัฐบาลเม็กซิโกจะ “จ่ายเงินคืน” ให้สหรัฐฯ เป็นค่าสร้างกำแพงกั้นพรมแดน 2 ประเทศ หลังจากมีกระแสข่าวว่าทีมงานเปลี่ยนผ่านของ ทรัมป์ กำลังเตรียมเสนอให้สภาคองเกรสอนุมัติงบประมาณโครงการดังกล่าว

ทรัมป์ ได้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สว่า ตนจะขอให้รัฐบาลจังโก้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนนี้ผ่านการเจรจาแก้ไขความตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (นาฟตา) ซึ่งมีรัฐภาคีอยู่ 3 ชาติ ได้แก่ สหรัฐฯ เม็กซิโก และแคนาดา

ฌอน สเปนเซอร์ โฆษกของทรัมป์ ก็ออกมาแถลงเมื่อวานนี้ (6) ว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ชุดใหม่จำเป็นต้องได้รับงบสนับสนุนจากสภาคองเกรสเพื่อนำไปสร้างกำแพง และ ทรัมป์ ก็ได้พูดไว้ตั้งแต่เดือน ต.ค.ปีที่แล้วว่าจะบีบให้เม็กซิโก “จ่ายคืน” ทีหลัง

“กระบวนการเบิกจ่ายงบประมาณและวิธีการจ่ายเงิน ไม่น่าจะเอามาเป็นประเด็นเลย” สเปนเซอร์ บอกกับสื่อมวลชน พร้อมยืนยันกระแสข่าวที่มีมาก่อนหน้านี้

คำสัญญาของทรัมป์ ที่ว่าจะสร้างกำแพงกั้นพรมแดนสหรัฐฯ กับเม็กซิโกเพื่อสกัดกั้นผู้อพยพผิดกฎหมาย และจะบังคับให้ทางการจังโก้ต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด ถือเป็นหนึ่งในนโยบายที่ช่วยให้ ทรัมป์ กวาดคะแนนนิยมในศึกเลือกตั้ง ทว่าเจ้าหน้าที่เม็กซิโกได้ออกมาปฏิเสธทันควันว่าพวกเขาไม่มีวันยอมจ่ายแน่ๆ

ทั้งนี้ มีความเป็นไปได้สูงที่สภาคองเกรสจะไม่อนุมัติงบประมาณสร้างกำแพง ขณะที่สมาชิกพรรครีพับลิกันบางคนก็แสดงความเป็นห่วงเรื่องวงเงินที่สูงลิ่ว และไม่มั่นใจว่านี่คือวิธีที่ดีที่สุดในการยุติปัญหาคนหลบหนีเข้าเมือง

กลุ่มอนุรักษนิยมเรียกร้องให้ภาครัฐยกเลิกสวัสดิการ และห้ามการจ้างงานผู้อพยพผิดกฎหมาย เพราะเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นที่คนเหล่านี้ลักลอบเดินทางเข้ามายังสหรัฐฯ

ลุค เมสเซอร์ ส.ส.รีพับลิกัน ให้สัมภาษณ์วานนี้ (6) ว่า ตนได้เสนอร่างกฎหมายบีบให้เม็กซิโกต้องจ่ายค่าสร้างกำแพง โดยจะตัดสิทธิ์ผู้อพยพผิดกฎหมายในการขอเคลมผลประโยชน์ทางภาษีสำหรับคนมีบุตร (child tax credit) ซึ่งแต่ละปีสหรัฐฯ ต้องสูญเสียรายได้ในส่วนนี้ไปถึง 4,200 ล้านดอลลาร์

“ถ้าเราอุดช่องโหว่นี้สัก 2 ปี ก็จะสามารถนำเงินไปจ่ายในสิ่งที่แพงกว่านี้ได้” เมสเซอร์ ระบุ โดยหมายถึงงบสร้างกำแพงที่เคยมีการประมาณเอาไว้คร่าวๆ 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นและสื่ออีกหลายสำนักรายงานวานนี้ (6) ว่า ทีมงานของ ทรัมป์ ได้ส่งสัญญาณไปยังสมาชิกพรรครีพับลิกันว่าเขาต้องการให้คองเกรสเบิกจ่ายงบอุดหนุนโครงการนี้ภายในเดือน เม.ย.

อย่างไรก็ดี ทรัมป์ได้ทวีตข้อความตำหนิสื่อที่ไม่ระบุให้ชัดเจนว่า เม็กซิโกจะต้องจ่ายเงินก้อนนี้คืนให้แก่สหรัฐฯ

เอกสารว่าด้วยการ “จ่ายค่ากำแพง” (Pay for the Wall) ที่ทีมงาน ทรัมป์ เผยแพร่เมื่อต้นปี 2016 เสนอให้มีการสกัดเงินที่ผู้อพยพเม็กซิโกส่งกลับบ้านเกิด รวมถึงแก้ไขกฎหมาย Patriot Act ที่เริ่มบังคับใช้หลังเหตุวินาศกรรม 9/11 โดยกำหนดให้การโอนเงินผ่านระบบออนไลน์ (wire transfer) สามารถถูกอายัดได้ด้วย

“มันเป็นการตัดสินใจที่ง่ายมากสำหรับเม็กซิโก ยอมจ่ายครั้งเดียว 5,000-10,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อให้เงินอีก 24,000 ล้านดอลลาร์ (ที่ผู้อพยพเม็กซิโกส่งกลับบ้าน) ยังไหลเข้าประเทศได้ทุกๆ ปี” เอกสารดังกล่าวระบุ

 “เรามีอำนาจต่อรองอยู่ ยังไงเม็กซิโกก็ต้องยอม”

สำนักงานของประธานาธิบดีเอ็นริเก เปนญา เนียโต แห่งเม็กซิโก ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นต่อคำพูดของ ทรัมป์ เมื่อวานนี้ (6) ทว่าผู้นำจังโก้เคยประกาศไว้ตั้งแต่เดือน ส.ค.ปีที่แล้วว่าจะไม่ยอมจ่ายค่าสร้างกำแพงเด็ดขาด

ส.ส.มาร์ธา แม็กแซลลีย์ ประธานอนุกรรมการความมั่นคงพรมแดนและทางทะเล ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ว่า กฎหมาย Secure Fence Act ปี 2006 เป็นช่องทางที่ ทรัมป์ จะใช้อำนาจสั่งขยายรั้วกั้นพรมแดน หรือแม้แต่สร้างกำแพงก็ได้

สำนักงานศุลกากรและป้องกันชายแดนสหรัฐฯ (US Customs and Border Protection) ได้ประเมินค่าใช้จ่ายเบื้องต้นในการขยายแนวรั้วเอาไว้ราวๆ 11,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่การสร้างกำแพงย่อมจะต้องมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่านี้

หลังชนะศึกเลือกตั้งเมื่อวันที่ 8 พ.ย. ทรัมป์ได้ออกมาผ่อนจุดยืน โดยระบุว่าพรมแดนบางจุดอาจจะมีแค่ “รั้ว” กั้นก็ได้