เอเอฟพี - ชัยชนะของ โดนัลด์ ทรัมป์ ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ทำให้ทั่วโลกตะลึงและวิตกกังวลในวันพุธ (9 พ.ย.) เกี่ยวกับผลกระทบสำหรับทุกอย่าง ตั้งแต่เรื่องการค้าไปจนถึงสิทธิมนุษยชน รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ
มหาเศรษฐีจอมโวรายนี้ ชนะ ฮิลลารี คลินตัน ด้วยผลการแข่งขันที่มีน้อยคนจะเดาถูก ขณะที่ผู้ลงคะแนนชาวอเมริกันนับล้านกลับไม่สนใจจะกังวลในเรื่องความเจ้าอารมณ์ การขาดประสบการณ์ ข้อกล่าวหาเกี่ยวกับเรื่องการละเมิดทางเพศ และการเหยียดเชื้อชาติของทรัมป์
การผงาดขึ้นมาของทรัมป์ถูกจับตาจากต่างชาติ เพราะเขาหาเสียงไว้ว่าจะทิ้งข้อตกลงการค้า, ตั้งคำถามต่อชาติพันธมิตร, จำกัดการอพยพ รวมถึงไม่ไยดีต่อเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ
ผู้ชมทั่วเอเชียที่ติดตามการเลือกตั้งสหรัฐฯ พากันแสดงความวิตกที่ทรัมป์กุมบังเหียนชาติที่ทรงอำนาจที่สุดของโลก
เดียนิตา ซูกิโย อาจารย์มหาวิทยาลัยในอินโดนีเซีย วัย 34 ปี ระบุถึงความกังวลว่า ทรัมป์อาจจะสั่งแบนชั่วคราว ต่อชาวมุสลิมจากประเทศที่มีประวัติเกี่ยวกับก่อการร้าย
“เขาเป็นพวกต่อต้านมุสลิมมาโดยตลอด ฉันเกรงว่าเขาจะกีดกันแบ่งแยกต่อชาวมุสลิม อเมริกาเป็นประเทศที่มีหลากหลายวัฒนธรรม แล้วก็มีชาวมุสลิมอยู่ที่นั่นจำนวนมาก ดังนั้น นี่จึงเป็นเรื่องที่น่าหวั่นเกรง” ซูกิโย กล่าว
ผลการเลือกตั้งที่ไม่ดีต่อการค้าเสรี ยังทำให้ตลาดการเงินทั่วเอเชียพากันร่วงอย่างหนัก ดัชนีหลักของโตเกียวร่วงไปกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ตลาดซื้อขายล่วงหน้าในอเมริกาและตลาดยุโรปล้วนพากันร่วงเช่นกัน ทันทีที่มีการเปิดตลาด
“โลกอยู่ในยุคโลกาภิวัตน์ หากอเมริกาซึ่งเป็นหนึ่งในชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจคิดจะก่อกำแพงกั้น ผมก็มองไม่เห็นผลดีต่อเศรษฐกิจโลก มันจะถ่วงการเติบโตทางเศรษฐกิจ เขาเป็นนักธุรกิจ เขาควรจะรู้ดี" กล่าวโดย คลาริตา คาร์ลอส นักรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยฟิลิปปินส์
ทรัมป์ ได้ลั่นวาจาไว้ว่า จะเขี่ยทิ้งข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก อันเป็นมรดกที่ประธานาธิบดี บารัค โอบามา หลงเหลือไว้ให้แก่ประเทศในภูมิภาคดังกล่าว
ตัง เสี่ยว มุน หัวหน้าศูนย์ศึกษาอาเซียน จากสถาบันในสิงคโปร์ ระบุว่า ความเคลื่อนไหวแบบนั้นจะสร้างความเสียหายให้แก่อเมริกาอย่างมาก ในภูมิภาคที่จีนกำลังท้าทายความเป็นผู้นำเพิ่มมากขึ้น
ด้านนักสิ่งแวดล้อมก็พากันสยองเช่นกัน เพราะทรัมป์เคยขู่ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะยกเลิกการมีส่วนร่วมในข้อตกลงของยูเอ็นที่ทำไว้เมื่อปีที่แล้ว เรื่องรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ
“แล้วเราจะเป็นอย่างไร ในเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ มันเห็นได้ชัดเจนว่าส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อสิ่งที่ข้อตกลงปารีสได้ให้ไว้กับเรา” เยบ ซาโน ผู้อำนวยการกรีนพีซเซาต์อีสต์เอเชีย กล่าว
ที่บริเวณการจัดงานติดตามผลเลือกตั้งทั่วภูมิภาคเอเชีย บรรดาชาวอเมริกันที่เป็นผู้สนับสนุนของพรรคเดโมแครต ล้วนพากันห่อเหี่ยว เมื่อชัยชนะของทรัมป์เริ่มก่อตัวเป็นรูปเป็นร่าง ส่วนทางฝั่งชาวรีพับลิกันนั้นลิงโลดกันอย่างไม่ต้องสงสัย
แบรดลีย์ จอร์แดน ชาวแคลิฟอร์เนียวัย 59 ปี กล่าวขณะอยู่ในกรุงเทพฯ ว่า ชัยชนะของทรัมป์จะทำให้โลกทั้งใบพลิกกลับตาลปัตร
“มันเป็นเรื่องที่อันตรายมากสำหรับโลกใบนี้ หากทรัมป์ชนะ เราจะไม่ทำอะไรในเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ แล้วโลกเราก็จะวายป่วง ผมไม่อยากเชื่อเลยว่ามันกำลังจะเกิดขึ้นในตอนนี้” จอร์แดน กล่าว
ขณะเดียวกัน แม้กระทั่งชาวรีพับลิกันบางรายที่ติดตามการเลือกตั้งอยู่ในฮ่องกง ก็ยังแปลกใจที่ทรัมป์ชนะ แต่เชื่อว่า หลังช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่าน ความวิตกไม่แน่นอนจะสงบลง
นอกจากนี้ ด้วยการแสดงความเห็นของทรัมป์ที่ไปในทิศทางเดียวกับประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ถือเป็นข้อบ่งชี้ว่า อเมริกาอาจจะไม่มุ่งเน้นให้ความสำคัญในเรื่องสิทธิมนุษยชนอีกแล้ว