มาร์เก็ตวอตช์/เอเอฟพี - ราคาน้ำมันปิดลบต่อเนื่อง แตะระดับต่ำสุุดในรอบ 5 สัปดาห์เมื่อวันพุธ (2 พ.ย.) หลังข้อมูลรัฐบาลสหรัฐฯ เผยสต๊อกเชื้อเพลิงพุ่งกว่า 14 ล้านบาร์เรล ส่วนวอลล์สตรีทขยับลงและทองคำพุ่งแรงกว่า 20 ดอลลาร์ จากความไม่แน่นอนของศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกา
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนธันวาคมลดลง 1.33 ดอลลาร์ ปิดที่ 45.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมกราคมลดลง 1.28 ดอลลาร์ ปิดที่ 46.86 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำสุดนับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกันยายนเช่นกัน
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (อีไอเอ) รายงานในวันพุธ (2 พ.ย.) ว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 28 ตุลาคมเพิ่มขึ้นถึง 14.4 ล้านบาร์เรล นับเป็นการเพิ่มขึ้นรายสัปดาห์มากที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกมา ผิดกับที่นักวิเคราะห์คาดหมายว่าจะเพิ่มขึ้นแค่ราวๆ 1.9 ล้านบาร์เรล
ทางด้านสถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน (API) ระบุว่า สต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 9.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ การผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นของสมาชิกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ก็เป็นอีกปัจจัยที่กดดันตลาด
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพุธ (2 พ.ย.) ขยับลงเล็กน้อย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากรีพับลิกัน จะพลิกชนะศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกา
ดาวโจนส์ลดลง 77.46 จุด (0.43 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,959.64 จุด เอสแอนด์พีลดลง 13.78 จุด (0.65 เเปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,097.94 จุด แนสแดคลดลง 48.01 จุด (0.93 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,105.57 จุด
หุ้นกลุ่มพลังงานต่างปิดลบถ้วนหน้า หลังคลังน้ำมันสำรองของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่อะเมซอนและอัลฟาเบท บริษัทแม่ของกูเกิล เป็นหนึ่งในกลุ่มเทคโนโลยีที่ขยับลงในวันพุธ (2 พ.ย.)
ความเคลื่อนไหวในทางลบของวอลล์สตรีทมีขึ้นหลังจากผลสำรวจความคิดเห็นใหม่บ่งชี้ว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากรีพับลิกันอาจชนะเลือกตั้งประธานาธิบดี ผลลัพธ์ที่กระพือความกังวลในตลาดการเงิน
การขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของนางฮิลลารี คลินตัน ตัวแทนจากเดโมแครต เป็นตัวเลือกที่ตลาดชื่นชอบมากกว่านายทรัมป์ ส่วนหนึ่งเพราะเขาวิพากษ์วิจารณ์นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางอเมริกา (เฟด) อย่างดุเดือด เช่นเดียวกับข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศ
ศึกชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีที่คู่คี่สูสี เบี่ยงเบนความสนใจของนักลงทุนจากปัจจัยอื่นๆ ในนั้นรวมถึงการมติคงดอกเบี้ยไว้ตามเดิมและพุ่งเป้าไปที่การปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
ความไม่แน่นอนของศึกเลือกตั้งสหรัฐฯ และดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง กระตุ้นให้นักลงทุนแห่ถือครองสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ และดันทองคำพุ่งแรงเมื่อวันพุธ (2 พ.ย.) โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 20.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,308.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์