เอเจนซีส์ - ประธานาธิบดีพัค กึน-ฮเย แห่งเกาหลีใต้ มีคำสั่งเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีสำคัญอีก 2 คนในวันนี้ (2 พ.ย.) โดยหวังบรรเทาผลกระทบจากเหตุอื้อฉาวทางการเมืองที่พัวพันโดยตรงกับเพื่อนหญิงคนสนิทของเธอเอง
การเปลี่ยนตัวเจ้าหน้าที่ระดับสูงครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนปรับคณะรัฐมนตรี เพื่อดึงคนจากหลากหลายพรรคมาสร้างเป็นคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ที่ดู “เป็นกลาง” มากยิ่งขึ้น ท่ามกลางกระแสข่าวทุจริตที่ทำให้ชาวโสมขาวเริ่มหมดศรัทธาในตัวประธานาธิบดีและรัฐบาลชุดปัจจุบัน
พัค กำลังเผชิญมรสุมทางการเมืองลูกใหญ่ หลังมีข้อครหาว่าเธอปล่อยให้เพื่อนหญิงคนสนิทที่ไม่มีตำแหน่งในรัฐบาลเข้ามาก้าวก่ายการบริหารประเทศ รวมถึงการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีด้วย
ชอย ซุน-ซิล ซึ่งเป็นเพื่อนผู้รู้ใจ พัค มานานถึง 40 ปี ถูกอัยการสั่งกักตัวฉุกเฉิน 48 ชั่วโมงเพื่อสอบปากคำเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับผู้นำหญิง รวมไปถึงข้อหาที่ว่าเธอใช้อิทธิพลก้าวก่ายการเมือง และฉ้อโกง
โฆษกประธานาธิบดีแถลงว่า นายกรัฐมนตรีฮวาง เคียว-อันห์ ถูกปลดออกจากตำแหน่ง “เนื่องด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน” ส่วนรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง และรัฐมนตรีกระทรวงความปลอดภัยสาธารณะ ก็ถูกเปลี่ยนตัวเช่นกัน
ผู้ที่เข้ามารับตำแหน่งนายกฯ คนใหม่ ได้แก่ คิม บยอง-จุน ซึ่งเคยเป็นผู้ช่วยคนสนิทของอดีตประธานาธิบดี โรห์ มู-ฮยุน
นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้เป็นตำแหน่งที่มีบทบาทในเชิงสัญลักษณ์เท่านั้น เนื่องจากอำนาจบริหารทั้งหมดอยู่ในมือของประธานาธิบดี
กระแสข่าวที่ว่า ชอย เป็นผู้ตรวจทานสุนทรพจน์ของประธานาธิบดี และยังสามารถเข้าถึงเอกสารชั้นความลับทั้งที่ไม่มีตำแหน่งในรัฐบาล ทำให้ พัค ซึ่งเป็นผู้นำหญิงคนแรกของเกาหลีใต้ถูกสังคมตำหนิอย่างรุนแรง และยังส่งผลให้คะแนนนิยมของเธอร่วงดิ่งเหวในช่วงปีสุดท้ายของการบริหารประเทศ
ประธานาธิบดีพัค ได้แถลงข่าวขออภัยต่อประชาชนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และยอมรับว่าที่ผ่านมาได้ขอคำแนะนำ “นิดหน่อย” จาก ชอย เวลาร่างสุนทรพจน์
ชอย วัย 60 ปี เป็นบุตรสาวของ ชอย แต-มิน ผู้นำลัทธิที่ชื่อว่า “โบสถ์แห่งชีวิตหลังความตาย” (Church of the Afterlife)
ชอย แต-มิน ผู้นี้อ้างว่าสามารถติดต่อกับมารดาของ พัค ที่ถูกลอบสังหารไปเมื่อปี 1974 และเป็นที่ปรึกษาให้แก่ พัค มานาน จนเขาเสียชีวิตลงในปี 1994 ทว่าความสนิทชิดเชื้อก็ได้ถูกสืบทอดต่อมาจนถึงรุ่นลูกคือ ชอย ซุน-ซิล
สื่อเกาหลีใต้อ้างถึง ชอย ซุน-ซิล ว่าเป็นเสมือน “รัสปูติน” ที่มีอิทธิพลอย่างสูงต่อความคิดจิตใจของประธานาธิบดี พัค เช่นเดียวกับที่พ่อของเธอเคยเป็น
พัค พยายามกลบเสียงวิจารณ์จากหลายฝ่าย โดยให้สัญญาว่าจะแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ที่มีคนจากพรรคการเมืองอื่นๆ เข้าร่วม นอกเหนือไปจากพรรครัฐบาลแซนูรีของเธอเอง