รอยเตอร์ - กองกำลังความมั่นคงจอร์แดน ปลิดชีพผู้ก่อการร้าย 4 คน ซึ่งหลบหนีเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในปราสาทเก่าแก่ที่เมืองคารัก (Karak) ทางตอนใต้ หลังยิงสังหารผู้คนเสียชีวิตไป 9 ศพ เมื่อวานนี้ (18 ธ.ค.)
ทางการจอร์แดนแถลงว่า ผู้ก่อเหตุ 4 คน ซึ่งมีปืนอัตโนมัติเป็นอาวุธได้เปิดฉากยิงใส่ตำรวจภายในเมือง ก่อนจะหลบหนีขึ้นไปบนปราสาทโบราณยุคสงครามครูเสด โดยเจ้าหน้าที่ยังสามารถยึดวัตถุระเบิด อาวุธ และเข็มขัดระเบิดฆ่าตัวตายได้จากสถานที่ซ่อนตัวของพวกเขาด้วย
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ยังไม่เปิดเผยตัวตนของคนร้าย และไม่มีการระบุว่าพวกเขาสังกัดกลุ่มก่อความไม่สงบใด จึงคาดกันว่า น่าเป็นพวกชนเผ่านอกกฎหมายที่ต้องการแก้แค้นรัฐบาลมากกว่ากลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ซึ่งแผ่อิทธิพลอยู่ในหลายเมืองของอิรักและซีเรีย
การยิงปะทะระหว่างคนร้ายและเจ้าหน้าที่ความมั่นคงเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตรวม 9 คน ประกอบด้วย นักท่องเที่ยวหญิงชาวแคนาดา 1 คน, พลเรือน 3 คน และตำรวจอีก 5 นาย นอกจากนี้ ยังมีผู้บาดเจ็บอีกอย่างน้อย 29 คน บางรายอาการสาหัส
โมฮัมหมัด อัล-โมมานี โฆษกรัฐบาลจอร์แดน ได้แถลงก่อนหน้านั้นว่า ปฏิบัติการ “กำจัด” กลุ่มก่อการร้ายใกล้จะยุติลงแล้ว พร้อมระบุว่าที่ตั้งของจอร์แดนทำให้สุ่มเสี่ยงต่อการตกเป็นเป้าหมายของกลุ่มก่อความไม่สงบ
“เมื่อเราอยู่ในภูมิภาคที่ร้อนระอุด้วยไฟสงครามจากทุกด้าน เหตุการณ์ลักษณะนี้ก็อาจจะเกิดขึ้นได้” เขากล่าว
ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า เจ้าหน้าที่ความมั่นคงจอร์แดนยิงต่อสู้กับคนร้ายอยู่นานหลายชั่วโมง ขณะที่ตำรวจระบุว่ามีนักท่องเที่ยว 10 คนติดอยู่ภายในปราสาทขณะที่คนร้ายบุกเข้าไป ทว่าทั้งหมดได้รับการช่วยเหลือออกมาอย่างปลอดภัย
ปราสาทโบราณแห่งนี้เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของจอร์แดน
ซามีเยห์ มัยทาห์ อดีตรัฐมนตรีคนหนึ่งจากเมืองคารัก ระบุว่า มีข้อมูลบ่งชี้ว่ากลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์อาจอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้
“นี่เป็นกลุ่มที่กำลังวางแผนปฏิบัติการอะไรบางอย่างในจอร์แดน” มันทาห์ ให้สัมภาษณ์ต่อสถานีโทรทัศน์ อัล-ฮาดาธ
คลิปวิดีโอที่เผยแพร่ทางโซเชียลมีเดียเผยให้เห็นเจ้าหน้าที่ความมั่นคงจอร์แดนพานักท่องเที่ยวหนุ่มสาวจากเอเชียเดินขึ้นบันไดสูงชันของปราสาทเพื่อกลับไปยังประตูทางเข้าหลัก ท่ามกลางเสียงปืนที่ดังขึ้นเป็นระยะ
นายกรัฐมนตรี ฮานี อัล มุลกี แห่งจอร์แดน ได้แจ้งต่อรัฐสภาว่า “มีบุคลากรด้านความมั่นคงเสียชีวิตไปหลายนาย” ขณะที่รัฐบาลแคนาดาก็ยืนยันว่ามีพลเมืองของตนเสียชีวิต 1 คน
ตำรวจจอร์แดน ระบุว่า มือปืนกลุ่มนี้เดินทางมาจากเมืองกอตราเนห์ (Qatraneh) ซึ่งเป็นเมืองกลางทะเลทราย ห่างจากคารักไปทางตะวันออกเฉียงเหนือเกือบ 30 กิโลเมตร เมืองแห่งนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งกบดานของพวกขนสินค้าผิดกฎหมาย และชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นชนเผ่าติดอาวุธที่ต่อต้านการปกครองของรัฐมานานแล้ว
จอร์แดนเป็นหนึ่งในรัฐอาหรับไม่กี่ประเทศที่ร่วมมือกับสหรัฐฯ โจมตีทางอากาศในซีเรียเพื่อกวาดล้างกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม
อย่างไรก็ดี ชาวจอร์แดนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยที่รัฐบาลเข้าไปพัวพันกับปฏิบัติการดังกล่าว เพราะเป็นการเข่นฆ่าพี่น้องมุสลิมด้วยกันเอง และยังทำให้ประเทศเสี่ยงภัยความมั่นคง