เอเอฟพี/เอเจนซีส์/เอพี – ประธานาธิบดีเม็กซิโก เอ็นริเก เปญา นิเอโต (Enrique Pena Nieto) ออกมาปลอบใจประชาชนชาวแดนจังโก้ หลังเกิดการประท้วงลามทั่วประเทศ และมีการปล้นสะดมร้านค้า เมื่อรัฐบาลเม็กซิกันตัดสินใจขึ้นราคาน้ำมันทีเดียว 20.1 % ที่เริ่มต้นใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค ที่ผ่านมา โดยพบว่าการปล้นสะดมยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในวันพุธ(4)ในขณะที่มีการจับกุมผู้ประท้วงครั้งใหญ่ร่วม 200 คน ผู้ประท้วงนักขับแดนจังโก้พร้อมใจปิดถนนไฮเวย์เส้นหลักวิ่งเข้ากรุงเม็กซิโก ซิตี ท่ามกลางความโกลาหลหน้าปั้มน้ำมัน
เอเอฟพีรายงานวันนี้(5 ม.ค)ว่า ความโกลาหลจากการขึ้นราคาน้ำมันในเม็กซิโกยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในวันพุธ(4 ม.ค) โดยพบว่ายังคงมีการปล้นสะดมร้านค้าอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงการปิดกั้นบริเวณปั้มน้ำมัน การปิดถนนไฮเวย์เส้นสำคัญ รวมไปถึงประท้วงทั่วประเทศนับตั้งแต่รัฐบาลเม็กซิกันของประธานาธิบดี เอ็นริเก เปญา นิเอโต (Enrique Pena Nieto)ประกาศขึ้นราคาน้ำมันอีก 20.1 % ตั้งแต่วันที่ 1 ม.คที่ผ่านมา
โดยสื่อเดอะการ์เดียน อังกฤษรายงานก่อนหน้านี้ในวันพุธ(4 ม.ค)ว่า ความโกรธแค้นของประชาชนชาวเม็กซิโกทำให้นักขับ ซึ่งรวมไปถึง คนขับแท็กซี คนขับรถบรรทุก ต่างพร้อมใจปิดถนนไฮเวย์เส้นที่จะมุ่งหน้าเข้าไปยังกรุงเม็กซิโก ซิตี
ทั้งนี้บริษัทพลังงานแห่งชาติเม็กซิโก เปเม็กซ์(Pemex) ได้ออกมาเตือนในวันอังคาร(3 ม.ค)ว่า การปิดกั้นถนนไฮเวย์เส้นสำคัญจะทำให้เกิดสถานการณ์ที่ยุ่งยากเกิดขึ้นอย่างน้อยใน 3 รัฐต่อการขนส่งน้ำมัน โดยเอเอฟพีรายงานว่า รัฐที่ได้รับผลกระทบคือรัฐชีวาวา (Chihuahua ) รัฐดูรังโก (Durango) และรัฐมอเรโลส (Morelos) ในขณะที่การประท้วงบริเวณชานเมืองกรุงเม็กซิโก ซิตี ได้เปลี่ยนเป็นความรุนแรง เมื่อผู้ประท้วงได้เข้าปล้นสะดมห้างสรรพสินค้าอย่างน้อย 2 แห่ง
โดยจากการรายงานของเดอะการ์เดียนพบว่า ประชาชนชาวเม็กซิกันที่เดินมาพร้อมกับถังเปล่า หรือขับรถต่างต่อแถวบริเวณปั้มน้ำมันในเมือง Allende รัฐเวรากรูซ(Veracuz) ทางใต้ของเม็กซิโก เพื่อนำน้ำมันกลับบ้านโดยที่ไม่ยอมชำระค่าน้ำมันในวันอังคาร(3 ม.ค) หลังจากมีการประกาศขึ้นราคาเกิดขึ้น
และการเข้าปล้นสะดมน้ำมันของบรรดาผู้ประท้วงทำให้บริษัท G500 ที่มีสถานีน้ำมันถึง 1,800 แห่งทั่วประเทศได้ออกมาขู่ว่า สถานีน้ำมันเหล่านี้อาจต้องหยุดให้บริการลงชั่วคราวเนื่องจากปัญหาด้านความปลอดภัย
โดยหนึ่งในประชาชนชาวเม็กซิกัน มานูเอล โลเปซ(Manuel López)ช่างเครื่องกลวัย 24 ปีได้เปิดใจให้สัมภาษณ์กับเดอะการ์เดียนบริเวณหน้าปั้มน้ำมันแห่งหนึ่ง โดยยอมรับว่า เขาเดินทางมาที่สถานีน้ำมันแห่งนี้ทั้งๆที่ตัวเองไม่มีรถแล้ว โดยโลเปซจำเป็นต้องขายรถไปเนื่องจากสภาพเศรษฐกิจของเม็กซิโกตกต่ำ
ในการให้สัมภาษณ์ของโลเปซ เขากล่าวว่า “เป็นปัญหาตกต่ำทางเศรษฐกิจ” และกล่าวต่อว่า “ในสภาวะที่เงินเดือนไม่ดี แต่ยังต้องแบกรับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นอีก มันจะยิ่งทำให้อัตราเงินเฟ้อกระทบต่อทุกสิ่งที่พวกเราต้องกินต้องใช้ในแต่ละวัน” และยังทิ้งท้ายว่า “และผลสุดท้ายจะกระทบต่อเงินในกระเป๋าของพวกเราทุกคน”
เดอะการ์เดียนรายงานว่า รัฐบาลเม็กซิกันอ้างว่า การปรับขึ้นราคาน้ำมันในประเทศ ไปอยู่ที่ 15.99 เปโซต่อ 1 ลิตร(0.75 ดอลลาร์)ในกรุงเม็กซิโก ซิตี มีความจำเป็นสำหรับการชดเชยรายได้ที่หายไป ซึ่งเม็กซิโกต้องพึ่งพารายได้หลักจากการขายน้ำมัน
ซึ่งปัญหาการปล้นสะดมที่ยังมีต่อเนื่องทำให้ จากการรายงานของเอเอฟพี สมาพันแห่งชาติการให้บริการตัวเองและห้างสรรพสินค้าเม็กซิโก (The National Association of Self-Service and Department Stores) แถลงความเสียหายล่าสุดว่า มีร้านค้าในสังกัดร่วม 79 แห่งถูกปล้นสะดม และอีกกว่า 170 แห่งทั่วประเทศถูกปิดกั้นทางเข้าออก ซึ่งส่วนใหญ่เกิดขึ้นในรัฐเม็กซิโก กรุงเม็กซิโก ซิตี รัฐอีดัลโก (Hidalgo) และรัฐมิโชอากัง( Michoacan)
ทั้งนี้สำหรับรัฐเม็กซิโก ที่มีกรุงเม็กซิโก ซิตี ตั้งอยู่ในใจกลางของรัฐ ได้ออกแถลงการณ์ถึงการจับกุมกลุ่มผู้ประท้วงจำนวน 161 คน รวมไปถึงผู้เยาว์ 35 คน ในข้อหาที่ต่างกันไปตั้งแต่ การทำลายทรัพย์สินสาธารณะ รวมไปถึงการปล้นสะดมร้านค้าใน 6 เมือง
โดยแถลงการณ์ของรัฐเม็กซิโกอ้างว่า มีกลุ่มคนแอบใช้สถานการณ์ประท้วงต่อต้านการขึ้นราคาน้ำมัน ก่อเหตุปล้นสะดมและทำลายข้าวของ ซึ่งเอเอฟพีรายงานอ้างว่า มีภาพข่าวทางโทรทัศน์ แสดงให้เห็นประชาชนเม็กซิกันบนรถปิกอัพและมอเตอร์ไซด์กำลังขโมยของในร้านค้า
ด้านผู้ว่าการกรุงเม็กซิโก ซิตี มิเกล แองเจิล มานเซรา(Miguel Angel Mancera) ได้ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่น เทเลวิซา เน็ตเวิร์ก(Televisa network)ว่า มีร้านค้าจำนวน 23 แห่งภายในเมืองหลวงของเม็กซิโกถูกปล้นสะดม และมีการคุมตัวผู้ประท้วงก่อเหตุ 64 คน
ซึ่งพบว่ามีร้านค้าบางส่วนปิดให้บริการในช่วงบ่าย แต่ทว่าแพริเซีย เมอร์คาโด( Patricia Mercado) เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกรุงเม็กซิโก ซิตี ออกมาประกาศว่า “ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น” โดยเธอประกาศที่จะให้ตำรวจเม็กซิกันทำหน้าที่ป้องกันเหตุที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ด้านสำนักงานตำรวจรัฐบาลกลางเม็กซิโกออกแถลงการณ์ความคืบหน้าการประท้วงว่า พบมีการประท้วงเกิดขึ้นใหม่ และถนนทั่วประเทศ 20 แห่งถูกปิดกั้นในวันพุธ(4 ม.ค)
ในขณะที่ประธานาธิบดีเม็กซิโก เอ็นริเก เปญา นิเอโต ได้ออกมาปกป้องการตัดสินขึ้นราคาน้ำมัน 20% ในคราวเดียวของเขาว่า มีความจำเป็นเนื่องมาจากการเพิ่มราคาน้ำมันในตลาดโลก “ผมเข้าใจถึงความโกรธแค้นของประชาชนชาวเม็กซิกันส่วนใหญ่” แต่ยังยืนยันว่า หากไม่มีการเพิ่มราคาน้ำมัน จะยิ่งเป็นการส่งผลร้ายต่อเศรษฐกิจที่บอบบางของประเทศ
เอพีรายงานเพิ่มเติมว่า และในแถลงการณ์ ผู้นำเม็กซิโกยังสัญญาว่า จะหาทางช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนต่อกลุ่มที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักในการปรับขึ้นราคาครั้งนี้ ซึ่งเอพีระบุว่า หมายความรวมไปถึง คนขับรถบัส รถแท็กซี และรถบรรทุก
ทั้งนี้รัฐบาลเม็กซิกันชี้ว่า การขึ้นราคาน้ำมันเป็นก้าวแรก ก่อนจะปล่อยให้ราคาน้ำมันในเม็กซิโกลอยตัวในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งทางรัฐบาลเม็กซิกันอ้างว่า เป็นส่วนหนึ่งในการปฎิรูประบบพลังงานครั้งใหญ่ในประเทศ