เอเจนซีส์ - เมื่อวานนี้ (20 ธ.ค.) ตำรวจเยอรมนีปล่อยตัวผู้ต้องสงสัย ผู้อพยพชาวปากีสถาน นาวิด บี (Navid B) วัย 23 ปี หลังไม่พบความเชื่อมโยง พร้อมประกาศล่าตัวกลุ่มคนร้ายตัวจริงที่อยู่เบื้องหลัง เชื่ออาจมีอาวุธ ด้านกลุ่มก่อการร้าย IS ออกมาอ้างความรับผิดชอบ แต่ไม่แสดงหลักฐานประกอบ ล่าสุดนายกเทศมนตรีกรุงเบอร์ลินแถลงเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย
บีบีซี สื่ออังกฤษรายงานวันนี้ (21 ธ.ค.) ว่า นาวิด บี (Navid B) วัย 23 ปี ผู้อพยพชาวปากีสถานถูกตำรวจเยอรมันปล่อยตัวในวันอังคาร (20) หลังไม่พบความเชื่อมโยงในการก่อเหตุรถบรรทุกเหล็กก่อสร้างเอชบีมพุ่งชนตลาดคริสต์มาสจนทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 ราย และบาดเจ็บ 48 รายในวันจันทร์ (19) ที่ผ่านมา
ล่าสุด ทางเยอรมนีแถลงว่า อยู่ในระหว่างการตามล่าตัวคนร้ายที่อาจมีมากกว่า 1 คนที่อยู่ในระหว่างการหลบหนี และอาจมีอาวุธ
นอกจากนี้พบว่า เยอรมนีได้ประกาศใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดเพิ่มมากขึ้นหลังจากเกิดเหตุ โดยเมื่อวานนี้ (20) บี ผู้ต้องสงสัยชาวปากีสถานเข้าเมืองเยอรมนีได้ปฏิเสธความเกี่ยวข้องใดๆ ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด โดยทางตำรวจเยอรมนีแถลงว่า ไม่พบหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์สามารถเชื่อมโยงระหว่างชายผู้นี้และรถบรรทุกในที่เกิดเหตุได้ โดยบีบีซีชี้ว่า ทางตำรวจเยอรมนีแสดงความไม่มั่นใจแต่แรกหลังจากบีถูกควบคุมตัวในฐานะผู้ต้องสงสัย
และมีรายงานว่า กลุ่มก่อการร้าย IS ออกมาอ้างความรับผิดชอบผ่านแถลงการณ์ทางสำนักข่าวอามาค นิวส์ (Amaq news) ของสื่อก่อการร้าย
โดยในแถลงการณ์ระบุว่า หนึ่งในนักรบของทางกลุ่มเป็นผู้ลงมือตามคำประกาศของ IS ที่เรียกร้องให้ลงมือโจมตีประเทศพันธมิตรในการทำสงครามต่อต้านก่อการร้ายร่วมกับอเมริกา แต่ทว่าไม่แสดงหลักฐานประกอบว่าทาง IS เป็นผู้อยู่เบื้องหลังจริงหรือไม่ สื่ออังกฤษชี้ต่อ
และหลังจากการปล่อยตัวผู้ต้องสงสัยคนสำคัญในวันอังคาร (20) แล้ว ตำรวจเยอรมนีออกมายอมรับกับสื่อเมืองเบียร์ว่า กลุ่มผู้ที่อยู่เบื้องหลังกับเหตุการณ์ก่อการร้ายยังคงอยู่ในระหว่างคการหลบหนี โดยรัฐมนตรีมหาดไทยเยอรมนี โทมัส เดอ ไมซ์ซิเออร์ (Thomas de Maiziere) แถลงว่า “จะไม่มีใครหยุดพักจนกว่าคนร้าย หรือกลุ่มคนร้ายยังไม่ได้ถูกจับกุม”
และในช่วงเย็นของวันอังคาร (20) มีการทำพิธีวิจิล (vigil) จุดเทียนไว้อาลัยต่อผู้เสียชีวิตที่โบสถ์ไกเซอร์ วิลเฮล์ม (Kaiser Wilhelm Memorial Church)
ในขณะเดียวกัน มิชาอิล มุลเลอร์ (Michael Mueller) นายกเทศมนตรีกรุงเบอร์ลินได้ออกแถลงการณ์ถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงมีทั้งจำนวนเจ้าหน้าที่ตำรวจและรั้วรักษาความปลอดภัยปรากฏ โดยยืนยันว่าชาวเบอร์ลินควรอยู่ในการระมัดระวัง
“ในเวลานี้ขอให้ทุกคนระมัดระวัง และอยู่ในความไม่ประมาทต่อสถานการณ์ แต่ทว่าทุกคนยังสามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติในเมืองแห่งนี้โดยที่ไม่ต้องตื่นตกใจ” มุลเลอร์แถลง