เอพี – การประท้วงและการปล้นสะดมจากความไม่พอใจในราคาน้ำมันที่ถูกปรับขึ้น 20% ตั้งแต่ช่วงปีใหม่ ทำให้ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตแล้ว 4 รายในเม็กซิโก รวมไปถึงร้านค้าอีกไม่ต่ำกว่า 300 แห่งถูกปล้นสะดม และประชาชนชาวเม็กซิกันกว่า 700 คนถูกจับกุมล่าสุด แต่ประธานาธิบดีเม็กซิโก เอ็นริเก เปญา นิเอโต (Enrique Pena Nieto) แถลงการณ์ด่วนเมื่อวานนี้(5 ม.ค)จะยังคงเดินหน้าต่อ ยกเลิกการควบคุมราคาเชื้อเพลิง ปล่อยลอยตัวตามกลไกตลาดโลก
เอพีรายงานวันนี้(6 ม.ค)ว่า เม็กซิโกยังตกอยู่ในสภาวะจลาจลอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดอัยการรัฐเวรากรูซ(Veracuz)ออกแถลงการณ์ช่วงค่ำวันพฤหัสบดี(5 ม.ค)ประกาศว่า พบชาย 2 คนเสียชีวิตท่ามกลางการเข้าปล้นสะดมร้านค้าเกิดขึ้นภายในรัฐเวรากรูซเมืองท่าแห่งนี้ แต่ทว่ามาจนถึงเวลานี้ ทางตำรวจยังไม่สามารถระบุตัวผู้ลงมือสังหารได้
โดยก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่เม็กซิกันเปิดเผยว่า มีประชาชน 1 รายบนถนนสายหนึ่งต้องเสียชีวิตจากคนขับรถที่ขับพุ่งเข้าชนหลังพยายามหลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจในรัฐเวรากรูซ
และพบว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกสังหาร 1 นายในรัฐเม็กซิโก หลังจากตำรวจนายนี้พยายามเข้าหยุดการปล้นบริเวณสถานีจ่ายน้ำมันแห่งหนึ่ง เอพีชี้
ซึ่งการประกาศขึ้นราคาน้ำมัน 20% ที่ถูกใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค ที่ผ่านมาเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามรัฐบาลเม็กซิกันของประธานาธิบดีเม็กซิโก เอ็นริเก เปญา นิเอโต (Enrique Pena Nieto)ต้องการปล่อยให้ภาคอุตสาหกรรมน้ำมันเม็กซิกันลอยตัวเป็นไปตามกลไกตลาดโลก
และถึงแม้จะรับรู้ต่อความไม่พอใจจากประชาชนชาวเม็กซิกันทั่วประเทศ แต่ทว่าเมื่อวานนี้(5 ม.ค)เปญา นิเอโต ประกาศผ่านหน้าจอโทรทัศน์ จะเดินหน้าลุยต่อไปในการยกเลิกการควบคุมราคาเชื้อเพลิงภายในประเทศ ที่พร้อมไปกับการยกเลิกนโยบายสนับสนุนด้านเชื้อเพลิง และปล่อยให้ราคาน้ำมันเป็นไปตามกลไกตลาด
ในแถลงการณ์ของผู้นำเม็กซิโก เปญา นิเอโต ประกาศว่า “ผมรู้ว่าการต้องปล่อยให้ราคาน้ำมันถูกปรับขึ้นไปตามราคาตลาดโลกเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ยากลำบาก แต่ในฐานะประธานาธิบดีเม็กซิโก หน้าที่ผมคือการต้องตัดสินใจปัญหาที่ยากในเวลานี้ เพื่อหลีกเลี่ยงต่อความเลวร้ายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต”
ผู้นำเม็กซิกันยังประกาศผ่านแถลงการณ์ทางโทรทัศน์ต่อว่า “เพราะการยังคงราคาพลังงานให้ต่ำแบบจอมปลอมต่อไปนั้น เป็นเสมือนการนำเงินออกไปจากกระเป๋าเงินของชาวเม็กซิกันที่ยากไร้ ป้อนให้กับบรรดาเศรษฐีผู้มั่งมี”
และในแถลงการณ์เมื่อคืนนี้(5 ม.ค)ของเปญา นิเอโตยังรวมไปถึง ความท้าทายของเม็กซิโกในปี 2017 ในการที่ต้องเริ่มสร้างความสัมพันธ์อันดีกับรัฐบาลสหรัฐฯชุดใหม่ของว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ทางผู้นำเม็กซิโกชี้ว่า จะกระทำบนพื้นฐานศักดิ์ศรีของความเป็นเม็กซิกันที่ไม่สามารถจะทำลายได้
เอพีรายงานว่า ดูเหมือนในคืนวันพฤหัสบดี(5 ม.ค) ปัญหาการปล้นสะดมร้านค้าเริ่มเบาบางลง แต่ทว่าพบว่า บรรดาผู้ประท้วงที่เกรี้ยวกราดต่างรวมตัวปิดการจราจรเส้นถนนไฮเวย์ไม่ต่ำกว่า 24 แห่ง และมีรายงานว่ามีผู้ประท้วงยังทำการปิดทางเข้าออกบริเวณปั้มน้ำมัน และพบผู้ประท้วงอีกบางส่วนบุกเข้าไปยังร้านค้าเพื่อหยิบฉวยสินค้าในร้านออกไป
ด้านตำรวจกรุงเม็กซิโก ซิตีเปิดเผยว่า ได้ทำการจับกุมไปแล้ว 76 คนจากคดีปล้นสะดมร้านค้า 29 แห่ง
ในขณะที่ผู้ว่าการรัฐเวรากรูซ มิเกล แองเจล ยูเนส ลินาเร (Miguel Ángel Yunes Linare) ได้เดินทางไปพบกับเหล่าผู้ประท้วงในรัฐ พร้อมประกาศเตือนไม่ให้ฝูงชนก่อเหตุปล้นสะดมร้านค้า ก่อนที่จะเสนอคูปองมูลค่า 500 เปโซ หรือ 23 ดอลลาร์ตอบแทน
แต่ทว่าในภายหลังยูเนสได้กล่าวแก้ตัวว่า เงินที่เสนอให้นั้นไม่ใช่สินบนสำหรับการไม่เข้าปล้นร้านค้า แต่เป็นน้ำใจเล็กน้อยมอบให้กับคุณแม่ที่เลี้ยงลูกเพียงลำพังสำหรับของขวัญวันเทศกาล
โดยเอพีระบุว่า การปล้นสะดมเกิดขึ้นก่อนวันเทศกาลในวันศุกร์(6 ม.ค)ของเม็กซิโกที่เรียกว่า วัน Epiphany หรือ วันเทศกาลฉลองการเสด็จมาของพระเยซูคริสต์ ตรงกับวันที่ 6 มกราคมของทุกปี
และในส่วนของรัฐเม็กซิโกที่มีพรมแดนติดกรุงเม็กซิโก ซิตี พบว่า มีการจับกุมถึง 529 รายที่ถูกกล่าวหาว่า ได้เข้าปล้นสะดมร้านค้า นอกจากนี้ยังพบว่ามีตำรวจเม็กซิกัน 4 นายถูกไล่ออกจากงานทันที และถูกควบคุมตัว หลังโทรทัศน์วงจรปิดจับภาพนายตำรวจเหล่านี้ได้เข้าปล้นร้านค้า และหยิบสินค้าที่อยู่ภายในร้านออกมาก่อนนำไปเก็บไว้ภายในรถสายตรวจ เอพีรายงาน
ซึ่งภาพจากกล้องทีวีวงจรปิดในวันพุธ(5 ม.ค)แสดงให้เห็นฝูงชนออกมาจากร้านค้าเหล่านี้พร้อมกับโทรทัศน์จอแบนในมือ และสิ่งของอื่นๆ
โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเม็กซิกันอ้างว่า กระแสการปล้นสะดมเกิดมาจากโซเชียลมีเดีย
