xs
xsm
sm
md
lg

In Pics:รวมภาพฉลองคริสต์มาสทั่วโลก ตั้งแต่โป๊ปทำพิธีมิสซาคริสต์มาสอีฟไปจนถึงชอปปิ้งในเซี่ยงไฮ้ ซานต้าคลอสจากทั่วทุกมุมโลก ระทึก!! เยอรมันสั่งอพยพด่วน 54,000 วันนี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

กรุงวาติกัน
เอเจนซีส์ /MGRออนไลน์ - เมื่อวานนี้ (24 ธ.ค.) ทั่วโลกต่างเริ่มต้นการฉลองคริสต์มาสจากทั่วทุกทุมโลก ตั้งแต่การจูบพระบุตรในพิธีมิสซาคริสต์มาส กรุงวาติกัน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา พร้อมสุภาพสตรีหมายเลข 1 มิเชล โอบามา ออกมาส่งสารพร้อมมุกตลกให้กับประชาชนสหรัฐฯเป็นครั้งสุดท้าย ด้าน ควีนเอลิซาเบธ ทรงส่งกระแสพระราชดำรัสวันคริสต์มาส ร้องขอให้ประชาชนอังกฤษ พยายามต่อความสำเร็จที่เล็กแต่เปี่ยมไปด้วยความรักที่ยิ่งใหญ่ ในขณะที่ โป๊ปฟรานซิส ทรงประกาศท้าทายโลกทุนนิยม “คริสต์มาสถูกจับเป็นตัวประกัน” และสีสันการฉลองที่เต็มไปด้วยความรื่นเริง ตั้งแต่ชอปปิ้งรับคริสต์มาสในเมืองเซียงไฮ้ ไปจนถึงซานตาคลอสในเลบานอน สุดระทึกเยอรมันสั่งอพยพคนร่วม 54,000 ราย วันนี้ (25 ธ.ค.) จากเมืองอ็อกชบูร์ก (Augsburg) ให้ห่างรัศมีลูกระเบิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ของอังกฤษ

NBC NEWS รายงานภาพการฉลองทั่วโลกในวันคริสต์มาสอีฟ (24 ธ.ค.) ที่เป็นวันก่อนคริสต์มาส (25 ธ.ค.) ปรากฏภาพตั้งแต่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงเป็นผู้นำชาวคาทอลิกทั่วโลก ทำพิธีมิสซากลางกรุงวาติกัน ไปจนถึงการเฉลิมฉลองคริสต์มาสในทั่วทุกมุมโลก ตั้งแต่ตะวันออกกลาง ที่มีขบวนซานตาคลอสในชุดสีแดงออกมาแจกของขวัญ รวมไปถึงเหตุการณ์เขย่าขวัญที่ทางเยอรมันออกคำสั่งให้ประชาชนจากเมืองอ็อกชบูร์ก (Augsburg) ทางใต้ของประเทศ ออกจากบ้านในวันนี้ (25 ธ.ค.) หลังมีการพบลูกระเบิดสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 จากกองทัพอังกฤษ ซึ่งเป็นลูกระเบิดที่ยังไม่เกิดระเบิด

โดยในการทำพิธีมิสซาเมื่อวานนี้ (24 ธ.ค.) ที่มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงนำชาวคาทอลิกร่วม 1.2 พันล้านคนทั่วโลก เข้าสู่วันคริสต์มาส โดยสื่ออังกฤษเดอะการ์เดียน ชี้ว่า เป็นปีที่ 4 แล้วที่พระประมุขแห่งโฮลีซีเป็นผู้นำการทำพิธี

และในพระสารที่พระองค์ส่งไปยังชาวคริสต์ทั่วโลก โป๊ปฟรานซิสทรงตรัสเตือนให้คริสต์ศาสนิกชนอยู่ในความถ่อมตน ไม่ลุ่มหลงไปกับวัตถุ โดยองค์พระสันตะปาปาทรงตรัสว่า การฉลองคริสต์มาสทั่วโลกในปัจจุบันนี้ ล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วยของขวัญ การจัดงานเลี้ยง และการยึดถือแต่ตนเองเป็นศูนย์กลาง

“หากเราต้องการที่จะฉลองคริสต์มาสอย่างแท้จริง พวกเราต้องมองให้ทะลุไปถึงสัญลักษณ์นี้ ความเรียบง่ายที่ละเอียดอ่อนของทารกแรกเกิด ความต่ำต้อยของสิ่งด้านใต้พระเยซูที่ทรงนอนหลับไหลอยู่หลังประสูติ ความรักที่อ่อนโยนของผ้าอ้อมที่ห่อรัดร่างพระวรกายไว้ และที่นั่นพระเจ้าทรงประทับอยู่” สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสตรัสแถลง

สื่ออังกฤษรายงานต่อว่า ในพระสารของโป๊ปฟรานซิส พระองค์ได้ประกาศต่อชาวโลกว่า วันคริสต์มาสได้ถูกจับเป็นตัวประกันโดยโลกทุนนิยม หรือ ลัทธิวัตถุนิยม ที่ทำให้พระเจ้าต้องหลบอยู่แต่ในเงา และความมืดบอดต่อความต้องการของผู้ที่หิวโหย ผู้อพยพ และผู้ที่ต้องขื่นขมกับสงคราม

และนอกจากนี้ ในพระสารของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส พระองค์ยังทรงต้องการให้พระผู้เป็นเจ้า ซึ่งยังเป็นทารกแรกคลอดได้เป็นสัญลักษณ์ เตือนชาวโลกไปถึงเด็กต่างๆ ทั่วทุกมุมโลกที่ต้องอยู่ในศูนย์เลี้ยงเด็กกำพร้า หรือหลบอยู่ใต้ดินหนีภัยระเบิดในเมืองใหญ่ หรือ ต้องทนแออัดอยู่ใต้ท้องเรือที่เต็มไปด้วยผู้อพยพ เดอะการ์เดียนรายงาน

ด้าน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา และสุภาพสตรีหมายเลข 1 มิเชล โอบามา ได้ส่งสารฉลองวันคริสต์มาสไปพร้อมกับชาวอเมริกันในปีนี้เป็นครั้งสุดท้ายเป็นเวลา 4 นาที ในวันเสาร์ (24 ธ.ค.) โดยสื่อ NBC NEWS รายงานว่า ทางครอบครัวหมายเลข 1 ได้แสดงความขอบคุณต่อทหารสหรัฐฯที่กล้าหาญ รวมไปถึงยังกล่าวถึงนโยบายสำคัญที่โดดเด่นตลอดเวลา 8 ปี ของโอบามา ที่รวมไปถึง โอบามาแคร์ และนโยบายสำคัญ เช่น การแต่งงานของเพศที่ 3 เป็นต้น

และในแถลงการณ์ มิเชล โอบามา ซึ่งอยู่ในชุดสีม่วงที่มีดอกไม้ประดับ ได้แสดงความรู้สึกว่า “การสามารถเฉลิมฉลองเทศกาลในทำเนียบขาวตลอดช่วงระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา ถือเป็นเกียรติอย่างแท้จริง” และกล่าวต่อว่า “พวกเราได้มีโอกาสต้อนรับแขกจากทั่วทุกมุมโลกกว่าครึ่งล้าน และเชฟฝีมือยอดจากทำเนียบขาวได้แสดงฝีมือทำการอบคุกกี้เทศกาลร่วม 200,000 ชิ้น และบารัคยังโอกาสแสดงมุกตลกฝืดๆ ที่พ่อชาวอเมริกันมักชอบใช้ กับพวกเราชาวอเมริกันในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา”

ซึ่งในวิดีโอคลิป โอบามา ผู้นำสหรัฐฯ ได้ประกาศว่า ในฐานะตัวแทนของครอบครัวโอบามา เขาขอให้ประชาชนชาวอเมริกันทุกคนมีความสุขในวันคริสต์มาส และเขาได้รอคอยถึงวันปีใหม่ที่จะมาถึง พร้อมขอให้ชาวอเมริกันทุกคนยังคงยึดถือต่อค่านิยมของความเป็นอเมริกันชนที่มีร่วมกัน ซึ่งในแถลงการณ์นี้ โอบามาได้ประกาศโดยอ้างอิงไปถึง “brother's keeper” ซึ่งเป็นคำกล่าวในคัมภีร์ไบเบิล บทเจนนิซิส โดยทั้ง โอบามาและสุภาพสตรีหมายเลข 1 แห่งอเมริกาประกาศว่า “พวกเราคือ “brother's keeper””

ด้าน สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษ ได้ทรงออกกระแสพระราชดำรัสเนื่องในเทศกาลคริสต์มาส เมื่อวานนี้ (24 ธ.ค.) โดยทรงตรัสชื่นชมต่อผู้กล้าหาญที่ไม่ได้รับการเปิดเผย จากการรายงานของสื่อออสเตรเลีย 9news

โดยในการพระราชทานสารวันคริสต์มาสประจำปีนี้ สมเด็จพระราชินีนาถที่ทรงอยู่ในชุดฉลองพระองค์สีฟ้า สื่ออออสเตรเลีย รายงานว่า พระองค์ทรงร้องขอให้ในปีนี้พลเมืองอังกฤษพยายามต่อความสำเร็จที่เล็ก แต่เปี่ยมไปด้วยความรักที่ยิ่งใหญ่ โดยพระองค์ตรัสว่า “ข้าพเจ้ามักได้รับความเข้มแข็งจากการพบปะผู้คนในช่วงสถานการณ์ที่ไม่ธรรมดาต่างกันออกไป เป็นต้นว่า อาสาสมัคร ผู้ดูแล ผู้จัดการชุมชน และและผู้อาศัยในชุมชน โดยผู้กล้าหาญที่ไม่เคยได้รับเหรียญแห่งเกียรติยศเหล่านี้ได้ทุมเทตัวเองอย่างเงียบๆ และทำให้พวกเขาเป็นล้วนเป็นคนพิเศษ”

โดย สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงตรัสว่า คนต่างๆ ที่พระองค์กล่าวมาได้กลายเป็นแรงบันดาลใจต่อผู้พบเห็น โดยพระองค์ทรงยืนยันว่า แม้ว่าชาวอังกฤษทุกคนจะไม่ได้มีโอกาสเสมอไปที่จะสามารถทำในสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้ แต่ทว่าทุกคนสามารถพยายามทำในสิ่งเล็กๆ แต่เปี่ยมไปด้วยความรักได้แทน”

นอกจากความรื่นเริงเทศกาลคริสต์มาสแล้ว ยังมีเรื่องชวนเขย่าขวัญเกิดขึ้น โดย เดลิเมล สื่ออังกฤษรายงานวันนี้ (25 ธ.ค.) ว่า เมืองอ็อกชบูร์ก (Augsburg) ทางใต้ของเยอรมัน ต้องออกคำสั่งอพยพประชาชนชาวเมืองจำนวนไม่ต่ำกว่า 54,000 คน ออกไปจากบ้านเรือนในวันคริสต์มาส (25 ธ.ค.) เพื่อให้ห่างรัศมีลูกระเบิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ของอังกฤษที่ยังไม่ระเบิด

โดยการอพยพเกิดขึ้นในระยะรัศมีโดยรอบ 1 ไมล์ จากจุดเกิดเหตุ และกระทบราว 32,000 ครอบครัว ภายในบริเวณนี้ ซึ่งลูกระเบิดที่ถูกค้นพบเป็นของทางอากาศของกองทัพอากาศอังกฤษ RAF น้ำหนัก 1.8 ตัน โดยเดลิเมลชี้ว่า ถูกพบบริเวณเขตก่อสร้าง

ด้านตำรวจเมืองอ็อกชบูร์ก แถลงว่า คำสั่งอพยพจะเริ่มต้นขึ้นในเวลา 8.00 น. และพื้นที่ควบคุมจะถูกทำให้ปลอดภัยจากลูกระเบิดภายในเวลา 10.00 น. ของวันอาทิตย์ (25 ธ.ค.) นอกจากนี้ ศูนย์กีฬาและโรงเรียน และศูนย์นิทรรศการในบริเวณใกล้เคียงจะถูกเปิดใช้งานเป็นศูนย์พักพิงชั่วคราวสำหรับผู้ที่ไม่มีสามารถไปพักกับญาติ หรือคนรู้จักได้

ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เยอรมัน เปิดเผยว่า การเลือกวันคริสต์มาสเป็นวันเก็บกู้ระเบิดเพื่อต้องการให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด

ทั้งนี้ เดลิเมล ระบุว่า เมืองแห่งนี้ถูกกองทัพอากาศอังกฤษโจมตีในวันที่ 25 - 26 กุมภาพันธ์ 1944 ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
เลบานอน
เบลารุส
อิรัก
เยอรมัน
สหรัฐฯ
ฮ่องกง
ปากีสถาน
เมืองเซียงไฮ้ จีน
สหรัฐฯ
กรุงวาติกัน



กำลังโหลดความคิดเห็น