มาร์เก็ตวอตช์/เอเอฟพี - ราคาน้ำมันร่วงแรงเกือบ 2 ดอลลาร์เมื่อวันพุธ (14 ธ.ค.) ปิดลบเป็นครั้งแรกในรอบ 5 วัน หลังพบกำลังผลิตของโอเปกเพิ่มขึ้น กระพือความสงสัยเกี่ยวกับข้อตกลงลดผลิต ส่วนวอลล์สตรีทดิ่งหนัก หลังเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยและส่งสัญญาณว่าปีหน้าจะขยับขึ้นในอัตรารวดเร็วกว่าที่คาดหมาย
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือ ไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 1.94 ดอลลาร์ ปิดที่ 51.04 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 1.82 ดอลลาร์ ปิดที่ 53.90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ ระบุว่า คลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศ ลดลง 2.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 9 ธันวาคม
อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันถูกกดดันจากรายงานประจำเดือนของโอเปก และการตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในช่วงบ่ายวันพุธ (14 ธ.ค.)
รายงานของโอเปกพบว่า กำลังผลิตของเหล่าสมาชิกกลุ่มเพิ่มเป็น 33.87 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือนพฤศจิกายน ตัวเลขดังกล่าวบ่งชี้ว่าทางกลุ่มจะต้องลดกำลังผลิตมากกว่าแผนเดิมที่วางเอาไว้ 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพื่อบรรลุเป้าหมายเหลือกำลังผลิต 32.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมเป็นต้นไป
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันพุธ (14 ธ.ค.) ขยับลงต่ำสุดในรอบ 2 เดือน หลังจากธนาคารกลางอเมริกา (เฟด) ปรับขึ้นดอกเบี้ยราว 0.25 เปอร์เซ็นต์ และส่งสัญญาณว่าจะขยับขึ้นในอัตรารวดเร็วกว่าที่คาดหมายในปีหน้า
ดาวโจนส์ ลดลง 118.68 จุด (0.60 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 19,792.53 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 18.44 จุด (0.81 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 2,253.28 จุด แนสแดค ลดลง 27.16 จุด (0.50 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,436.67 จุด
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC ) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ ลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับ 0.5 ถึง 0.75 เปอร์เซ็นต์ แต่ย้ำถึงความคาดหมายที่ว่าเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่ที่สุดแห่งนี้ยังจำเป็นต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป
มติดังกล่าวเป็นไปตามที่คาดหมาย แต่เวลานี้พวกเหล่านายธนาคารคาดหมายว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 3 ครั้งในปี 2017 จากเดิมที่คาดกันว่าจะมีการปรับขึ้นแค่ 2 ครั้ง ความเคลื่อนไหวนี้กระตุ้นให้นักลงทุนขายทำกำไร
นอกจากนี้แล้ว วอลล์สตรีทยังถูกฉุดโดยหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบสหรัฐฯร่วงลงอย่างหนัก
ส่วนทองคำตลาดโคเม็กซ์ในวันพุธ (14 ธ.ค.) เพิ่มขึ้น 4.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,163.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ปรับตัวลงในการซื้อขายทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยซื่อขายอยู่ราวๆ 1,156.20 ดอลลาร์ จากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น หลังเฟดออกถ้อยแถลงปรับขึ้นดอกเบี้ย