xs
xsm
sm
md
lg

ตุรกีจับ “ชาวอุยกูร์” หลายรายพัวพันเหตุกราดยิงไนต์คลับตาย 39 ระบุตัวมือปืนก็น่าจะเป็น “อุยกูร์” ด้วย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

<i>ภาพที่สื่อมวลชนตุรกีนำออกเผยแพร่ โดยระบุว่าเป็นภาพผู้ต้องสงสัยก่อเหตุกราดยิงในไนต์คลับแห่งหนึ่งของนครอิสตันบูลเมื่อวันปีใหม่ สังหารผู้คนไป 39 คน   สื่อเหล่านี้กล่าวว่าได้ภาพนี้จากตำรวจ ทว่าทางการตำรวจตุรกีไม่ได้มีการแถลงเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ </i>
บีบีซีนิวส์/เอเจนซีส์ - ตุรกีจับกุมชาวชาติพันธุ์อุยกูร์ที่เดินทางมาจากซินเจียง (ซินเกียง) ในประเทศจีน เอาไว้จำนวนหนึ่ง เนื่องจากต้องสงสัยพัวพันกับคนร้ายซึ่งก่อเหตุกราดยิงสังหารผู้คน 39 คนในไนต์คลับแห่งหนึ่งที่เมืองอิสตันบูลเมื่อวันปีใหม่ โดยที่คนร้ายผู้นี้ก็น่าจะเป็นชาวอุยกูร์เช่นเดียวกัน ทั้งนี้ตามรายงานของสำนักข่าวทางการตุรกีในวันพฤหัสบดี (5 ม.ค.)

สำนักข่าวอนาโดลูของทางการตุรกีรายงานว่า พวกที่ถูกควบคุมตัวเหล่านี้ซึ่งมีสายสัมพันธ์กับคนร้ายก่อเหตุโจมตีไนต์คลับนั้น เชื่อกันว่าเป็นผู้ที่เดินทางมาจากซินเจียง ซึ่งเป็นเขตปกครองตนเองระดับมณฑล ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน

ขณะที่รองนายกรัฐมนตรี เวย์ซี คายนัค ก็กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กำลังติดตามใกล้ถึงตัวมือปืนผู้นี้แล้ว พร้อมกับบอกว่าเป็นไปได้ที่คนร้ายผู้นี้ก็เป็นชาวชาติพันธุ์อุยกูร์เช่นเดียวกัน

เจ้าหน้าที่รับผิดชอบฝ่ายต่างๆ รายงานว่า มีการเพิ่มมาตรการรักษาความมั่นคงตามแนวชายแดนทางบกและสนามบินต่างๆ ของตุรกี เพื่อป้องกันไม่ให้มือปืนผู้นี้หลบหนีออกนอกประเทศ

สื่อมวลชนตุรกียังได้เผยแพร่ภาพของผู้ต้องสงสัย โดยระบุว่าเป็นภาพที่ได้รับแจกจ่ายจากตำรวจ ทว่าทางการตำรวจเองกลับไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ อย่างเป็นทางการ

ด้านรัฐมนตรีต่างประเทศตุรกีแถลงเอาไว้ก่อนหน้านี้ว่า ทางเจ้าหน้าที่รับผิดชอบสามารถระบุตัวผู้ก่อเหตุรายนี้ได้แล้ว ทว่าเขาไม่ได้ให้รายละเอียดอะไรมากกว่านี้

รายงานของสำนักข่าวอนาโดลูระบุว่า กองกำลังปฏิบัติการพิเศษได้ออกกวาดจับผู้ต้องสงสัยในช่วงเช้ามืดวันพฤหัสบดี (8) ที่บริเวณอาคารพำนักอาศัยในเมืองเซลิมปาซา เมืองชายทะเลที่อยู่แถวชานนครอิสตันบูล หลังจากมีข่าวว่าตำรวจได้รับเบาะแสซึ่งชี้ว่ามีบุคคลที่เกี่ยวข้องกับผู้ก่อเหตุกราดยิงไนต์คลับอยู่ในบริเวณดังกล่าว

ในจำนวนผู้ที่ถูกรวบตัวคราวนี้ด้วยข้อหาสงสัยเป็นผู้ให้การช่วยเหลือและให้การสนับสนุนคนร้ายนั้น มีหลายคนเป็นชาวอุยกูร์ ทว่าไม่มีการยืนยันจำนวนที่แน่ชัด อนาโดลูรายงาน

อย่างไรก็ดี ข่าวบอกว่าผู้ถูกจับกุมไปแล้วเพราะต้องสงสัยว่าพัวพันเกี่ยวข้องกับการโจมตีไนต์คลับในอิสตันบูลนั้นมีอย่างน้อย 36 คน โดยจำนวนมากเป็นผู้ที่ถูกรวบตัวจากการปฏิบัติการก่อนหน้านี้ของตำรวจในเมืองอิซมีร์ เมืองใหญ่อันดับ 3 ของตุรกีซึ่งอยู่ทางภาคตะวันตกของประเทศ

หลายครอบครัวทีเดียวเพิ่งเดินทางไปที่อิซมีร์เมื่อเร็วๆ นี้ โดยมาจากเมืองคอนยา ซึ่งตั้งอยู่ทางภาคกลางของตุรกี และเป็นจุดที่กล่าวกันว่าผู้ต้องสงสัยเป็นมือปืนพำนักอยู่เป็นเวลาหลายสัปดาห์ก่อนก่อเหตุ

ในอีกด้านหนึ่ง รองนายกรัฐมนตรีคายนัคได้กล่าวกับ เอ ฮาเมอร์ ผู้จัดรายการโทรทัศน์ชาวตุรกีว่า ทางเจ้าหน้าที่ทราบแล้วว่าผู้ต้องสงสัยรายนี้ซ่อนตัวอยู่ที่ไหน เขาระบุด้วยว่าคนร้ายผู้นี้ “ได้รับการฝึกอบรมมาเป็นพิเศษ” ทว่าเขาไม่ได้ให้รายละเอียดมากกว่านี้

เขายืนยันว่ามือปืนผู้นี้กระทำการเพียงคนเดียว แต่น่าจะได้รับความช่วยเหลือจากคนที่อยู่ภายในไนต์คลับแห่งนั้น

ก่อนหน้านี้ กลุ่ม “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) ได้อ้างตัวเป็นผู้รับผิดชอบการโจมตีที่อิสตันบูลคราวนี้ โดยระบุว่าเป็นการตอบโต้การที่กองทัพตุรกีเข้าไปพัวพันอยู่ในสงครามกลางเมืองซีเรีย
<i>ชาวอุยกูร์ในเมืองอูรุมชี เมืองเอกของซินเจียง (ซินเกียง) </i>
สายสัมพันธ์ระหว่างตุรีกับชาวอุยกูร์ในซินเจียง

บีบีซีระบุว่าชาวอุยกูร์นั้นเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่พูดภาษาเตอร์กิก (Turkic) กลุ่มหนึ่ง พวกเขาส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม และพำนักอยู่ในเขตปกครองตนเองชนชาติอุยกูร์แห่งซินเจียงของจีน ภาษาของพวกเขานั้นมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับภาษาตุรกี และมีลูกหลานเชื้อสายชาวอุยกูร์จำนวนมากพอดูพำนักอาศัยอยู่ในตุรกีเวลานี้

ชาวอุยกูร์บางส่วนโอดครวญมาเป็นแรมปีแล้วว่าถูกทางการจีนข่มเหงรังแก ขณะที่เครือข่ายอัลกออิดะห์ก็ได้ต่อสายพัฒนาความเชื่อมโยงอย่างยาวนานกับกลุ่มนักรบญิฮาดชาวอุยกูร์ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนาม “พรรคอิสลามเตอร์กิสถาน” (Turkestan Islamic Party หรือ TIP) และเสนอให้พวกเขาไปรับการฝึกทหารในอัฟกานิสถาน

นักรบญิฮาดชาวอุยกูร์ดูเหมือนเข้าร่วมการสู้รบในซีเรียเป็นจำนวนค่อนข้างมากทีเดียว โดยมีทั้งพวกที่สู้รบเคียงข้างกลุ่ม จับฮัต ฟาเตห์ อัล-ชาม (Jabhat Fateh al-Sham เดิมกลุ่มนี้คือ อัล-นุสรา al-Nusra ที่เป็นสาขาในซีเรียของอัลกออิดะห์) และพวกที่อยู่กับ “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) ซึ่งปัจจุบันเป็นศัตรูของอัลกออิดะห์

พวกเขาปรากฏเรื่องราวอยู่ในงานโฆษณาชวนเชื่อของกลุ่มไอเอส และนิตยสาร “รูมิยะห์” (Rumiyah) ของไอเอสก็มีการตีพิมพ์เป็นภาษาอุยกูร์ด้วย นอกเหนือจากภาษาอังกฤษและภาษาอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง

เชื่อกันว่าชาวอุยกูร์เดินทางเข้าไปยังคีร์กีซสถาน โดยผ่านเทือกเขาซึ่งกั้นระหว่างคีร์กีซสถานกับซินเจียง หลังจากไปถึงที่นั่นได้แล้ว พวกเขาก็จะขึ้นเครื่องบินต่อไปยังตุรกี โดยใช้หนังสือเดินทางปลอมของคีร์กีซสถาน

กำลังโหลดความคิดเห็น